การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษวันพฤหัสบดีนี้ มีการแข่งขัน 4 คู่ โดยเป็นการลุ้นพื้นที่ไปแชมเปี้ยนส์ลีกของ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 4ที่มี 59 คะแนน เท่ากับ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5

เวลา 00.00 น. เลสเตอร์ จะได้เฝ้าบ้านเจอกับ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7ที่ยังแอบลุ้นพื้นที่อยู่ด้วยเช่นกัน เพราะมี 54 คะแนน โดยเจ้าถิ่นไม่มี คักลาร์ โซยุนคูปราการหลังเติร์ก ที่ติดแบน ทำให้ ไรอัน เบนเน็ตต์ จะได้ลงเล่นกับ จอนนี่ อีแวนส์ พร้อมกันนี้ เบน ชิลเวลล์ แบ๊กซ้ายตัวเก่ง กับ เจมส์ แมดดิสัน มิดฟิลด์มันสมองของทีมต้องรอทดสอบความฟิต

ขณะที่ “ดาบคู่” ที่กลับมาฟอร์มแรงชนะ 3 จาก 4 เกมหลังสุด ยังไม่มี ลุค ฟรีแมนกับ ลีออน คลาร์ก ที่บาดเจ็บทั้งคู่ พร้อมกับรอดูอาการของ จอห์น เฟล็ค ว่าจะไหวหรือไม่ ที่เหลือนั้นพร้อมลงสนามด้วยระบบ 3-5-2 ที่เล่นมาแล้วได้ผลตลอดซีซั่นนี้โดยคู่หน้าคือ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ย์ กับ เดวิด แม็คโกลดริค

ทางฝั่ง “ปีศาจแดง” จะยกพลลงใต้มาที่ลอนดอน ด้วยการเจอกับ “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ ที่สนามเซลเฮิร์ทส์ พาร์ค ในเวลา 02.15 น. โดยที่ โอเล่ กุนนาร์โซลชา กุนซือจะต้องเช็คฟิตนักเตะกันแบบบานตะไท หลังจากใช้นักเตะชุดเดิมกรำศึกต่อเนื่องและถี่ยิบแบบนี้มาถึง 5 นัดติดต่อกันซึ่งเป็นเหตุทำให้เกิดอาการล้าและพลาดสะดุดเสมอในนัดก่อน

ประเด็นตอนนี้คือ แบ๊กซ้ายทั้ง ลุค ชอว์และ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ต้องเช็คฟิตทั้งสองคน คาดว่าต้องเข็นลงมาสู้ ขณะที่แผงมิดฟิลด์ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ จะได้สตาร์ทเป็นตัวจริงเพื่อแบ่งเบาภาระตรงกลาง ส่วนแนวรุก แดเนี่ยล เจมส์ มีลุ้นลงแทน เมสัน กรีนวู้ด ที่ฟอร์มดร็อปไปในเกมนัดล่าสุด ส่วนเจ้าบ้านตอนนี้ฟอร์มหลังสภาพแย่สุดๆ แพ้เรียบมา 5 เกมรวด

ทั้งนี้ เลสเตอร์ กับ แมนยูฯ ต้องเร่งเครื่องเอาชนะให้จงได้ หลังจาก “สิงห์บลูส์” เชลซี เพิ่งจะเบียดชนะ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ 1-0 ทำให้ตอนนี้ เชลซี ยึดที่ 3 เหนียวแน่น มีอยู่ 63 คะแนนด้วยกัน