.........ขยับตัวกันแรงอีกทีกับประเด็น “เสื้อบอล” หรือ “ชุดแข่งขัน”ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
ปีหน้าจะเป็นของใครระหว่าง “เจ้าเก่า” นิว บาลานซ์ หรือว่า “เจ้าใหม่” ไนกี้ ที่เป็นข่าวมานานนับปี
ประเด็นถูกจุดขึ้นมาวันนี้ว่า “นิว บาลานซ์” ที่ทำตัวเป็นพระอิฐพระปูนอยู่นาน ได้ออกแถลงการณ์ว่า “ปีหน้าจะทำงานกับ ลิเวอร์พูล ต่อไป”
เป็นการขยับตัวหนแรก เหมือนกับที่ผ่านมา โดนต่อยอยู่ข้างเดียว
เพราะมีแต่ข่าวปูดออกมาตลอดว่า “ไนกี้” มอบข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจกว่า ในราคา 70 ล้านปอนด์ต่อปี แต่ นิว บาลานซ์ มีสิทธิ์ที่จะสู้ในราคาที่เท่ากันตามสัญญาเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น “เดลี่เมล์” รายงานย้ำอีกแผลว่า “ไนกี้” พร้อมจะจ่ายได้ถึง 80 ล้านปอนด์ เพื่อให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นไปยืนเป็น “เบอร์ 1” ของเกาะอังกฤษทันที
ตอนนี้ทีมที่รับมากสุดคือ แมนฯยูไนเต็ด 75 ล้านปอนด์ต่อปีเป็นเงินจาก อาดิดาส
มีคนมาวนเวียนแถวแอนฟิลด์มากมาย ตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส ที่ผ่านมา ได้มีขาใหญ่อย่าง อาดิดาส และ พูม่า เข้ามาเจรจากับ ลิเวอร์พูล ก่อนที่สุดท้าย ไนกี้ มาแรงสุดๆ ส่วน นิว บาลานซ์ สัญญาเดิมจะหมดในเดือนพฤษภาคมปีหน้า หรือ 2020 โดยปัจจุบันตัวเลขจ่ายให้หงส์แดง 45 ล้านปอนด์ต่อปี
จากการที่ยอดการจำหน่ายเสื้อของ ลิเวอร์พูล แรงไม่หยุดมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และทำท่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตลาดหันมาหาแชมป์ยุโรปแห่งแอนฟิลด์
ฟุตบอลอังกฤษในปีนี้ อาดิดาส ยังคงเป็นแชมป์ตรงนี้เช่นเดิม เมื่อเป็นผู้ให้การสนับสนุน 6 ทีม ขณะที่ ไนกี้ เสียท่าเมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลุดมือไปอยู่กับ พูม่า ทำให้ทั้ง ไนกี้ และพูม่า ดูแลเท่ากันคือ 3 ทีม เท่ากับ อัมโบร ที่เหลือ 3 ทีมเพราะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ตกชั้น
แบรนด์ปีนี้รวม 8 ยี่ห้อ จาก 20 ทีมพรีเมียร์ลีก
อาดิดาส : อาร์เซนอล, เลสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, วัตฟอร์ด, วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
แคปป้า : แอสตัน วิลล่า
อัมโบร : บอร์นมัธ, เบิร์นลี่ย์, เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม
ไนกี้ : ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน, เชลซี, ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์
พูม่า : คริสตัล พาเลซ, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
นิว บาลานซ์ : ลิเวอร์พูล
เออร์เรีย : นอริช ซิตี้
อันเดอร์ อาร์มอร์ : เซาแธมป์ตัน
แต่ละทีมนั้นราคาต่อตัว ไม่ต่ำกว่า 2,500 บาท
ฮือฮาที่สุดในปีนี้ก็คือ “เรือใบสีฟ้า” เซ็นสัญญากับ PUMA ด้วยระยะเวลา 10 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ฉลองครบรอบการก่อตั้งสโมสรครบ 125 ปี
ชุดยังคงโทนสีฟ้า เพิ่มแถบสีม่วงบริเวณไหล่และบนตัวหนังสือ ขณะที่ชุดเยือนเป็นโทนสีดำ พร้อมแถบสีเหลือง และขลิบสีชมพู ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงยุครุ่งเรืองของของวงการดนตรีในเมืองแมนเชสเตอร์ในช่วงปลาย 1980 ถึงช่วงต้น 1990
ทำสัญญาเป็นเวลา 10 ปี มูลค่า 650 ล้านปอนด์
พูม่า ได้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาครอง แต่ก็ต้องเสีย อาร์เซนอล ที่ดีลกันมาหลายปี โดย “เดอะ กันเนอร์ส” กลับสู่อ้อมกอดของ อาดิดาส เป็นหนแรกตั้งแต่ปี 1994
ดีลหนนี้ อาร์เซนอล ตกลงทำสัญญากับ อาดิดาส เป็นเวลา 5 ปี มูลค่าสูงถึง 300 ล้านปอนด์
.....หลังจาก นิว บาลานซ์ ออกมาขยับ แน่นอนว่า ไนกี้ ก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
แว่วกันมาว่า ลิเวอร์พูล “กำลังจะ” ตกลงทำสัญญากับ ไนกี้ ไปแล้ว พร้อมกับดีลที่ “ประหลาด” ที่สุดอีกครั้งของวงการฟุตบอล
เมื่อยินยอมจะรับเงินเพียง 30 ล้านปอนด์เท่านั้น!!!!
ไม่ได้เป็นดีลประวัติศาสตร์แพงสุดอะไรเลย แต่..................
แต่สาเหตุก็คือ “หงส์แดง” พร้อมทำข้อเสนอเพียงแค่นั้น นั่นเพราะว่า พวกเขาจะได้เงินรายได้มากกว่า นิว บาลานซ์ ก็เพราะว่า ไนกี้ มีเครือข่ายกระจายร้านค้าไปอยู่ทุกมุมโลก
ช็อปของไนกี้ มีมากกว่า นิว บาลานซ์ กว่า 3,000 ร้านเลยทีเดียว
นั่นหมายถึง เสื้อลิเวอร์พูล จะเข้าถึงมากขึ้น และมีโอกาสได้รับส่วนแบ่งการตลาดสูงขึ้นตามจำนวนที่ขายได้นั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีดีลที่จะให้นักกีฬาดังระดับโลก เข้ามาร่วมโปรโมทชุดแข่ง อาทิ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ยอดนักเทนนิส, เลบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์วงการยัดห่วง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นิว บาลานซ์ ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เนื่องจากมีข้อเสนอที่ “ผูกมัด” กับสโมสร และสามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่างที่ไนกี้ ทำได้ และทำไม่ได้ด้วยซ้ำ!!!!
น่าสนใจก็คือ ตัวแทนของนิว บาลานซ์ ได้ไปฟ้องศาลเพื่อสู้คดีนี้ ซึ่งจะใช้เวลาพิจารณา 3 วัน โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 18 ตุลาคมนี้และน่าจะได้ข้อสรุปไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนหน้า
จับตาดูดีลประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจ นั่นคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป ที่กำลังจะหมดสัญญากับ “นิว บาลานซ์” ที่ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์การขายเสื้อ
ซีซั่นนี้ตามกำหนดเดิมคือ “หมดสัญญา” และกำลังเจรจากันอยู่โดยออปชั่นที่ว่า หากใครมาดีลด้วยแล้วให้เงินมากเท่าไหร่
“นิว บาลานซ์” สามารถที่จะต่อกรได้ และมีข้อที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ยอมเจรจาด้วย
“ไนกี้” คือเจ้าที่มาแรงสุด และคาดกันว่าจะดีลที่ 80 ล้านปอนด์ต่อปี แพงที่สุดในอังกฤษ หรือจะมาเพียง 30 ล้านปอนด์เพื่อยอดจำหน่ายที่มากขึ้น
หรือ 30 ล้านปอนด์ปริศนาใหม่นี้ จะเป็นเงินกินเปล่าหรืออะไรก็ตาม แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องไม่ลืมว่า “เสื้อบอล” ที่ออกแบบจะต้องสะท้อนความมี “อัตลักษณ์” และมี “เอกลักษณ์” ที่ชัดเจนที่สุด
ทุกอย่างต้องมาพร้อมกัน ทั้งความสง่างามของเสื้อ และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
ออกไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ “หงส์แดง” ยิ้มแป้นมีหน้าที่ดีดลูกคิดรอเป็นที่เรียบร้อย
งานนี้....พวงมาลัยจะโยนให้ใครดี?!?
รวมฮิตพันธมิตรเสื้อบอลลิเวอร์พูล
● ผู้ผลิตเสื้อ
- Umbro
ปีแห่งความร่วมมือ : 1973-1985
ผลิตภัณฑ์กีฬาสัญชาติอังกฤษ จากย่านเชเดิ้ล สต๊อคพอร์ต ในเกรตเตอร์ แมนเชสเตอร์ ก่อตั้งเมื่อ 23 พฤษภาคม 1924 นับตั้งแต่ปี 2012 ถูกเทคโอเวอร์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ “Iconix Brand Group” ของสหรัฐ
- ADIDAS
ปีแห่งความร่วมมือ : 1985-1996 และ 2006-2012
นับเฉพาะเวลาที่พี่น้อง รูดอล์ฟ(รูดี้) ดาสส์เลอร์ กับ อดอล์ฟ(อาดิ) ดาสส์เลอร์ แยกตัวกันจากแบรนด์ “Dassler” เกิดแบรนด์ “อาดิดาส” เมื่อ 18 สิงหาคม 1949 เป็นที่รู้จักในนาม “สามแถบสะท้านโลก” ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความคลาสสิก ปัจจุบันเฮดควอเตอร์อยู่ที่ เฮอร์โซเกเนาราช แคว้นบาวาเรีย เยอรมนี
- Reebok
ปีแห่งความร่วมมือ : 1996-2006
เจ ดับบลิว ฟอสเตอร์ และลูก ๆ ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์นี้ที่โบลตันประเทศอังกฤษ เมื่อปี 1958 ปัจจุบันเฮดควอเตอร์อยู่ที่บอสตันแมสซาชูเซ็ตต์ สหรัฐอเมริกา แต่คนที่เป็นเจ้าของแบรนด์คือ อาดิดาสที่เข้ามาเทคไปเมื่อปี 2005
- Warrior
ปีแห่งความร่วมมือ : 2012-2015
ก่อตั้งปีเดียวกับที่ ลิเวอร์พูล ฉลอง 100 ปีของสโมสร นั่นคือปี 1992 โดย เดวิด มอร์โรว์ อดีตนักกีฬาลาครอสส์ ที่วาร์เรน มิชิแกน สหรัฐอเมริกา เข้าเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล เมื่อ 18 มกราคม 2012 ถือเป็นทีมฟุตบอลทีมแรกที่ร่วมงานกับ วอร์ริเออร์
- New Balance
ปีแห่งความร่วมมือ : 2015-ปัจจุบัน
วิลเลี่ยม จ.ไรลี่ย์ ก่อตั้งแบรนด์เมื่อปี 1906 ที่บอสตันแมสซาชูเซ็ตต์ ซึ่งแบรนด์โดดเด่นขึ้นมาจากรองเท้าที่มีตัว “N” เด้งโดดกระทั่งโลกได้รู้จักกับคำว่า “NB” หลังจากเข้ามาทำธุรกิจธุรกรรมกับ ลิเวอร์พูล โดยพวกเขาเป็นเจ้าของ วอร์ริเออร์ อีกทีหนึ่งด้วย
● ผู้คาดหน้าอกเสื้อ
- HITACHI
ปีแห่งความร่วมมือ : 1979-1982
บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าจากเมืองฮิตาชิ จังหวัดอิบารากิ จัดตั้งเมื่อปี 1920 หรือ 99 ปีที่แล้ว โดยวิศกรไฟฟ้าชื่อว่า นามิเฮอิ โอเดระซึ่งผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นเจ้าแรกของญี่ปุ่น ปัจจุบันบริษัทมีแตกไลน์ธุรกิจมากมายนับสิบอย่าง โดยสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว
- Crown Paints
ปีแห่งความร่วมมือ : 1982-1988
ผลิตภัณฑ์สีที่อยู่กับประเทศอังกฤษ มาตั้งแต่ปี 1850 ซึ่งอยู่ในดาร์เว่น แถบแลงคาเชียร์ ให้การสนับสนุนทีมฟุตบอล 2 ทีมเท่านั้นคือ ลิเวอร์พูล กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ปัจจุบันได้ขายกิจการให้กับ แฮมเปิ้ล กรุ๊ป บริษัทสีจากเดนมาร์ก ไปเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่ปี 2011
- CANDY
ปีแห่งความร่วมมือ : 1988-1992
ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติอิตาเลียน ก่อตั้งมาตั้งแต่ 74 ปีก่อนที่บรูเกริโอ ในแถบมอนซ่า ห่างจากทางตอนเหนือของนครมิลาน ไม่ไกลนัก โดยให้การสนับสนุน ลิเวอร์พูล กับ ศึกฟอร์มูล่า วัน โดยปัจจุบันมีฐานการผลิตที่อิหร่าน และได้ถูก ไฮเออร์(Haier) เข้าซื้อกลุ่มทุนของ Hoover Candy ไปแล้วเมื่อ 25 กันยายน 2018
- Carlsberg
ปีแห่งความร่วมมือ : 1992-2010
เครื่องดื่มยาธาตุนักเลงพรายฟองสีทองประกายจากเดนมาร์ก อายุปัจจุบัน 172 ปี ก่อตั้งโดย เจ.ซี.ยาค็อปเซ่น ผู้หลงใหลในงานศิลปะ ที่ปรุงเบียร์สำเร็จเป็นครั้งแรก 10 พฤศจิกายน 1847
- Standard Chartered
ปีแห่งความร่วมมือ : 2010-ปัจจุบัน
ธนาคารชื่อดังของโลก
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี