การแข่งขันฟุตบอลลีกคัพ หรือ คาราบาวคัพ ฤดูกาลที่ 60 เดินทางมาถึงนัดชิงชนะเลิศคืนวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคมนี้ เวลา 23.30 น.พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ถ่ายทอดสด ถือเป็นการชิงแชมป์รายการของซีซั่นนี้ในวงการฟุตบอลอังกฤษ
‘วิลล่า’กับแชมป์ลีกคัพ
“สิงห์เผ่นแห่งแดนมิดแลนด์” เป็นอันดับที่ 3 ของการครองถ้วยใบนี้ พวกเขาเข้าชิงมาแล้วถึง 8 สมัย และได้แชมป์ไป5 สมัย ในปี 1961, 1975, 1977, 1994 และ 1996 โดยปี 1961 คือการชิงชัยครั้งแรกของรายการนี้
ครั้งนั้นยังเป็นเกมแบบเหย้า-เยือน ซึ่งวิลล่า ออกไปเยือนก่อนและแพ้ให้กับ ร็อทเธอร์แฮม ยูไนเต็ด จากดิวิชั่น 2 ไปก่อน 0-2 ก่อนจะพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะได้ที่วิลล่า พาร์ค 3-0 ครองแชมป์เป็นทีมแรก
ขณะที่การเป็นแชมป์ในปี 1977 ที่ยังคงถูกกล่าวขวัญถึงจนทุกวันนี้ ไม่ใช่เกมที่ต้องชิงกันถึง 3 นัด แต่เป็นเรื่องของที่มาของคำที่ใช้กันผิดๆ ในวงการฟุตบอล
ว่ากันถึงเกมนัดชิงกันก่อน ปีนั้นนัดชิงที่เวมบลีย์ วิลล่า เข้าชิงกับ เอฟเวอร์ตัน ก่อนจะเสมอกัน 0-0 จากนั้นมารีเพลย์แมทช์ที่ฮิลล์สโบโร่ ต่อเวลาแล้วก็ยังไม่จบเสมอกันอีก 1-1 ต้องรีเพลย์อีกครั้ง คราวนี้เตะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด วิลล่า ต่อเวลาชนะไปจนได้ 3-2 ครองแชมป์เป็นสมัยที่ 3
เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ลิเวอร์พูล เอฟซี คู่ปรับร่วมเมืองของ เอฟเวอร์ตัน มีลุ้น 3 แชมป์นั่นคือ ดิวิชั่น 1, เอฟเอ คัพ และยูโรเปี้ยน คัพ ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ได้ลุ้นแชมป์ลีกคัพ ที่ถูกมองว่าเป็น “ถ้วยเล็กสุด” จึงถูก “เดอะ ค็อป” ล้อเลียนว่านี่มันถ้วยเล็กๆ นี่คือ “มิกกี้เมาส์ คัพ” หรือ Mickey Mouse Cup ประมาณว่า หนูน้อยประมาณนี้
จากนั้นในปี 1994 รอน แอ๊ตกินสันกุนซือจอมโอ่อ่า ลบแค้นฝันใจที่ถูก แมนฯยูไนเต็ด ไล่ออกได้อีกคำรบ เมื่อพา วิลล่า ไล่ต้อน แมนฯยูไนเต็ด 3-1 สกัดกั้นฝันที่จะเป็น 3 แชมป์ของ แมนฯยูไนเต็ดได้สำเร็จ โดยขุนพลหลักทีมนั้นคือ ดีน ซอนเดอร์ส, ดาเลี่ยน แอ็ตกินสัน พอล แม็คกรัธ, แอนดี้ ทาวน์เซนด์ และมาร์ค บอสนิช
ส่วนแชมป์หนล่าสุดของพวกเขาคือปี 1996 ที่ไล่ต้อน ลีดส์ ขาดลอย 3-0 ภายใต้การคุมทัพของ “เฮียเล็ก” ไบรอัน ลิตเติ้ล ซึ่ง ลิตเติ้ล คือผู้ยิง 2 ประตูทองให้ วิลล่า ได้แชมป์ในปี 1977 นั่นเอง
‘เรือใบ’โฉลกที่ใช่รายการนี้
ก่อนจะกลายร่างมาเป็น “เรือใบฝังเพชร” ในยุคชีค พวกเขาเข้าชิง 3ได้แชมป์ 2 ครั้ง แต่หลังจากยุคถูกหวยพวกเขาเข้าชิงอีก 4 ครั้ง ได้แชมป์ทั้งหมด!!!
หนึ่งในตำนานกุนซืออย่าง โจเมอร์เซอร์ ที่พาทีมได้แชมป์ต่อเนื่องหลังจากได้แชมป์เอฟเอ ปี 1969 ก็มานำทัพคว้าแชมป์รายการนี้ด้วยการเชือดเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในช่วงต่อเวลา2-1 ครองแชมป์เป็นสมัยแรก แถมปีนั้น ซิตี้เป็นดับเบิ้ลแชมป์เมื่อครองถ้วยยุโรป รายการคัพ วินเนอร์ส คัพ โดยทั้ง 2 รายการที่ชิงในปี 1970 พวกเขาใส่ชุดเยือนสีแดง-ดำ
การชิงแชมป์ 3 หนแรกในยุคเดิมของแมนฯซิตี้ ใช้กุนซือต่างกันนั่นคือ ปี 1970คือ โจ เมอร์เซอร์, ปี 1974 แพ้ วูล์ฟส์ 1-2 คือ รอน ซอนเดอร์ส และ ปี 1976 ชนะนิวคาสเซิ่ล 2-1 คือ โทนี่ บุ๊คส์
กระทั่งสู่ยุค “เงินใช้ผีโม่แป้ง” ปรากฏว่า พวกเขาเดินหน้าคว้าแชมป์ถ้วยนี้ได้แบบเด็ดขาดถึง 4 จาก 6 ซีซั่นหลังสุดโดยไม่รู้จักคำว่าแพ้ ทั้งการทุบ ซันเดอร์แลนด์ 3-1 ในปี 2014 ต่อด้วยยิงจุดโทษ ลิเวอร์พูล ในปี 2016 ทั้งที่ “หงส์แดง” เป็นทีมที่ไม่เคยแพ้นัดชิงในการดวลเป้า, ก่อนจะเบิ้ลแชมป์ 2 ปีติดในปี 2018 กับ 2019 ด้วยการคว่ำ อาร์เซนอล 3-0 และยิงจุดโทษดับ เชลซี
ทำให้ตอนนี้ แมนฯซิตี้ ได้แชมป์มากที่สุดเป็นลำดับ 2 ในรายการนี้ รวม 6 สมัย เป็นรอง ลิเวอร์พูล เพียง 2 สมัย
หากพวกเขาได้แชมป์อีก จะเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์ถ้วยนี้ 3 ปีซ้อน โดยสถิตินั้นเป็น ลิเวอร์พูล ที่ทำไว้ 4 ปีซ้อนในปี 1981-1984
ความพร้อมทั้งสองทีม
วิลล่า เข้าชิงถ้วยนี้เป็นหนแรกรอบ 10 ปี หลังจากชิงหนหลังเมื่อปี 2010 แพ้แมนฯยูไนเต็ด 1-2 พวกเขามีสไตล์ที่ชัดเจนอยู่แล้วคือ ระบบกองหลัง 3 คน ไทโรน มิงส์ จะยืนปักหลักในเกมรับเป็นหัวใจเพื่อสู้กับแนวรุกที่จัดจ้านทุกตัวของแมนฯซิตี้ ที่ไม่ว่าใครลงมาก็อันตรายทั้งนั้น
ขณะที่ แจ๊ค กรีลิช จะเป็นตัวเดินเครื่องเกมรุกด้านซ้ายตัวบน โดยให้อันวาร์ เอล กาซี่ อยู่ทางขวา โดยวางบาวาน่า ซามัตต้า ปักหลักเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนตำแหน่งผู้รักษาประตูนั้นออร์ยาน นีลันด์ ที่เล่นมาตลอดในรายการนี้จะสตาร์ท ทำให้ เปเป้ เรน่า เป็นสำรอง
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม วิลล่า : ออร์ยาน นีลันด์-บียอร์น เอนเกลส์,ไทโรน มิงส์, คอร์ทนี่ย์ ฮอส-เฟรเดอริกกิลแบร์, คอนอร์ เฮาริฮาน, มาร์เวลัสนากัมบา, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์-อันวาร์ เอล กาซี่,บาวาน่า ซามัตต้า, แจ็ค กรีลิช
นิโกลัส โอตาเมนดี้ เซ็นเตอร์อาร์เจนไตน์ จะได้ยืนกองหลังแทนที่ อายเมอริก ลาปอร์กต์ ที่เจ็บไปอีกแล้ว
ฟากฝั่งทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หากชนะจะเป็นแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน นัดนี้นายประตูคือ เคลาดิโอ บราโว่ ที่ข้อตกลงคือเล่นบอลถ้วย แต่ที่เหลือถือว่าทัพใหญ่ทั้งหมด ยกเว้นในรายของ อายเมอริก ลาปอร์กต์ กองหลังคนสำคัญที่เจ็บซ้ำต้องพักไปอีก 3 สัปดาห์ หลังจากปีนี้พักมาแล้วถึงครึ่งซีซั่น เพราะเจ็บที่แฮมสตริงอีกครั้ง
เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพในแผงมิดฟิลด์ จะเล่นร่วมกันกับ โรดรี้ และดาบิด ซิลบา ส่วนแนวรุก แบร์นาโด้ ซิลวา จะได้เดินเกมก่อน ริยาด มาห์เรซ โดยจะลุยกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร่
แมนฯซิตี้ : เคลาดิโอ บราโว่-ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟร์นานดินโญ่, นิโกลัสโอตาเมนดี้, เบนฌาแม็ง เมนดี้-โรดรี้,เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา-แบร์นาโด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่ และราฮีม สเตอร์ลิ่ง
Head to Head
นับการพบกันมาทุกรายการ ปรากฏว่า แมนฯซิตี้ เหนือกว่าด้วยการชนะ 74 เสมอ 41 วิลล่า ชนะ 57 แต่นับเฉพาะ ลีก คัพ เจอกันมา 4 เกม วิลล่า ดีกว่าด้วยการชนะได้ถึง 3 เกม แต่ แมนฯซิตี้ ชนะได้แค่นัดเดียว
4 นัดทั้งหมดประกอบด้วย ปี 1976 วิลล่า ชนะ 3-0, ปี 1984 วิลล่า ชนะ 3-0, ปี 2001 แมนฯซิตี้ บุกชนะ 1-0 และ ปี 2012 วิลล่า บุกชนะ 4-2
แจ๊ค กรีลิช กัปตันทีมหัวใจในเกมรุกของวิลล่า
เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ
วิลล่า : รอบ 2 ชนะ ครูว์อเล็กซานดร้า(เยือน) 6-1, รอบ 3 ชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน(เยือน) 3-1, รอบ 4 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตันวันเดอร์เรอร์ส(เหย้า) 2-1, รอบ 5 ชนะ ลิเวอร์พูล(เหย้า) 5-0, รอบรองฯ นัดแรก เสมอ เลสเตอร์ 1-1(เยือน) นัดสอง ชนะเลสเตอร์ 2-1(เหย้า)
แมนฯซิตี้ : รอบ 3 ชนะ เปรสตัน นอร์ธเอนด์(เยือน) 3-0, รอบ 4 ชนะเซาแธมป์ตัน(เหย้า) 3-1, รอบ 5 ชนะออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด(เยือน) 3-1, รอบรองฯนัดแรก ชนะ แมนฯยูไนเต็ด(เยือน) 3-1 นัดสอง แพ้ แมนฯยูไนเต็ด(เหย้า) 0-1
อัตราต่อรอง : แมนฯซิตี้ ต่อ ลูกครึ่ง
ฟันธง : แมนฯซิตี้ชนะสบาย
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี