“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี แชมป์เก่า และแชมป์6 สมัยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เตรียมลุ้นอาการเจ็บของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม เพื่อกลับมานำทัพสู้กับ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ทีมดังจากสเปน ในการเตะรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2ที่แอนฟิลด์ คืนวันพุธนี้

การพบกันในเกมแรก ลิเวอร์พูล บุกไปแพ้ที่มาดริด 0-1 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พร้อมกับอาการเจ็บของ เฮนโด้ ที่เกิดขึ้นในเกมดังกล่าว หลังจากขยับขึ้นไปเล่นตำแหน่ง บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ อีกครั้งในรอบเกือบ 2 เดือน เนื่องจาก ฟาบินโญ่ กลับมาประจำการอีกครั้ง ก่อนที่กัปตันทีมวัย 29 ปี จะบาดเจ็บในช่วงท้ายเกมทำให้ต้องเปลี่ยนตัวออก และไม่ได้ลงเล่นมาตลอดเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา

ตอนนี้ เฮนโด้ สามารถลงซ้อมได้แล้ว แบบฟูลคอสท์เมื่อวันอาทิตย์ และวันจันทร์ที่ผ่านมาถ้าหากไม่มีอาการบาดเจ็บเพิ่ม โอกาสที่จะมีชื่อติดทัพในเกมนี้ก็เป็นไปได้ แต่โอกาสที่จะฟิตถึง100 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าน้อยถึงน้อยที่สุด

นอกจากนี้ อลิสซอน เบ๊คเกอร์ นายประตูมือ 1 ทีมชาติบราซิล ก็บาดเจ็บสะโพกลงเล่นไม่ได้ ทำให้อาเดรียน ได้เฝ้าเสาต่อไปเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน นอกนั้นไร้ปัญหา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่เจ็บจนพลาดเกมเมื่อวันเสาร์ จะกลับมา เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, โมฮาเหม็ดซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่ พร้อมลงสนาม

ฝั่งผู้มาเยือนจากสเปน มีข่าวดีเพียบเมื่อคีแรน ทริปเปียร์ หายเจ็บกลับมายืนแบ๊กขวาเช่นเดียวกับ อัลบาโร่ โมราต้า ก็ผ่านฟิตมายืนหน้าคู่กับ ชูเอา เฟลิกซ์ ที่ฟิตเรียบร้อย ที่เหลือนั้น ดีเอโก้ซิเมโอเน่ จัดทัพได้แบบเต็มพิกัด แยน โอบลัค,ซาอูล ญีเกซ, โกเก้ พร้อมลุย

อีกคู่ “หอคอยฝังเพชร”ปารีส แซงต์-แชร์กแมงของฝรั่งเศส ดวลกับ “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ จากเยอรมนี โดยเกมแรก ดอร์ทมุนด์ ชนะมาก่อน 2-1ซึ่งเกมนี้จะปิดสนามแข่งขัน เนื่องจากเกรงเรื่องไวรัสโควิด-19 โดยเจ้าบ้านเช็คฟิต คีลิยัน เอ็มบัปเป้แต่ โธมัส มูนิเยร์ กับ มาร์โก้ แวร์รัตติ ติดแบน ส่วนทีมเยือนยังไร้ มาร์โก้ รอยส์ กัปตันทีม และโธมัส เดลานี่ย์ ที่ยังเดี้ยง

ส่วนเกมพรีเมียร์ลีก วันเดียวกัน “เรือใบสีฟ้า”แมนฯซิตี้ แชมป์เก่า และรองจ่าฝูง เล่นในถิ่นเจอกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอลทีมอันดับ 9 โดย แมนฯซิตี้ มีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล 25 คะแนน หากต้องการป้องกันแชมป์ต้องชนะเกมนี้ให้ได้ก่อน ซึ่งพวกเขาลุ้น เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาเล่นตรงกลาง ส่วนทีมเยือนยังมีลุ้นไปยุโรป อเล็กซงดร์ ลากาแซตต์ ลุ้นยืนตัวจริงร่วมกับ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยัง และเมซุต โอซิล