บุนเดสลีกา พร้อมแล้วที่จะกลับมาลงสนาม
ในห้วงเวลาแห่งการล็อกดาวน์วงการกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลที่คอลูกหนังตามข่าวกันแบบ “ชิดติดขอบ”
เมื่อไหร่จะกลับมาลงสนามอีกครั้ง
ปรากฏว่า สองคู่ปะทะตลอดกาล “ดอยช์-ดัทช์” กลับเลือกเส้นทางที่แตกต่างกันออกไป
ดอยช์ลันด์ เยอรมนี กำลังจะกลับมาแข่งขัน ส่วน ดัทช์แมนถอนสมอยกเลิกซีซั่นกันไปแล้ว.....
ประเด็นการกลับมาเตะของฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ที่มีการนำเสนอกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อวานว่า เป็นไปได้จะกลับมาตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมนี้ เป็นอย่างเร็ว
น่าสนใจก็คือมีการหยิบประเด็นเรื่อง “หน้ากากอนามัย” ที่อาจจะเป็นอีกทางเลือกที่จะใช้แข่งขันในครั้งนี้
มีความเหมาะสมหรือไม่
เป็นงานที่ประชุมกันเพื่อหาคำตอบและแนวทาง ก่อนจะมีข้อสรุป เพื่อนำเสนอไปยัง ฮูเบอร์ตุส เฮล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและกิจการสังคมแห่งชาติ
แน่นอนที่สุดว่า บุนเดสลีกา หากว่า อยากจะกลับมาแข่งขันจะต้องมีการให้คำชี้แจงเกี่ยวกับแนวคิดด้านสุขอนามัยให้ชัดเจนที่สุด
ลีกดัทช์ ตัดจบซีซั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีแชมป์และไม่ตกชั้น
กระทรวงแรงงานยืนยันว่า ได้รับรายงานจากผู้เชี่ยวชาญที่พิจารณาถึงการกลับมาแข่งขัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อความปลอดภัยในครั้งนี้ และกำลังทำงานร่วมกับ บุนเดสลีกา อย่างต่อเนื่อง
มีแนวคิดที่จะให้ผู้เล่นทุกคน, โค้ช, บุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลที่จะเกี่ยวข้องกับการแข่งขัน พักที่เดียวกันทั้งหมด อาทิ พักที่โรงแรมขนาดใหญ่ด้วยกัน
ต่อมาคือ การป้องกันทางปากและจมูกที่เหมาะสมกับนักกีฬา เพื่อลดการสัมผัสโดยตรงกันระหว่างนักกีฬา
แต่ในการใช้ชีวิตปกติ มีการรายงานว่า หน้ากากจะเปียกเหงื่อเร็วมาก รวมถึงปริมาณการหายใจที่เพิ่มขึ้น และจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 15 นาที
เรื่องนี้ มาร์คุส โครเช่อ ผู้อำนวยการกีฬาของอาร์เบ ไลป์ซิกยืนยันว่า เป็นเรื่องยากเพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีความเครียดทางกายภาพ จริงอยู่ที่คุณสามารถที่จะวิ่งภายใต้หน้ากาก แต่คุณทำได้ไม่กี่ครั้งแน่นอน คำแนะนำการใส่หน้ากากเป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับผมมันเป็นไปไม่ได้
มิชาเอล เพรตซ์ คนเหล็กแห่งแฮร์ธ่า เบอร์ลิน ในฐานะผู้จัดการของ “หญิงชรา” กล่าวว่า การตัดสินจากฝั่งการเมืองคือสิ่งที่เรารออยู่ เช่นเดียวกับการพัฒนาอุปกรณ์ป้องกันสำหรับนักกีฬาที่ดีที่สุด และปลอดภัยสำหรับทุกคน
ดร.คาร์ล-ไฮน์ริช ดีทต์มาร์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ “ห้างยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น บอกว่า การสวมหน้ากากเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ เพราะการหายใจจะถูกปิด ไม่ว่าจะเป็นผ้าธรรมดา หรือหน้ากากที่ผ่าตัด ผมคิดว่าหน้ากากไม่จำเป็นสำหรับฟุตบอล เพราะทุกคนผ่านการตรวจเชื้อมาแล้ว และโอกาสติดเชื้่อมีเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำมากๆ
ทั้งนี้ คริสเตียน ไซเฟิร์ต ประธานสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี หรือ เดเอฟเบ ได้กล่าวหลังจากการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ว่า สโมสรฟุตบอล 36 แห่ง มีความพร้อมแล้ว แต่ต้องการการอนุมัติจากรัฐบาลเท่านั้น
เบื้องต้นในแผนการทำงานก็คือ มีคนอยู่ในสนามได้จากเดิม 125 คน ได้สูงสุดไม่เกิน 322 คน ทุกคนจะต้องผ่านจุดการคัดกรองทั้งหมดก่อนจะเข้าสู่สนามได้
แผนงานทั้งหมดทั้งมวลจะถูกส่งไปยังสภาเมืองทั้งหมด13 รัฐ และเขตปกครองพิเศษอีก 3 แห่ง ให้ได้พิจารณาพร้อมกันร่วมกับภาครัฐบาล ซึ่งมี นางอังเกลา แมร์เคิล เป็นผู้นำ
นัดประชุมกัน 30 เมษายนนี้ จะได้รับคำตอบที่ชัดเจน
อังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนี จะเป็นผู้ให้คำตอบได้ว่า ฟุตบอลบุนเดสลีกา จะกลับมาเมื่อไหร่
....ในทางตรงข้าม ข้อบทสรุป “เอเรดิวิซี่ ลีก” เนเธอร์แลนด์หลังประกาศ “ตัดจบ” ซีซั่นไปเป็นที่เรียบร้อย แบบตัดก่อนไม่รอใครแล้ว!!!
หลังจากกฎเหล็กของรัฐบาล โดย มาร์ค รุสเตอร์นายกรัฐมนตรี ประกาศห้ามแข่งกีฬาจนถึงวันที่ 1 กันยายนนี้
อันที่จริง สมาคมฟุตบอลดัทช์ KNVB หรือ The Royal Netherlands Football Association อยากกลับมาเตะแต่ติดคำประกาศภาครัฐจึงประชุมหาทางออก เพราะถ้ากลับมาเตะเดือนกันยายนคือ เป็นไปไม่ได้แน่นอน
รายงานที่ประชุมมีรายละเอียดการโหวตของสโมสรสมาชิกที่ไม่ลงตัว ทำให้ KNVB ตัดสินใจเทคแอ๊กชั่น ประกาศยกเลิกซีซั่นนี้
โดยใช้คำว่า cancel, abandoned หรือคำว่า SCRAP นั่นคือตัดจบฤดูกาล
การตัดจบยกเลิกครั้งนี้ มีนัยสำคัญก็คือไม่ได้เป็นการ “โมฆะ” การแข่งขัน หรือ “Void”เพราะใช้ฐานจากการแข่งขันปีนี้ และผลลัพธ์จากการแข่งขันส่งต่อไปยังซีซั่นหน้า ด้วยอันดับตอนบนตารางไปเล่นบอลยุโรป
ลีกจึงเป็นการตัดจบยกเลิก(Cancel)นั่นเอง
สาเหตุหลักที่หาแชมป์ไม่ได้ก็คือ อาแจ๊กซ์ กับ อาแซด อัลค์มาร์ มีคะแนนเท่ากันที่ 56 แต้ม จากการเตะ 25 นัด ชนะ 18 เสมอ 2 แพ้ 5 เท่ากันหมด แต่ประตูได้เสีย อาแจ๊กซ์ดีกว่า 8 ลูก
อาแจ็กซ์ แม้จะ “ไม่ได้แชมป์” แต่ “ได้สิทธิ์” ไปเตะแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มทันที ขณะที่ อาแซดเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก เพลย์ออฟ
อีก 3 ทีมคือ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม ไปเล่นยูโรป้า ลีก, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น กับ วิลเล่ม ทเว เตะคัดเลือกยูโรป้า ลีก
ในฝั่ง โควตาตกชั้นรวม 3 อันดับ ก็คือ 16 กับ 17 ที่ต้องเพลย์ออฟ และ 18 ตกชั้นอัตโนมัติ ถูกยกเลิกทั้งหมด ทำให้ ฟอร์ทูน่า ซิตตาร์ด, เดน ฮาก และวาลไวจ์ค รอดตายยิ่งกว่าควายขวิด
คัมบูร์ ทีมจ่าฝูงในศึก เอร์สเตอดีวีซี ชวดขึ้นชั้นทั้งที่ทำแต้มนำโด่ง โดยเส้นแบ่งเลื่อนชั้นเพลย์ออฟ กับอัตโนมัติมีช่องว่างแล้วถึง 11 แต้ม
ทำให้ เฮงค์ เดอ ยอง เทรนเนอร์ ด่ายับว่านี่คือสิ่งที่อัปยศสุดๆ ของวงการฟุตบอลดัทช์
แถลงการณ์จาก KNVB ยืนยันชัดเจนว่า เข้าใจทุกฝ่ายและเชื่อว่าหลายสโมสรไม่พอใจกับผลการตัดสินใจครั้งนี้ แต่ทุกอย่างตั้งอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของชีวิตประชาชนเป็นหลัก และจะต้องปฏิบัติตามกฎของรัฐบาล
นัยที่สำคัญคือ ภาครัฐบาล ซึ่งลีกอื่นๆ ก็เช่นกัน จะไปต่อได้มีแค่ 2 ข้อ
1.ภาวะและสถานะของไวรัส
2.เสียงจากรัฐบาล
เท่านั้นจริงๆ
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี