ทัพไทยคว้าอันดับที่2

ปิดฉากซีเกมส์

กวาดได้88เหรียญทอง

ต่ำกว่าเป้าหมายตั้งไว้

ส่งไม้ต่อให้เวียดนาม

รับเป็นเจ้าภาพปี2021

มหกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ จะปิดฉากในวันพุธที่ 11 ธันวาคม โดยก่อนเข้าสู่พิธีปิดการแข่งขัน เจ้าภาพจัดให้มีการชิงชัยส่งท้ายอีก 1 เหรียญทอง จากแฮนด์บอลชายหาดที่ชายทะเลเมืองซูบิค

โดยผลงานของทัพนักกีฬาไทย ในการแข่งขันซีเกมส์ หนนี้มาเร่งเครื่องในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะทำผลงานโกยเหรียญได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ทำให้ถึงเวลานี้ล่าสุดทำเหรียญทองรวมทะลุ 90เหรียญไปแล้ว และนั่นจะทำให้ ทีมชาติไทย นั้นเป็นอันดับ 2 ในการแข่งขันครั้งนี้ เป็นรองเพียงเจ้าภาพ ทีมชาติฟิลิปปินส์ เจ้าภาพ ที่จะจบการแข่งขันด้วยการคว้าเหรียญทองทะลุ 150 เหรียญ

ด้าน “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ได้กล่าวถึงภาพรวมของนักกีฬาไทยในครั้งนี้ว่าตลอดระยะเวลา 10 กว่าวันที่ผ่านมาได้เห็นว่านักกีฬาไทยมีจุดดีจุดด้อยตรงไหน โดยเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขันทั้งคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยพร้อมด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาต่างๆทุกๆสมาคม จะได้นัดรือกันอีกครั้งพร้อมวิเคราะห์ถึงสิ่งที่ต้องแก้ไข ตลอดทั้งการแข่งขันเพื่อให้เป็นแนวทางในการรักษาผลงานและพัฒนามาตรฐานของนักกีฬาไทยไม่ให้ตกลงไปกว่าเดิมทั้งในการส่งทีมเข้าแข่งขันไม่ว่าจะเป็นซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ หรือโอลิมปิกเกมส์ในปีหน้า 2563

“ปัจจัยหลักที่ทำให้ฟิลิปปินส์ครองเจ้าเหรียญทองมาจากการที่พวกเขาอาศัยความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าภาพ ตั้งแต่การบรรจุชนิดกีฬาที่ไม่ได้เป็นสากลสักเท่าไหร่เข้าแข่งขันเพื่อคว้าเหรียญรางวัล ส่วนกีฬาที่ใช้สายตากรรการตัดสินเหรียญทองส่วนใหญ่จะเป็นของนักกีฬาจากฟิลิปปินส์”

“สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือถ้าเทียบผลงานโดยเฉพาะกีฬาสากลทั่วไปที่มีในโอลิมปิกเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์กับชาติอย่างเวียดนาม ที่จะเป็นเจ้าภาพครั้งหน้าต้องบอกว่ามีความใกล้เคียงและสูสีกับไทยมาก และบางชนิดกีฬาดีกว่าเราด้วยซ้ำ ส่วนพวกกีฬาสถิติอย่างกรีฑา, ว่ายน้ำหรือยิงปืนเวียดนามก็ทำได้ดีมาก ซึ่งจุดนี้ได้คุยกับกกท. และสมาคมกีฬาต่างๆให้ศึกษาเก็บข้อมูลของเวียดนามอย่างละเอียดในเรื่องการพัฒนากีฬาแต่ละชนิดอย่างไรส่งไปแข่งหรือฝึกซ้อมที่ไหนบ้าง”

ในขณะเดียวกันในพิธีปิดการแข่งขัน ที่จะมีขึ้นที่ นิว คลาร์ค ซิตี้ แอธเลติค สเตเดียม เมืองคลาร์ค โดย ช่อง 3 เอชดีถ่ายทอดสด ตั้งแต่เวลาไทย 18.30-21.00 น. เป็นต้นไป

ซึ่งพิธีปิดครั้งนี้ เจ้าภาพฟิลิปปินส์ ได้เตรียมจัดชุดการแสดงส่งท้ายศึกซีเกมส์ 2019 ซึ่งกำกับการแสดงโดย “ไฟว์ เคอร์เรนต์ส” ซึ่งเคยรับหน้าที่ในพิธีเปิด และพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ “ลอนดอน 2012” ที่ประเทศอังกฤษมาแล้ว โดยเริ่มต้นจากการแสดงเต้นรำจาก เอต้า เฟสติวัล แด๊นเซอร์ ของคณะโปรัค เดอะ มะนิลา คอนเสิร์ต

ต่อด้วยการกล่าวสปีชต้อนรับ และเปิดเพลงชาติฟิลิปปินส์ พร้อมชมไฮไลต์ของซีเกมส์ 2019 ผ่านบทเพลง “วี วิน แอส วัน” ก่อนที่จะเป็นขบวนพาเหรดของทัพนักกีฬา และเจ้าหน้าที่จาก 11 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครด้วย โดยที่ โรเจอร์ คาซูเกย์ นักกีฬาวินด์เซิร์ฟของฟิลิปปินส์จะทำหน้าที่เป็นถือธงชาติฟิลิปปินส์นำคณะนักกีฬาฟิลิปปินส์เดินเข้าสู่สนาม หลังจากที่ คาซูเกย์ ยอมทิ้งการแข่งขันช่วงหนึ่งกระโดดว่ายน้ำไปช่วยนักกีฬาอินโดนีเซีย ที่กำลังจะจมน้ำ ทำให้ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่ดังกล่าวนี้

ในส่วนของทัพนักกีฬาทีมชาติไทยจะนำทัพโดย “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย พร้อมด้วย รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต รองหัวหน้านักกีฬาทีมชาติไทย รวมทั้งนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ ร่วมในพิธีปิดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ด้วย

จากนั้น นายอัลลัน ปีเตอร์ คาเยโตน่า ประธานจัดการแข่งขันซีเกมส์ 2019 และนายอับราฮัม โตเลนติโน่ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งฟิลิปปินส์ กล่าวปิดการแข่งขัน ก่อนเข้าสู่พิธีมอบธงประจำการแข่งขันต่อให้กับตัวแทนจากประเทศเวียดนาม เจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 31 ต่อไปที่กรุงฮานอย ในปี 2021 ตามด้วยการเปิดเพลงชาติเวียดนาม และการแสดงจากเจ้าภาพครั้งต่อไปโดยประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันชองเวียดนามเผยว่า รัฐบาลเวียดนามจะใช้ 4 นครใหญ่เป็นสนามแข่งขันคือกรุงฮานอย,นครโฮจิมินห์ซิตี้,นครดานังและนครไฮฟอง

ปิดท้ายด้วยการจุดพลุไฟแสดงแสดงสีเสียงตระการตา และมีการแสดงคอนเสิร์ตจาก “แบล็ค อายด์ พีส์” ศิลปินวงดนตรีฮิปฮอปจากอเมริกาชื่อดังระดับโลก ซึ่งมีสมาชิกนำโดย วิล.ไอ.แอม, แอพเพิล.ดี.แอป, ทาบู และเจสซิก้า เรย์โนโว่ มาร่วมโชว์ส่งท้ายมหกรรมซีเกมส์ 2019 ในครั้งนี้อีกด้วย