วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / กีฬา
วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ‘เปราะโคราช’พืชถิ่นเดียวของประเทศไทย

วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ‘เปราะโคราช’พืชถิ่นเดียวของประเทศไทย

วันอาทิตย์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 10.00 น.
Tag : ความรู้รอบตัว ความรู้เรื่องสุขภาพ โรคภัย วิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน
  •  

เมื่อพูดถึง “พืชถิ่นเดียว (endemic species) หลายๆ คนอาจสงสัยว่ามันคืออะไร ในทางวิชาการแล้ว “พืชถิ่นเดียว” หมายถึงพืชที่พบเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของโลก และมีขอบเขตการแพร่กระจายพันธุ์อย่างจำกัด ดังนั้น พืชถิ่นเดียวของประเทศไทย จึงหมายถึงพืชที่พบเฉพาะในประเทศไทยที่เดียวแห่งเดียวในโลกเท่านั้น “เปราะโคราช” เป็นพืชในวงศ์ขิงข่า (Zingiberaceae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Kaempferia koratensis Picheans. เป็นพืชที่ถูกค้นพบครั้งแรกในปี พ.ศ.2554 โดย คุณชยันต์ พิเชียรสุนทร นักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบในป่าเต็งรัง บริเวณเขาตะกุดรัง ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชประมาณ 20 กิโลเมตร ซึ่งตอนนั้นได้รายงานว่า พบเฉพาะบริเวณแหล่งตัวอย่างต้นแบบ (typelocality) เท่านั้น จึงเป็นพืชถิ่นเดียวของจังหวัดนครราชสีมาและถือเป็นพืชถิ่นเดียวของไทย ชาวบ้านในท้องถิ่นเรียกว่า ว่านเปราะขาวหรือว่านตูบหมูขาว (Picheansoonthon, 2011) ในบทความนี้เราจะเรียกกันว่า “เปราะโคราช” อันเป็นที่มาของชื่อวิทยาศาสตร์ที่ระบุแหล่งที่ค้นพบ “koratensis” ปัจจุบันยังไม่มีรายงานพบในจังหวัดอื่นๆ ของไทย


พื้นที่สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา มีสภาพภูมิประเทศคล้ายกับเขาตะกุดรังซึ่งเป็นแหล่งตัวอย่างต้นแบบของเปราะโคราช ก็มีพืชจำพวกเปราะขึ้นอยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งพบได้ทั้งป่าเต็งรังและป่าดิบแล้ง จากการตรวจสอบลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของ “เปราะ” ที่พบ พบว่ามีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ตรงตามที่คุณชยันต์ พิเชียรสุนทรได้รายงานไว้ นั่นคือ ใบเป็นใบเดี่ยว ในหนึ่งต้นมีเพียง 2-3 ใบใบอ่อนจะม้วนเป็นรูปแตรและค่อยๆ คลี่ออกจนแนบไปกับพื้น เมื่อใบแก่จะมีแผ่นใบหนาสีเขียวเข้มหรือเขียวสลับขาว ขอบใบมีสีม่วงมีลำต้นอยู่ใต้ดิน และรากออกเป็นกระจุก ช่อสีขาวมีกลิ่นหอมอ่อนๆ โคนกลีบตรงกลางมีสีเหลืองแซม โคนดอกเชื่อมกันเป็นหลอดยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ออกดอกในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี (Picheansoonthon, 2011) ดังนั้น “เปราะ”ที่พบในพื้นที่ของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชก็คือ “เปราะโคราช” นั่นเอง นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานเพิ่มเติมจากนายชัยพร ทับทิมทองหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวงว่า “เปราะโคราช” ยังพบในพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชเช่นเดียวกัน

เปราะโคราชเป็นพืชที่มีช่อดอกสีขาวล้วน ซึ่งพืชในสกุล “เปราะ” ที่มีช่อดอกสีขาวล้วนที่พบในประเทศไทยมี 2 ชนิด ได้แก่ เปราะใบแคบ Kaempferia fissa Gagnep. พบในท้องที่จังหวัดมุกดาหาร นครพนม และอุบลราชธานี และเปราะลวง Kaempferia fallax Gagnep. พบที่ประเทศลาวทางตอนใต้ และในพื้นที่นาในจังหวัดนครพนม อุบลราชธานีและอำนาจเจริญ อย่างไรก็ตาม เปราะทั้ง 2 ชนิดนี้ ดอกบานเฉพาะกลางคืนเท่านั้น (Picheansoonthon and Koonterm, 2008) ส่วนเปราะโคราช Kaempferia koratensis Picheans. ดอกจะบานเฉพาะกลางวันเท่านั้น

ปัจจุบันคนในท้องถิ่นนิยมนำเปราะโคราชมาใช้รับประทานหรือปรุงอาหาร เช่น การนำใบอ่อนที่ยังม้วนกลมมาลวกแล้วรับประทานร่วมกับน้ำพริก หรือเป็นผักเครื่องเคียงกับขนมจีนจะให้รสชาติเผ็ดร้อน หรือนำมาผัดกับน้ำมันก็ได้

อาทิตย์ จันทะดี

สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : เคล็ดลับความสวยจาก..ชาเขียว วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : เคล็ดลับความสวยจาก..ชาเขียว
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : การเพิ่มมูลค่า‘หน่อไม้ฝรั่ง’พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไฟเบอร์สูง วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : การเพิ่มมูลค่า‘หน่อไม้ฝรั่ง’พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไฟเบอร์สูง
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : แผลที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลากี่วันถึงจะหายดี วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : แผลที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลากี่วันถึงจะหายดี
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ฮอร์โมนและสารรบกวน (2) วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ฮอร์โมนและสารรบกวน (2)
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ฮอร์โมนและสารรบกวน (1) วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : ฮอร์โมนและสารรบกวน (1)
  • วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : การใช้สาหร่ายขนาดเล็กดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (2) วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : การใช้สาหร่ายขนาดเล็กดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (2)
  •  

Breaking News

เกษตรฯร่วมงานJapan-ASEAN Startup Business Meeting Fair 2025

แค่ครึ่งเดือนยาบ้าทะลักเชียงราย 8 ล้านเม็ด ยึดอาวุธปืนรวบผู้ต้องหาเพียบ

จับช่างแอร์ต่างด้าว! หัวร้อนท้าทายตำรวจ อ้างเดี๋ยวลูกพี่คนไทยมาช่วย

ผบ.ทสส.เตรียมนำ'หน่วยปฏิบัติการพิเศษ' ซ้อมรับมือวิกฤตชาติ จำลองเหตุ'ก่อการร้าย'ในสถานีรถไฟฟ้าพรุ่งนี้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved