การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรกฤดูกาล 2563-64 เมื่อค่ำวันอังคารที่ 6 เม.ย.2564  ที่ผ่านมามี2 แมตซ์  แมตซ์แรก เรอัล มาดริด  ราชันชุดขาวแห่งสเปนอดีตแชมป์ 13 สมัยดวลลิเวอร์พูลอดีตแชมป์ 6 สมัยจากอังกฤษ ที่ถิ่นของชุดขาวที่สนาม  เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่  นัดนี้โค้ชซิเนอดีน  ซีดานมีปัญหาขาด2 แนวรับดาเนียล การ์บาฆาล กับ เซร์คิโอ รามอส บาดเจ็บ ขณะที่ ราฟาเอล วาราน ติดโควิด ส่วนหงส์แดงนั้น  เยียร์เก้น  คล็อปป์ส่งดีโอโก้ โชต้านักเตะโปรตุกีสที่ยิง 2 ประตูในเกมกับ อาร์เซน่อล ลงตัวจริงร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่  เกมจบลงใน90 กว่านาทีฝั่งเรอัลมาดริดเจ้าบ้านเอาชนะไปได้ในเกมแรก3-1 โดยประตูแรกในนาทีที่27 จาก โทนี่ โครส โยนบอลยาวให้ วินิซิอุส วิ่งสอดข้างหลัง เนธาเนียล ฟิลลิปส์ ก่อนพักบอลลงได้แล้วยิงด้วยขวาระยะ 18 หลาเข้าไปอย่างสุดยอด มานาทีที่ 36  ชุดขาวนำ2-0 ในนาที 36 เมื่อบอลยาวของ โทนี่ โครส ได้ผลอีกครั้ง โครส เปิดบอลไปหน้าเขตโทษ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ โหม่งผิดเหลี่ยมเข้าเขตโทษตัวเองมี มาร์โก อาเซนซีโอ ดักรออยู่แล้วก่อนกระดกหนี อาลีสซง เบ็คเกอร์ แล้วยิงง่ายๆ เข้าไป  ท้ายครึ่งแรก  คล็อปป์ ตัดสินใจถอน นาบี เกอิต้า ที่เล่นไม่ดีนักออกแล้วส่ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า ลงแทน จากนั้นจบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ออกนำ ลิเวอร์พูล 2-0 ครึ่งหลังนาที 51 ลิเวอร์พูล ตีไข่แตกได้ 2-1 ดีโอโก้ โชต้า ยิงบอลในเขตโทษติดบล็อก ลูก้า โมดริช บอลเด้งไปหา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงด้วยซ้ายติดมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนบอลเด้งกระแทกใต้คานเข้าประตูไปมาดริด นำห่าง 3-1 ในนาที 65 ลูก้า โมดริช รับบอลจาก คาริม  เบนเซม่า ก่อนจ่ายไปตรงจุดโทษให้ วินิซิอุส วิ่งมายิงด้วยขวาตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 2 ของ วินิซิอุส ในนัดนี้   ไมเคิ่ล โอเว่น นักวิเคราะห์ฟุตบอลให้เหตุผลที่ ลิเวอร์พูล แพ้ เรอัล มาดริด 1-3 เนื่องจากละเลยจุดเด่นเรื่องการเพรสซิ่งแดนบนคู่แข่ง ด้านริโอ เฟอร์ดินานด์   บอกว่ากองหลังหงส์แดงไม่มีเฟอร์กิล ฟาน ไดซ์กับโกเมซ  ทำให้แนวป้องกันของหงส์เป็นจุดด้อยอย่างแท้จริงในชุดนี้
มาคู่ที่ 2 ที่สนามเอติฮัดสเตเดี้ยม เรือใบ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ที่เต็งจ๋าจากอังกฤษทีมที่ไม่เคยได้แชมป์ถ้วยนี้มาก่อนเลยพบกับอดีตแชมป์1สมัยคือเสือเหลืองโบรุสซีอา ดอร์ทมุนด์จากเยอรมัน  เป๊ป  กวาร์ดิโอล่า  กุนซือสเแปนนิชใช้ระบบไม่มีหน้าเป้าธรรมชาติโดยส่ง ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น ลงเล่นร่วมกันในเกมรุก ส่วนดอร์ทมุนด์นำทัพมาโดย เบาท์ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงเก่งนอร์วีเจี้ยน เรือใบออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 19 เอ็มเร่ ชาน แนวหลังดังอดีตเด็กหงส์แดงไปเสียบอลกลางสนามแล้วโดนซิตี้โต้กลับทันที ฟิล โฟเด้น ปาดบอลจากซ้ายเลยไปเสาไกล ริยาด มาห์เรซ เก็บบอลทางฝั่งขวาก่อนปาดให้ เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งมายิงด้วยขวาระยะ 6 หลาตุงตาข่าย ครึ่งหลังนาทีที่ 84 เสือเหลืองตามตีเสมอ 1-1 เมื่อ เบาท์ ฮาแลนด์ ชิ่งบอลจังหวะเดียวให้ มาร์โค รอยส์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนแต่งแล้วยิงด้วยขวาเข้าไปสวยงาม นายทวารเอแดร์ซอน ปัดได้ปลายมือแต่เอาไม่อยู่   เกมทำท่าว่าจะเสมอแล้ว แต่นาทีสุดท้าย เรือใบมาได้ประตูชัย 2-1 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ตักบอลเข้าเขตโทษไปที่อิลคาย กุนโดกานดาวเตะเติร์กเยอรมัน ดูดบอลลงนิ่มๆ ก่อนไหลให้ ฟิล โฟเด้น แปง่ายๆ ตุงตาข่ายชนะไปได้2-1 ในนัดแรก