นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย , ผศ.ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ , พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และ คุณศิวพร เพ่งผล หัวหน้าฝ่ายวีดีโอและบริหารจัดการการออกอากาศ เอไอเอส ร่วมแถลงข่าว การสนับสนุนการถ่ายทอดสด มหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ภายใต้โครงการ “Road to Tokyo 2020 รวมใจสู่ชัยชนะ” เมื่อวันที่ 12 มี.ค.63 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 25 ชั้น 4 การกีฬาแห่งประเทศไทย
โครงการนี้จะทำการยิงสัญญาณผ่านช่องทางออนไลน์ ร่วมกับ พันธมิตรภาคเอกชน เดอะ เพาเวอร์ ออฟ ยูนิตี้ (The Power of Unity) พร้อมประกาศความพร้อมในการส่งนักกีฬาทีมชาติไทย เข้าชิงชัยในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ระหว่างวันที่ 24 ก.ค.ถึง 9 ส.ค.และพาราลิมปิกเกมส์ ระหว่างวันที่ 25 ส.ค. - 6 ก.ย.นี้ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดในทุกชนิดกีฬา รวมทั้งสิ้น 33 ชนิดกีฬา โดยถ่ายทอดสดในระบบความคมชัดสูง ผ่านดิจิตอลทีวี และ ถ่ายทอดสดในช่อง ที สปอร์ต ชาแนล (T-Sport) รวมถึงผ่านระบบจอดิจิตัล เอาท์ออฟโฮม สำหรับพิธีเปิดและพิธีปิด
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มุ่งมั่นในการสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพนักกีฬาไทย ให้พัฒนาไปสู่การแข่งขันในระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในศึกโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งถือเป็นมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ โดยนักกีฬาทุกคนที่เข้าแข่งขันนอกจากจะสร้างชื่อเสียงและสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ประเทศไทยแล้ว ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงสร้างกระแสความนิยมด้านกีฬาให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนและเยาวชน นำไปสู่การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คนไทยมีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศ ตลอดจนสร้างความสามัคคีให้คนในชาติอีกด้วย
ขณะที่ การเตรียมความพร้อมของทัพนักกีฬาไทย ในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวและร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และองค์การอนามัยโลก มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าภาพได้มีการเตรียมมาตรการป้องกันที่ได้มาตรฐานสูงไว้แล้ว ทั้งการคัดกรองภายในประเทศทุกพื้นที่ทั้งสนามแข่งขัน โรงแรม ที่พักนักกีฬา ให้เป็นไปอย่างเข้มงวด ได้มาตรฐานสูง โดยขอให้นักกีฬาไทยมุ่งมั่นและโฟกัสกับการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ และหากช่วงนี้มีนักกีฬารายใดที่จำเป็นต้องเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ เพื่อเก็บคะแนนสะสมหรือแข่งคัดเลือก เราก็ได้แนะนำวิธีป้องกัน พร้อมกำชับและเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนรอบข้าง
สำหรับมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ก.ค.ถึง 9 ส.ค.63 มี 206 ชาติจากทั่วโลกเข้าร่วม ชิงชัยทั้งสิ้น 33 ชนิดกีฬา โดยปัจจุบันมีนักกีฬาไทย คว้าตั๋วเข้าแข่งขันได้แล้ว 15 ใบ ประกอบด้วย พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด), เศวต เศรษฐาภรณ์ (ยิงเป้าบิน), กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม (เรือใบ), ศิริพร แก้วดวงงาม (วินด์เซิร์ฟ), จุฑาธิป มณีพันธุ์ (จักรยาน), อิศรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร (ยิงปืน), ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ (ยิงปืน), ธันยพร พฤกษากร (ยิงปืน), สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (ยิงเป้าบิน), อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข (ยิงเป้าบิน), ใบสน มณีก้อน (มวยสากลสมัครเล่น), สุดาพร สีสอนดี (มวยสากลสมัครเล่น), ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด (มวยสากลสมัครเล่น) , ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (มวยสากลสมัครเล่น) และ อาริย์ณัฏฐา ชวตานนท์/กรธวัช สำราญ/วีรภัฎ ปิฏกานนท์ (ขี่ม้าอีเว้นท์ติ้ง ประเภททีม)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี