การแข่งขัน มวยสากล ที่ขุนพลกำปั้นทีมชาติไทยทั้ง ชาย และ หญิง ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ชิงเหรียญทองถึง 7 รุ่น ที่สังเวียน พีไอซีซี ฟอรั่ม เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา เริ่มจาก รุ่นแบนตั้มเวท 54 กก.หญิง“น้องเมษา” นิลาวัลย์ เตชะสืบ ดวลกับ เหงียน ฮยา เวียดนาม ยกแรก นิลาวัลย์ ยังคงดูเชิงและหาจังหวะออกหมัดหนึ่งสองเข้าเป้า ยกสองกำปั้นไทยยังคงออกหมัดน้อย แต่ก็ยังชกเข้าเป้าตลอด ก่อนที่ในยกสุดท้ายแม้ว่า กำปั้นเวียดนาม จะออกหมัดเยอะกว่า แต่ไม่ค่อยเข้าเป้า ครบ3ชก กรรมการให้ นิลาวัลย์ เอาชนะไปด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 5-0 เสียง คว้าเหรียญทองแรกได้สำเร็จ
รุ่นฟลายเวท 52 กก. ชาย อมฤต เยาว์ดำ ดวลกับ โรเกน ลาดอน กำปั้นเจ้าถิ่นฟิลิปปินส์ ยกแรก เป็นฟิลิปปินส์ ที่เปิดฉากบุกรัวหมดเข้าใส่ อัมฤต ก่อนที่ยกสอง ลาดอน จะฮุกหมัดจน อัมฤต คิ้วแตก ส่วน อัมฤต ก็พยายามหาจังหวะสวนกลับต่อยคืนไปบ้าง เข้าสู่ยกสุดท้าย อมฤต ไม่มีอะไรจะเสีย ออกหมัดเป็นชุด หวังทำคะแนนคืนมาบ้างแต่เมื่อครบสามยก กรรมการยกมือให้ กำปั้นฟิลิปปินส์ เอาชนะไปแบบเอกฉันท์ 5-0 คะแนนทำได้เพียงเหรียญเงินเท่านั้น
จากนั้นรุ่นแบนตั้มเวท 56 กก.ชาย “เจ้าสด” ฉัตย์ชัยเดชา บุตรดี - เหงียน วาน ดวง กำปั้นเวียดนาม เริ่มมายกแรก “เจ้าสด” ออกหมัดด้วยชั้นเชิงที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะซัดกำปั้นเวียดนาม ลงไปนับ 8 ได้ด้วย เข้าสู่ยกสอง กำปั้นไทย ยังเดินเครื่องต่อ ฮุกขวาเข้าหน้าท้องอยู่หลายครั้งและเหนือกว่าชัดเจน ก่อนที่ในยกสุดท้าย ฉัตรชัย จะออกหมัดซ้ายเข้าไปที่คิ้วของกำปั้นเวีดยนามจนแตก ก่อนครบ 3 ยก กรมมการให้ ไทย เอาชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ 5-0 เสียง ซึ่งหลังจากชก “เจ้าสด” ก็ได้ประกาศเลิกชกซีเกมส์นับจากนี้ หลังจากชกมาแล้วถึง 6 สมัยและคว้าไป 4 เหรียญทอง พร้อมกันนี้ก็จะแขวนนวมหลังจบ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ในปีหน้าด้วย
รุ่นเวลเตอร์เวท 69 กก.ชาย “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข - มาร์ยอน เปียน่า ฟิลิปปินส์ เริ่มยกแรก เจ้าเอ็ม ทำได้ดีออกหมัดเข้าเป้าแม่นยำ พร้อมกับหลบหลีกกำปั้นคู่แข่งได้ด้วย ยกสองทั้งสองฝั่งออกหมัดแลกกันอย่างสนุก จนกระทั่งในยกสุดท้าย วุฒิชัย ยังออกกำปั้นด้วยความมั่นใจเข้าเป้าหลายครั้ง ก่อนที่ครบ 3 ยก กรรมการจะยกมือให้ วุฒิชัย เป็นฝ่ายเอาชนะไปอย่างเป็นเอกฉันท์ 5-0 เสียงคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ
รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท 81 กก. ชาย อนวัช ถองกระโทก ดวล ฮอง ดิน ตรวง จากเวียดนาม ผลปรากฏว่าตลอดทั้ง 3 ยก กำปั้นไทย ออกหมัดเข้าเป้าหลายต่อหลายครั้ง ก่อนครบ 3 ยก จะเอาชนะไปได้ไปแบบเอกฉันท์ 5-0 คะแนน คว้าเหรียญทองได้อีกเหรียญ
ก่อนที่ในรุ่นไลท์เวท 60 กก. หญิง สุดาพร สีสอนดี จะดวลกับ ริซ่า พาสูต กำปั้นเจ้าถิ่นฟิลิปปินส์ ผลปรากฏว่า สุดาพร นั้นออกหมัดแลกกับ ริซ่า แบบสูสีตลอดทั้งสามยก ก่อนที่กรรมการจะยกมือให้ สุดาพร เป็นฝ่ายเอาชนะไปแบบไม่เอกฉันท์ 4-1 คะแนน
ปิดท้ายที่รุ่นไลท์เวท 60 ก.ก.ชาย “เจ้าพีช” คุณาธิป ปิดนุช - ชาร์ลีย์ ซัวเรซ กำปั้นขวัญใจเจ้าถิ่น เปิดฉากมายกแรก คุณาธิป ออกหมัดชุดเข้าเป้าอยู่หลายครั้ง ส่วน ซัวเรซ ก็พยายามหาจังหวะสวนได้ไม่น้อย เข้าสู่ยกสอง ทั้งคูอย่างออกหมัดกันอย่างเอาตาย แต่เ็น ซัวเรซ ที่ชกเข้าเป้าทำให้ เจ้าพีช ถูกนับ 8 ก่อนที่ยกสุดท้ายแม้ว่า คุณาธิป จะออกหมัดแลกอย่างดุเดือด แต่เมื่อครบ 3 ยก กรรมการให้ ซัวเรซ เป็นฝ่ายเอาชนะไป 5-0 คะแนน
บทสรุปขุนพลเสื้อกล้ามไทยในครั้งนี้ คว้าได้ทั้งสิ้น 5 เหรียญทอง ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี