วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / กีฬา
ตระกูลลูกหนัง‘มัลดินี่’  ‘ปู่-พ่อ-หลาน’เชื้อบอลไม่ทิ้งแถว

ตระกูลลูกหนัง‘มัลดินี่’ ‘ปู่-พ่อ-หลาน’เชื้อบอลไม่ทิ้งแถว

วันอังคาร ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : ตระกูลลูกหนัง บี แหลมสิงห์
  •  

การติดเชื้อโคโรนาไวรัส หรือ โควิด-19 ของ 2 พ่อลูกจากตระกูลลูกหนัง “มัลดินี่”

ถือเป็นเรื่องที่ช็อกวงการฟุตบอลเป็นอย่างมาก


เปาโล มัลดินี่ ผู้พ่อวัย 51 ปี กับ ดาเนี่ยล มัลดินี่ วัย 18 ปี ตรวจพบว่าติดเชื้อกับโรคระบาดที่อาละวาดไปทั่วโลก

เนื่องจาก เปาโล มัลดินี่ ถือเป็น “ตำนานนักฟุตบอลคนแรก”ที่ต้องติดโรคไวรัสนี้

เรื่องของตระกูลนี้ น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยขาดหายไปจากลมหายใจของฟุตบอล...แม้แต่วินาทีเดียวก็ว่าได้!!!!

 

เปาโล ในวันที่ติดทีมชาติ โดยมี เซซาเร่ เป็นผู้จัดการทีม

 

l ว่ากันถึงรุ่นพ่อ...

คุณพ่อของ เปาโล คือ เซซาเร่ มัลดินี่ อดีตยอดดาวเตะของ เอซี มิลาน และทีมชาติอิตาลี

ท่านได้เสียชีวิตลงไปแล้ว เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2016 ที่ผ่านมา นับเวลาก็กำลังจะครบ 4 ปี

“มัลดินี่ ซีเนียร์” เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 84 ปี โดยเซซาเร่ เป็นยอดกองหลังในตำนานของ เอซี มิลาน ลงเล่นให้กับรอซโซเนรี่ ไปถึง 412 เกม และติดทีมชาติอิตาลี 14 นัด โดยเล่นฟุตบอลอาชีพตั้งแต่ปี 1952-1967

เป็นแชมป์กัลโช่ 4 สมัย และครองเจ้ายุโรปได้ในปี 1963 อีกด้วย

จากนั้น เซซาเร่ เริ่มจับงานคุมทัพด้วยการเป็นผู้ช่วยของทีมมิลาน ในยุคของ เนเรโอ ร็อคโก้ เมื่อปี 1970 จากนั้นในปี 1972-1974 ก็ได้เป็นผู้จัดการทีมมิลาน กระทั่งปี 1980 เข้ามาเป็นทีมสต๊าฟทีมชาติอิตาลี และมีส่วนสำคัญในการทำงานกับ เอ็นโซ่ แบร์ซ็อต กุนซือขรัวเฒ่าพาทีมอิตาลี เป็นแชมป์โลกปี 1982 ได้สำเร็จ

มาในปี 1986-96 เซซาเร่ คุมทัพอิตาลีชุดยู-21 และคุมทีมชุดใหญ่ปี 1996-98 และพา อิตาลี เข้าถึงรอบ 8 ทีมบอลโลก 1998 แต่แพ้จุดโทษ ฝรั่งเศส จึงประกาศวางมือ

ปีนั้นเป็นปีแรกที่ผมเองเริ่มจะเทิร์นโปรอาชีพสื่อ ได้ดู อิตาลี ของ ป๋าเซซาเร่ ทำทีมทุกนัด เพราะต้องรอเขียนข่าวทุกเกม

เซซาเร่ ทำทีมในสไตล์เหนียวแน่น ผ่านยาก แต่ไม่ได้รับลึกเท่าไหร่นัก ไม่เหมือนกับหลายๆ คนที่เคยทำ อาจจะบุกน้อยกว่ายุค อาร์ริโก้ ซ้าคคี่ ในยูโร 1996 แต่ก็ไม่ได้เน้นรับเหมือน อเซโญ่วิชินี่ ในบอลโลก ปี 1990

ส่วนผลงานที่แฟนบอลทั่วโลกได้เห็นครั้งสุดท้ายคือการนำทัพปารากวัย ไปเล่นบอลโลก ปี 2002 และตกรอบ 16 ทีม เมื่อแพ้ เยอรมนี หวุดหวิด 0-1 ในนาทีเกือบจะสุดท้ายจริงๆ จากลูกยิงของ โอลิเวอร์ นอยวิลล์ ที่เสียบเสาแรกผ่านมือ โฆเซ่ หลุยส์ชีลาเวิร์ต โกล์คนดังตุงตาข่าย

ทั้งนี้ เซซาเร่ ปรากฏตัวให้แฟนบอลเห็นหนล่าสุดคือ การวิเคราะห์ฟุตบอลผ่านทางช่อง บีอิน สปอร์ตส์ และอัล-จาซีรา เมื่อปี 2012 โดยทำงานวิเคราะห์กับ อเลสซานโดร อันโตเบลลี่ อดีตหัวหอกหน้าหนวดรูปร่างผอมแห่งแต่แรงเยอะ ทีมชาติอิตาลี แชมป์โลก ปี 1982

ท่านคือนักเตะชาวอิตาลีคนแรกที่ได้ถือถ้วยเจ้ายุโรป

l มาถึงกันที่รุ่นลูก...

เปาโล คือลูกของ เซซาเร่

เขาอาจจะไม่เคยได้แชมป์เมเจอร์ของวงการฟุตบอลระดับโลก สูงสุดคือ รองแชมป์โลก ปี 1994 ที่ทุกคนจำได้ดี นั่นก็คือ การยิงจุดโทษโด่งข้ามคานของ โรแบร์โต้ บาจโจ้

ปีนั้น เปาโล คือสุดยอดกองหลัง ที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ฟรังโก้ บาเรซี่

เป็นรองแชมป์ยูโร 2000 เมื่อแพ้ โกลเด้นโกลด์ให้กับ ฝรั่งเศส

เปาโล ประสบความสำเร็จมากมายในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเขาลงเล่นให้กับ เอซี มิลาน “ทีมเดียว” ยาวนานถึง 25 ฤดูกาลแขวนสตั๊ดตอนอายุ 41 ปี ลองนับดูว่าเริ่มต้นชุดใหญ่ที่อายุเท่าไหร่?!?!?!?

แชมป์ของเปาโล คว้ามาครองได้อย่างต่อเนื่องถึง 25 รายการ ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มจนถึงยุคปลาย

กัลโช่ เซเรีย อา 7 สมัย 1987-88, 1991-92, 1992-93,
1993-94, 1995-96, 1998-99, 2003-04

แชมป์โคปา อิตาเลีย 1 สมัย 2002-03

แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา 5 สมัย 1988, 1992, 1993, 1994, 2004

แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย 1988-89, 1989-90, 1993-94, 2002-03, 2006-07

แชมป์ซูเปอร์ คัพ 4 สมัย 1989, 1990, 1994, 2003

แชมป์สโมสรโลก 3 สมัย 1989, 1990, 2007

เขาทำสถิติต่างๆ ส่วนตัวไว้อย่างมากมาย และกลายเป็นตำนานของโมสร ที่ลงเล่นให้กับทีมมากที่สุด 902 นัด และในลีกก็เป็นสถิติที่ตัวเลข 647 เกม ซึ่งตังเลขนี้คือสถิติผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ของกัลโช่ เซเรีย อา อีกด้วย

เปาโล คือปราการหลังที่เล่นทุกตำแหน่ง แต่ตำแหน่งที่สร้างชื่อมากที่สุดก็คือ แบ๊กซ้าย ที่ก้าวขึ้นมาร่วมเคียงบ่าเคียงไหลกับ ฟรังโก้ บาเรซี่, อเลสซานโดร คอสตาร์คูต้า และเมาโร่ ทัสซ็อตติ ที่ตอนนั้น มิลาน เรืองรองไปทั่วโลก ช่วงรอยต่อระหว่างปลายทศวรรษที่ 80 ต่อไปยังทศวรรษที่ 90

ในยุคที่คนมักจะจดจำกันใน “สามทหารเสือดัทช์” รุด กุลลิท,แฟรงค์ ไรจ์การ์ท และมาร์โก้ แวน บาสเท่น

มัลดินี่ มีสไตล์การเล่นที่ฉลาด เข้าสกัดบอลได้เด็ดขาด พร้อมกับมีทักษะที่ดีในการเล่นบอล เขาเริ่มสตาร์ทจากแบ๊กขวา ก่อนจะถูก “อิล ชีที” อาร์ริโก้ ซ้าคคี่ กุนซือโยกมายืนทางซ้ายตั้งแต่อายุ 17 ปี จนเป็นตำแหน่งที่ทุกคนคุ้นตา แต่อย่างที่บอกไว้ว่า สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ โดยภาพที่ติดตาตรึงใจแฟนบอลก็คือ การรับมือกับ โรมาริโอ กับ ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ ในนัดชิงถ้วยยุโรป ระหว่าง มิลาน กับ บาร์เซโลน่า ปี 1994 ซึ่งทีมขาดทั้ง บาเรซี่่ และคอสตาคูร์ต้า ที่ติดแบน

ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือมิลาน ได้ขยับ มัลดินี่ จากแบ๊กซ้ายมาเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ คู่กับ ฟิลิปโป้ กัลลี่ แล้วให้ คริสเตียน ปานุชชี่ ดาวรุ่งจากแบ๊กขวา มาเป็นแบ๊กซ้ายในเกมนั้น ซึ่งถือเป็น “มัลดินี่ โมเดล”

สุดท้าย มิลาน ถล่ม บาร์ซ่า แหลกคาแข้ง 4-0

เขาถูกยกย่องให้ได้รับฉายา คือ “Il Capitano” หรือ “สุดยอดกัปตัน” ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

ว่ากันตามเชิง หลังจากหมดยุคของเขาแล้ว มิลานก็ถอยหลังลงคลองมาเรื่อยๆ...

l มาถึงรุ่นหลาน รุ่นที่ 3...

เปาโล มัลดินี่ สมรสกับ อาเดรียน่า ฟอสซ่า นางแบบชาวเวเนซุเอลา มีบุตรอยู่ในเส้นทางสายฟุตบอลทั้งคู่ก็คือ คริสเตียน กับ ดาเนี่ยล

คริสเตียน เป็นคนที่ถูกจับตามองอย่างมาก เมื่อเขาปรากฏตัวในสนามซาน ซีโร่ ตั้งแต่เด็ก กับ เปาโล พร้อมกับถนัดเท้าซ้ายเหมือนกัน เล่นในตำแหน่งเดียวกันกับพ่อ แต่ในเส้นทางการเล่นอาชีพ ไม่สามารถจะฝ่าดงแข้งขึ้นมาอยู่ในชุดใหญ่ได้ หลังจากอยู่กับ มิลาน ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ก่อนจะย้ายออกไปอยู่ที่ เรจจิน่า ในปี 2016 โดยไม่เล่นให้ชุดใหญ่ของ มิลาน เลย

ปัจจุบัน คริสเตียน อายุ 23 ปี อยู่กับสโมสรโปร เซสโต้ ในทีมเซเรีย ดี/บี หรือ Serie D/B

 

ตระกูลลูกหนังมัลดินี่ เซซาเร่, ดาเนี่ยล และเปาโล

 

ฝั่งของ ดาเนี่ยล อายุ 18 ปี ผิดแปลกจากทุกคนในตระกูลนี้เมื่อเป็นนักเตะในเกมรุก เล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ สูงเท่าพ่อเป๊ะ ๆ คือ 187 เซนติเมตร ขึ้นไปติดทีมชาติอิตาลี ชุดยู-18 และยู-19 เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับประเดิมชุดใหญ่ให้กับ มิลานในศึกไอซีซีคัพ รวมถึงได้เล่น กัลโช่ เซเรีย อา นัดแรก ในฐานตัวสำรองในเกมเสมอกับ เวโรน่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เส้นทางลูกหนังของหนุ่มน้อยคนนี้ยังอีกยาวไกล แต่มาโดนเบรกไว้ด้วยโคโรนาไวรัส

ที่ทุกคนเชื่อมั่นว่า มันคือการเบรกชั่วคราวแล้วก็จะต้องผ่านพ้นไป

เพื่อสร้างตำนานที่ยิ่งใหญ่ต่อไปกับตระกูลแห่งฟุตบอล!!!

บี แหลมสิงห์

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เบื้องหลังชิงบิ๊กเอียร์ เมื่อแข้ง‘อังกฤษ’สิ้นซาก ไปไม่ถึงเวมบลีย์ เบื้องหลังชิงบิ๊กเอียร์ เมื่อแข้ง‘อังกฤษ’สิ้นซาก ไปไม่ถึงเวมบลีย์
  •  

Breaking News

'ทร.สัตหีบ'ชวนชมเรือตัดน้ำแข็งXuelong2 ครั้งแรกในไทย

สว.ตั้ง‘กมธ.ร่วม’สอบมติ‘แพทยสภา’ลงโทษหมอรักษา‘ทักษิณ’ชั้น14

หึงโหด! ผช.ผญบ.สุดทน! ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเมียดับ หลังจับได้คบซ้อน

ขนกันถี่ยิบ! คาราวานขนยานรกปะทะทหารผาเมืองยึดยาบ้า 1 ล้านเม็ด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved