วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / กีฬา
การเป็นแชมป์ของ‘หงส์แดง’  สถิติฟุตบอลอังกฤษตลอดกาล

การเป็นแชมป์ของ‘หงส์แดง’ สถิติฟุตบอลอังกฤษตลอดกาล

วันอาทิตย์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag :
  •  

เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทัพ “หงส์แดง” เดินตามฝันได้สำเร็จแล้ว

So near and yet so far-Until now!!!...........ปีหน้าเอาใหม่นาทีนี้จบแล้ว!!!!


“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ผงาดแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และเป็นสมัยที่ 19

เป็นการรอคอยที่ยาวนานเหลือเกิน

จากผลการแข่งขันนัดนี้ ทำให้ ลิเวอร์พูล ผงาดแชมป์ได้อย่างแน่นอนแล้ว แม้จะเหลือเกมอีกถึง 7 เกมด้วยกัน แต่คะแนนขาดลอย

เพราะ ลิเวอร์พูล มีคะแนนถึง 86 แต้ม ทิ้งห่าง แมนฯซิตี้ ไปไกลถึง 23 คะแนนด้วยกัน ขณะที่เหลือคะแนนให้ล่าอีกแค่ 21 คะแนน

ตอนนี้เป็นแชมป์ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์จากเกมที่เหลืออยู่ 7 นัด ทุบสถิติเดิมคือ 5 เกม ไปอย่างราบคาบ

แต่ใช้การเตะนานที่สุดเนื่องจากฤดูกาลต้องหยุดไปเพราะโคโรนาไวรัส หรือ โควิด-19 นานกว่า 3 เดือน

ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โชว์ผลงานได้อย่างไร้เทียมทาน ด้วยการลงเล่น 31 นัดในลีก คว้าชัยชนะได้ถึง 28 เกม เสมอไป 2 และแพ้ 1 นัด พร้อมกับทำสถิติต่างๆ มากมาย

พวกเขาออกสตาร์ทชนะรวด 8 เกมแรก ก่อนจะสะดุดเกมแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยการเสมอกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 แต่จากนั้นก็ใส่เกียร์ห้าเดินหน้าชนะอีก 18 นัด ติดต่อกันเทากับสถิติบอลอังกฤษ ก่อนจะออกไปแพ้ วัตฟอร์ด แบบพลิกล็อก 0-3 ท่ามกลางกระแสข่าวลือหนักว่า ซีซั่นนี้จะยกเลิกเพราะโควิด-19

หลังจากเบียดชนะ บอร์นมัธ หวุดหวิด 2-1 ซีซั่นนี้ต้องยุติลงชั่วคราว และปิดยาวไปนานกว่า 3 เดือน “หงส์แดง” กลับลงสนามอีกครั้งด้วยการบุกไปเสมอ
เอฟเวอร์ตัน 0-0 เป็นการเสียแต้มครั้งที่ 3 ของซีซั่นนี้

ล่าสุดชนะ คริสตัล พาเลซ 4-0 ทำให้ทีมต้องการอีก 2 คะแนน จะเป็นแชมป์ แล้วก็จบข่าวเมื่อ แมนฯซิตี้ ไม่ผ่าน เชลซี ทำให้แชมป์กลับมาอยู่ที่แอนฟิลด์ครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ

ใช้เวลาในการรอคอยนานถึง 11,016 วัน ในรอยต่อที่รอแชมป์

l การเดินทางของ‘หงส์แดง’

อลัน แฮนเซ่น ชูถ้วยแชมป์โดยที่นักบอลหลายต่อหลายมาบอกตอนหลังว่า ไม่ได้ฉลองอะไรมากมายนัก นั่นก็เพราะว่า ช่วงนั้น ลิเวอร์พูล กำลังครองความยิ่งใหญ่ต่อเนื่องนานกว่า 2 ทศวรรษ

ไม่น่าเชื่อว่า จากนั้นพวกเขาต้องลงสนามถึง 1,149 เกม นับตั้งแต่ได้แชมป์ครั้งสุดท้าย กว่าจะประสบความสำเร็จอีกครั้งในปีนี้

อยู่ในสนามนานถึง 103,410 นาที และโอกาสใกล้เคียงต่อการเป็นแชมป์มากที่สุดคือซีซั่นที่แล้ว เมื่อทำแต้มถึง 97 คะแนน แต่ยังชวดแชมป์

“หงส์แดง” เอาชนะในเกมได้ 595 นัด นับเป็น 52 เปอร์เซ็นต์ และยิงได้ 1,968 ประตู หลังจากเป็นแชมป์เมื่อ 30 ปีก่อนใช้นักเตะไปทั้งสิ้น 239 คน โดยเป็นการซื้อตัวเข้ามาเสริมทัพ 218 คน

คนแรกคือ รอนนี่ โรเซนทาล ในราคา 1 ล้านปอนด์ และคนล่าสุดคือ ทาคูมิ มินามิโนะ 7 ล้านปอนด์ ยอดเงินในการซื้อนักเตะรวมทั้งสิ้น 1,470 ล้านปอนด์ด้วยกัน

ในช่วงเวลา 30 ปี ลิเวอร์พูล เสีย เคนนี่ดัลกลิช ที่อำลาทีมไปเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 1991ในช่วงที่กำลังบดบี้กับ อาร์เซนอล อย่างดุเดือด

จากนั้นทีมได้ตก “หลุมดำ” อย่างยาวนาน

ใช้ผู้จัดการทีมประกอบด้วย แกรม ซูเนสส์, รอย เอฟแวนส์, ก่อนที่ เอฟแวนส์จะทำงานคนคู่กับ เชราร์ อุลลิเย่ร์ ต่อด้วยอุลลิเย่ร์ ทำงานคนเดียว, ราฟา เบนิเตซ, รอย ฮอดจ์สัน, เคนนี่ ดัลกลิช, เบรนแดนร็อดเจอร์ส และคนปัจจุบันคือ เจอร์เก้น คล็อปป์

สโมสรผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายต่างๆมากมาย โดยเฉพาะอันดับร่วงไปอยู่ในโซนตกชั้นในปีฉลอง 100 ปีสโมสร ซีซั่น 1992-93 และการจะถูกยึดสิทธิ์การทีมเนื่องจากเป็นหนี้ธนาคาร เมื่อปี 2010

มีการทุบอัฒจันทร์สเปี้ยนค็อป ในปี 1994 ตามกฎหมายใหม่ของประเทศ จากเหตุการณ์ฮิลล์สโบโร่ ที่แฟนลิเวอร์พูล เสียชีวิต96 คน

หากถามถึงช่วงเวลาสุดยอดที่สุด คงจะไม่พ้น การได้ครอง 3 แชมป์บอลถ้วยปี 2001, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มหัศจรรย์ อิสตันบูล ปี 2005 และแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ที่มาดริด ปีที่แล้ว

ทำให้ตลอด 1 ขวบปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ผงาดครองแชมป์แบบครอบจักรวาล

เริ่มจากแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือแชมป์ยุโรป เป็นสมัยที่ 6 ด้วยการชนะสเปอร์ส ต่อด้วยครองแชมป์ซูเปอร์คัพ ด้วยการชนะ เชลซี และไปเป็นแชมป์สโมสรโลก ด้วยการชนะ ฟลาเมงโก้ ได้แชมป์เป็นสมัยแรก ก่อนจะครองแชมป์ที่แฟนฟุตบอลรอคอยได้สำเร็จ นั่นคือ พรีเมียร์ลีก หรือลีกสูงสุด เป็นสมัยที่ 19 ของสโมสร

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระหว่างเดือนมิถุนายน 2019 มาจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2020

l แชมป์สมัย19กับเส้นทางในซีซั่นนี้

การเป็นแชมป์ครั้งนี้ ทำให้ 7 เกมที่เหลือ ลิเวอร์พูล เอฟซี ยังมีหน้าที่ลงไปเพื่อทำสถิติต่างๆ ที่รออยู่ข้างหน้ามากมาย

อาทิ การชนะในบ้านทุกนัดในซีซั่นนี้ และการทำคะแนนทะลุเกิน100 คะแนน

แต่เดากันว่า คล็อปป์ จะมีการสลับนักบอลลงไปเล่นพอสมควร เหตุผลก็คือ การเตรียมสู่ฤดูกาลหน้า หลายคนอาจจะใช้เวทีตรงนี้ในการต่อกรเพื่ออนาคตของตัวเอง

ถามหน่อยว่า ใครจะอยากออกจากทีมที่เป็นแชมป์

ด้วยการที่ทุกทีมลงเล่นแบบกฎนิว นอร์มอล ดังนั้นแล้วการเปลี่ยนตัวได้ถึง 5 คน จะช่วยให้นักบอลหลายคนมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเอง กับการเล่นแบบ “ไร้ความกดดัน” ไปแล้วของสโมสร

ซึ่งแชมป์ทั้ง 19 สมัยของ ลิเวอร์พูล มีดังนี้ 1900-01, 1905-06, 1921-22, 1922-23, 1946-47, 1963-64, 1965-66, 1972-73, 1975-76, 1976-77, 1978-79,
1979-80, 1981-82, 1982-83, 1983-84,1985-86, 1987-88, 1989-90 และ 2019-20

เป็นทีมที่ 7 ในยุคพรีเมียร์ลีกที่ได้แชมป์ต่อจาก แมนฯยูไนเต็ด, แบล็คเบิร์น, อาร์เซนอล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเลสเตอร์ ซิตี้

สำคัญที่สุดก็คือ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่แชมป์หน้าใหม่ ตอนนี้ได้แชมป์ “ลีกสูงสุด” 19 สมัย เพราะฟุตบอลไม่ได้เริ่มในซีซั่น 1992-93

แต่ฟุตบอลเริ่มมาตั้งแต่ยุคพ่อของก๋ง หรือ ซูเปอร์ก๋ง ตั้งแต่ซีซั่น 1888-89

l 24ทีมแห่งอังกฤษผู้พิชิตแชมป์ประเทศ

เปรสตัน นอร์ธเอนด์ เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่สามารถครองแชมป์ประเทศได้สำเร็จ ในฤดูกาล 1888-89

ในยุคที่เรียกว่า ฟุตบอลลีก (FootballLeague)

จากนั้น 4 ปี เป็นการเล่นในชื่อว่าฟุตบอลลีก ดิวิชั่น 1 หรือ Football League First Division ซึ่งทีมแรกที่เป็นแชมป์ในชื่อนี้คือ “เรือรบ” ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งปัจจุบันคือ “แบล็คแคทส์”

เราเรียกตอนนั้นว่า ยุคที่สองก็ว่าได้ แม้ว่ายุคแรกจะเริ่มมา 4 ปีเท่านั้น

ฟุตบอลดิวิชั่น 1 เตะกันมายาวนานครบ 100 ปีพอดิบพอดี และเข้าสู่ “ยุคที่สาม” นั่นคือ พรีเมียร์ลีก

ทีมสุดท้ายที่ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 ก็คือ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นหนสุดท้ายด้วยที่ “คนอังกฤษ” เป็น “ผู้จัดการทีม” นั่นคือ ฮาวเวิร์ด วิลกินสัน

เมื่อเข้าสู่ยุคพรีเมียร์ลีกแบบเต็มตัว “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมแรกที่ได้แชมป์ และครองความยิ่งใหญ่ยาวนาน จนก้าวมาเป็นทีมที่ได้แชมป์ฟุตบอลลีกมากที่สุด 20 สมัย เมื่อปี 2013

ลิเวอร์พูล ที่นำโด่งมายาวนาน แต่พอหยุดไปถึง 30 ปี มาตอนนี้ทำให้อยู่ที่ 19 สมัย

“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล อยู่ที่ 13 สมัยเป็นอันดับ 3, “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตันเป็นอันดับ 4 ได้ 9 สมัย, “สิงห์เผ่นแห่งมิดแลนด์” แอสตัน วิลล่า อันดับ 5 ได้7 สมัย ขณะที่อันดับ 6 มี 3 ทีมร่วม คือ ซันเดอร์แลนด์ กับอีก 2 ทีมยุคใหม่อย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ “สิงห์บลูส์” เชลซี ทีมละ 6 สมัย

อันดับ 9 ร่วม นั่นคือ “สาลิกาดง”นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ 4 สมัยเท่ากับ “นกเค้าแมว” เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์

อันดับต่อมาคือที่ 11 มี 4 ทีม คือ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส,“ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด, “เดอะ เทอร์เรีย” ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ และ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทีมละ 3 สมัย

อันดับที่ 15 มีด้วยกัน 5 ทีม ประกอบด้วย เปรสตัน นอร์ธเอนด์, “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, “เดอะ คาร์เร็ตต์” เบิร์นลี่ย์, “ไอ้หัวแกะ” ดาร์บี้
เคาน์ตี้ และ “ปอมปีย์” พอร์ทสมัธ

ชุดสุดท้ายที่ได้ทีมละ 1 สมัย คือ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, “เดอะแบ๊กกี้ส์” เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน, “ม้าขาว”อิปสวิช ทาวน์, “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้

นี่คือบันทึกของยอดทีมแชมป์ของเมืองผู้ดีตลอดกาล.............

บี แหลมสิงห์

 

 

 

 

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ผงาดแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษเรียบร้อย
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ผงาดแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษเรียบร้อย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าของสถิติแชมป์มากที่สุด 20 สมัย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าของสถิติแชมป์มากที่สุด 20 สมัย
เปรสตัน นอร์ธเอนด์ คือทีมแรกที่ได้แชมป์ฟุตบอลอังกฤษ
เปรสตัน นอร์ธเอนด์ คือทีมแรกที่ได้แชมป์ฟุตบอลอังกฤษ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แฟนลุ้น!หงส์พร้อมทุ่มซื้อ‘อิซัค’ล่าตาข่าย แฟนลุ้น!หงส์พร้อมทุ่มซื้อ‘อิซัค’ล่าตาข่าย
  • สถิติสโมสร! นิวคาสเซิ่ลยื่นซื้อ\'เอกิติเก้\'ปักหอก สถิติสโมสร! นิวคาสเซิ่ลยื่นซื้อ'เอกิติเก้'ปักหอก
  • งานเข้า!’ยามาล’แข้งดังโดนสอบฉลองวันเกิด งานเข้า!’ยามาล’แข้งดังโดนสอบฉลองวันเกิด
  • ปืนได้เฮ!ปิดดีลจ่อคว้า‘เยอเคเรส’ปักหอก ปืนได้เฮ!ปิดดีลจ่อคว้า‘เยอเคเรส’ปักหอก
  • สุดยอด! \'สิงห์บลูส์\'ผงาดเจ้าสโมสรโลก สุดยอด! 'สิงห์บลูส์'ผงาดเจ้าสโมสรโลก
  • ‘หงส์แดง’แถลงการณ์จัดงานระลึกถึง‘โชต้า’ ‘หงส์แดง’แถลงการณ์จัดงานระลึกถึง‘โชต้า’
  •  

Breaking News

โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ ข้าราชบริพารในพระองค์ 223 ราย

ฝนถล่มอุดรฯ น้ำท่วมถนนหลายสายหนัก ชาวบ้าน 2 คนถูกไฟดูดเสียชีวิต

'วุฒิสภากัมพูชา'อนุมัติ! เปิดทางเพิกถอนสัญชาติพลเมืองที่ทรยศต่อประเทศชาติ

ช็อก! คลินิกความงาม หลอกขายคอร์ส เปิดหรูในห้างดัง พบเงินบัญชีม้าเกือบ 50 ล้าน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved