พลันที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ชนะการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นสมัยที่สอง หลังเอาชนะผู้ท้าชิงอย่าง ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ไปด้วยคะแนนท้วมท้น 51 ต่อ 17 เสียง พร้อมกับทำให้จะได้นั่งทำหน้าที่ประมุขลูกหนังไทยต่อไปอีก 4 ปีนับจากนี้
“บิ๊กอ๊อด” ได้กล่าวว่า “ขอขอบคุณสโมสรสมาชิกทุกท่านที่ไว้วางใจเลือกผมและทีมงานทั้งหมดให้ทำหน้าที่ในสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อีกครั้งหนึ่งแน่นอนว่าผมมีความภูมิใจที่ได้นั่งทำงานตรงนี้ จากการที่ท่านไว้วางใจเลือกพวกเรามาทำหน้าที่อีกครั้ง พวกเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจนำพาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีระบบระเบียบและแบบแผน จากการที่ผมได้สรรหาและเลือกทีมงานมา ทุกคนมีความสามารถ และจะพาสมาคมฯ เดินไปอย่างก้าวหน้า แม้งานข้างหน้าจะไม่ง่าย แต่เราก็จะช่วยกัน สิ่งที่เราต้องการคือทุกคนต้องการความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน รวมไปถึงแฟนบอลทุกคน ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ไว้ในโอกาสนี้”
“การทำงานต้องเดินหน้าต่อไป สัปดาห์นี้ไทยลีก และลีกต่างๆ ก็จะเปิดแล้ว ส่วนเรื่องต่างๆ ที่อีกฝ่ายยังข้องใจอันนี้เป็นสิทธิ์ที่ทุกคนย่อมทำได้ แต่ถ้ายังข้องใจและต้องการคำชี้แจง หรือไปฟ้อง
ต่อศาล เราก็พร้อมที่จะไปชี้แจง”
“ที่ผ่านมา 4 ปี เป็นช่วงเวลาของความยากลำบาก ผมเข้ามาตอนแรกมันขาดความพร้อมต่างๆ มากมาย เหมือนเข้าไปซื้อบ้านเก่าและทำการซ่อมแซมให้มันอยู่ต่อได้ และในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาของการพัฒนา ยึดแนวทางการพัฒนาสมาคมฯ 20 ปี ก้าวไปด้วยกันตามสโลแกน Moving Foword ทุกคนที่เข้ามาทำงานกับผมถือว่ามีประสิทธิภาพ ด้วยศักยภาพของท่านเหล่านั้นจะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลให้ไปได้ไกลในอนาคต” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวทิ้งท้าย
ซึ่งภารกิจต่อไปของ “บิ๊กอ๊อด” คือการสานต่องานอยู่ ตามนโยบาย “Moving Forward” ไปจนครบวาระในปี 2566 โดยมีทั้งสิ้นดังนี้
สร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งใหม่
หลังจากทำ MOU ร่วมกับ กลุ่มคิง เพาเวอร์ พร้อมได้เงินมา 500 ล้านบาทเพื่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ที่มวกเหล็กสระบุรี ในพื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย150 ไร่ สมาคมคงได้เดินเครื่องเต็มที่ในการสร้างศูนย์ฝึกแห่งนี้ให้แล้วเสร็จ แม้จะมีเรื่องพิพาท เรื่องที่ดิน อยู่ แต่เชื่อว่าด้วยบารมี และเส้นสายของ “บิ๊กอ๊อด” และสภากรรมการ รวมถึงสายสัมพันธ์อันดีกับ ดร.ก้องศักดิ ยอดมณี ผู้ว่าฯกกท. น่าจะทำภารกิจนี้เดินหน้าต่อไปแน่นอน
วางรากฐานให้กับเยาวชนไทย
ก่อนหน้านี้ สมาคมเองเดินหน้าสร้างรากฐานให้กับเยาวชนไทย โดยเปิดไฟเขียวให้ การ์เลส โรมาโกซ่า ผู้อำนวยการเทคนิคชาวสเปน เดินหน้าวางโครงสร้างให้กับเยาวชนไทยทุกรุ่นอายุ ทั้งบอลชายและบอลหญิง เพื่อให้มาตรฐานและทิศทางไปทางเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีการปรับโครงสร้างการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ ให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้นและมีความเป็นสากลขึ้น เพื่อให้ลีกเกิดการแข่งขัน เพื่อเป็นการสร้างนักฟุตบอลสู่ทีมชาติไทยในอนาคต
ทีมชาติไทยอันดับติดท็อป 100 ฟีฟ่าแรงกิ้ง
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่าประกาศ แรงกิ้งในเดือนธันวาคม ออกมาเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยมีอยู่ 1,178 คะแนน พร้อมรั้งอยู่อันดับ 113ของโลกตามเดิม และยังเป็นเบอร์ 2 ของชาติอาเซียน
ดังนั้นใน 4 ปี ข้างหน้า ไทยจะต้องทำผลงานให้ดี และลงอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า เดย์ เพื่อทำคะแนนและขึ้นไปอยู่ในเลข 2 หลัก บนฟีฟ่า แรงกิ้งให้ได้ สำหรับทีมชาติไทย มีโปรแกรม จะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง ด้วยการเปิดบ้านพบกับ อินโดนีเซียในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 6 วันที่ 26 มีนาคม 2563
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี