ล้างตา : ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมทช์ กลับมาปะทะกันอีกครั้งในวันเสาร์นี้ที่แอนฟิลด์ หลังจากเกมแรกที่พบกันเมื่อต้นซีซั่นเสมอกัน 2-2 พร้อมกับมีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งการเจ็บหนักของ เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, ธิอาโก้ โดนเสียบหนัก และ VAR ริบประตูชัยของ ลิเวอร์พูล
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์นี้มีการดวลแข้งกันทั้งหมด 4 คู่ โดยเกมสำคัญอยู่ที่ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมทช์ที่สนามแอนฟิลด์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี แชมป์เก่า จะดวลกับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมืองในเวลา 00.30 น.
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งหาชัยชนะเจอในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีกด้วยการบุกไปเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 2-0 แต่ผลงานในลีกแพ้มา 3 นัดรวด เกมนี้ยังเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บรบกวน ซึ่งเป็นหน้าเดิมๆ อาทิ เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ รวมไปถึง ดิโอโก้ โชต้า ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มีทางเลือกมากนักอาจจะต้องใช้ชุดเดิมด้วยการถอย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงไปยืนเซ็นเตอร์คู่กับ โอซาน คาบัค แดนกลาง วาง ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุมและเคอร์ติส โจนส์ คอยคุมจังหวะเกม สามประสานเกมรุกยังเหมือนเดิม นำโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
ทีมเยือนที่อยู่ฝั่งสแตนลี่ย์ พาร์ค ก็ฟอร์มห่วยแตกพอๆ กัน 2 นัดล่าสุดพ่ายคารังแถมยังโดนส่องไปถึง 5 ประตู และไม่ชนะใครมา 3 นัดติดในบอลลีกเช่นกัน เกมนี้ได้ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น หัวหอกตัวความหวังกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง ส่วนในรายของ เยอร์รี่ มิน่า บาดเจ็บเล่นไม่ได้แน่นอน มีความเป็นไปได้ว่า เบน ก็อดฟรีย์จะยืนคุมแนวรับกับ ไมเคิ่ล คีน ส่วนแบ๊คขวาต้องเลือกระหว่างเมสัน โฮลเกต หรือ เซมุส โคลแมน ขยับมาที่แดนกลาง อัลลัน ยังไม่พร้อม ทำให้ ทอม เดวีส์ จะได้เล่นกับ อับดูลาย ดูคูเร่ เหมือนเดิมขณะที่แนวรุก ฮาเมส โรดริเกซ น่าจะออกสตาร์ทตัวจริงปั้นเกมร่วมกับ กิลฟี่ ซิกูร์ดสสัน และริชาร์ลิซอน
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล (4-3-3):อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ธีอาโก้อัลคันทาร่า, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, เคอร์ติช โจนส์, โมฮาเหม็ด |ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1): จอร์แดน พีคฟอร์ด, เมสัน โฮลเกต,ไมเคิ่ล คีน, เบน ก็อดฟรีย์, ลูก้าส์ ดีญ, อับดูลาย ดูคูเร่, ทอม เดวีส์, ฮาเมส โรดริเกซ, กิลฟี่ ซิกูร์ดสสัน, ริชาร์ลิซอน และโดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น
สถิติการพบกันทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ให้กับเอฟเวอร์ตันติดต่อกัน 23 เกม ครั้งสุดท้ายที่ทีม “ทอฟฟี่” เอาชนะได้ต้องย้อนกลับไปในปี 2010 ส่วนการเจอกันหนล่าสุดในฤดูกาลนี้ที่กูดิสัน พาร์คเสมอกันไป 2-2 จากจังหวะปัญหาดราม่าที่ จอร์แดน พีคฟอร์ดไปเสียบ เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค จนบาดเจ็บปิดเทอมยาว และเป็นเหตุให้ ลิเวอร์พูล ต้องเกิดเหตุการ์ปั่นป่วนมาตลอดซีซั่น รวมไปถึง VAR ที่รีบสกอร์ท้ายเกมจากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน่ ล้ำหน้า ส่วนปรีวิวคู่อื่นมีดังนี้
เซาแธมป์ตัน-เชลซี เวลา 19.30 น. “นักบุญ” เซาแธมป์ตันที่ผลงานกำลังย่ำแย่สุดๆ แพ้มา 6 เกมรวดในลีก มิหนำซ้ำเกมนี้ยังไม่มี ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส แบ๊กขวาคนสำคัญที่ดันมามีอาการบาดเจ็บอีก เช่นเดียวกับตัวที่เดี้ยงอยู่แล้วอย่าง ไมเคิ่ล โอบาเฟมี่, วิลเลี่ยม สมอลโบน และธีโอ วัลค็อตต์ ทำให้เกมนี้อาจจะต้องขยับเอา แจ๊ค สตีเฟ่นส์ ไปยืนแบ๊กขวาแทน นอกนั้นไม่มีอะไรต้องกังวลจัดทีมในระบบ 4-4-2 แผงกลางยืนแบบเรียงหน้ากระดาน นำโดย สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, โอริโอล โรเมอู, เจมส์ วอร์ด-พราว์ส และทาคุมิ มินามิโนะ ส่วนคู่หัวหอกใช้ แดนนี่ อิงค์ส และเช อดัมส์
ทีมเยือน “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่แซงทั้ง ลิเวอร์พูล และเวสต์แฮมขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของตารางเรียกได้ว่ากำลังมั่นใจสุดๆ แต่เกมนี้จะไม่มี แทมมี่ อบราฮัม หัวหอกที่มีอาการบาดเจ็บ ในรายของ ติอาโก้ซิลวา และไค ฮาแวร์ตซ์ รอเช็คความฟิต คาดว่ากุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ไม่น่าจะปรับทีมอะไรจากเกมล่าสุดที่เอาชนะ นิวคาสเซิ่ลยูไนเต็ด มา 2-0 วาง จอร์จินโญ่ คุมแดนกลางร่วมกับ มัตเตโอ โควาซิซ ตัววิงแบ๊กสองฝั่งใช้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และมาร์กอส อลอนโซ่ สามประสานในเกมนี้เลือก เมสัน เม้าท์, ตีโม แวร์เนอร์ และโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
สถิติการพบกันทั้งสองทีม เชลซี ทำได้ดีกว่าเล็กน้อยเอาชนะได้ 2 ครั้ง เสมอ 2 และเซาแธมป์ตัน ชนะ 1 ครั้ง หนล่าสุดที่เจอกันในฤดูกาลนี้ที่ เดอะ บริดจ์ เสมอกันไปแบบสนุก 3-3 โดยเกมนัดนี้ พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ถ่ายทอดสดให้ชมฟรีถึงบ้านตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
เบิร์นลี่ย์-เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เวลา 22.00 น. เจ้าบ้าน “เดอะ คลาเร็ตต์” นัดล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านเสมอกับฟูแล่มมา 1-1 เกมนี้ไม่มี โยฮัน เบิร์ก กุดมุนด์สสัน ที่มีอาการบาดเจ็บ ที่เหลือรอเช็คความแข้งบางราย แถมยังได้ เบน มี หายจากอาการบาดเจ็บพร้อมกับมายืนคุมแนวรับร่วมกับ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ แดนกลางยังใช้แอชลีย์ เวสต์วู้ด และแจ็ค คอร์ก เป็นตัวคุมจังหวะเกม ขนาบข้างไปด้วยริมเส้นอย่าง จอช บราวน์ฮิลล์ และดไวท์ แม็คนีล โดยมีแอชลีย์ บาร์นส์ และเจย์ โรดริเกซ เป็นคู่กองหน้า
ทางฝั่งผู้มาเยือน “เดอะ แบ๊กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไม่ชนะในลีกมาแล้ว 6 เกมติด เป็นการแพ้ถึง 4 ทำให้โอกาสรอดตกชั้นเป็นได้ไปยากสุดๆ เกมนี้รอเช็คความฟิตของ กราดี้ เดียงกาน่า
แนวรุกฝั่งซ้ายที่บาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรมาในระบบ 4-5-1 นำโดยแกนหลักอย่าง โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, เอนสลีย์เมตแลนด์-ไนลส์, โอกาย โยคูสลู, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มาเตอุส เปเรยร่า และเอ็มบาย ดิอักเน่
สถิติการพบกันทั้งสองทีม กลายเป็นเวสต์บรอมวิช ที่ทำได้ดีกว่าเอาชนะได้ 2 ครั้ง เสมอ 2 และเบิร์นล่ีย์ ชนะ 1 ครั้ง การเจอกันในซีซั่นนี้เกมแรกเมื่อ 19 ตุลาคม เสมอกันไปแบบไม่มีสกอร์ 0-0
ฟูแล่ม-เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เวลา 03.00 น. คู่ดึกสุดเป็นการเจอกันของสองทีมท้ายตาราง “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ที่ได้เล่นในคราเว่นคอตเทจ ผลงานใช้ได้แพ้แค่เกมเดียวจาก 6 นัดหลังสุด เกมนี้ยังไม่มี ทอม เครนีย์ มิดฟิลด์ที่บาดเจ็บ เช่นเดียวกับอเล็กซานดาร์มิโตรวิช นอกนั้นพร้อมลงสนามได้หมด คาดว่า สก็อตต์ พาร์คเกอร์จะใช้ทีมชุดเดิมที่เพิ่งเสมอกับ เบิร์นล่ีย์ ลงเล่น นำโดย แฮร์ริสัน รีด,มาริโอ เลมิน่า, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, บ๊อบบี้ เด คาร์โดว่า-รี๊ด,อเดโมล่า ลุคแมน และจอช มาจ้า
ทางฝั่ง “ดาบคู่” จำเป็นต้องตั้งเป้าเก็บ 3 คะแนนให้ได้กับทุกนัดที่เหลืออยู่ หากยังหวังที่จะรอดพ้นการตกชั้น เกมนี้เจอปัญหาใหญ่เมื่อไม่มีแกนหลักในเกมรับอย่าง จอห์น อีแกน ที่บาดเจ็บ บวกกับที่เดี้ยงอยู่แล้วอย่าง ซานเดอร์ เบิร์ก, แจ็ค โอคอนเนลล์ และจอห์น เฟลค ทำให้จอมเก๋า ฟิล จากีลก้า จะได้ลงเล่น เช่นเดียวกับ เบน ออสบอร์น ในแดนกลาง วิงแบ๊กขวา จอช บัลด็อค หายเจ็บแล้วจะกลับมาเป็นตัวจริง โดยมี เดวิด แม็คโกลดริค เล่นหน้าคู่กับพาร์ทเนอร์อย่าง บิลลี่ ชาร์ป
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ฟูแล่ม เหนือกว่าเอาชนะได้ 3 ครั้ง เสมอ 1 และเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ชนะ 1 ครั้ง เจอกันในซีซั่นนี้ที่บ้านของ เชฟฟิลด์ฯ เสมอกันไป 1-1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี