การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 คืนวันอังคารนี้มี 2 คู่ “สิงห์บลูส์” เชลซี เปิดบ้านเจอกับ เอฟซี ปอร์โต้ ในเวลา 02.00 น. นัดแรก เชลซี บุกไปเอาชนะมา 2-0

สถานการณ์ เชลซี ถือว่าได้เปรียบค่อนข้างเยอะ แถมเกมล่าสุดในลีกก็ผลงานร้อนแรงถล่ม คริสตัล พาเลซ มา 4-1 ทำให้เกมนี้โธมัส ทูเคิ่ล อาจจะโรเตชั่นทีมบางตำแหน่งตามความเหมาะสม ได้ ติอาโก้ซิลวา ที่ติดโทษแบนจากเกมลีกกลับมาเป็นตัวเลือก ความพร้อมถือว่าฟูลทีมไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน คาดว่า เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่หายเจ็บแล้วจะได้ลงเคาะสนิทคุมแดนกลางร่วมกับ มัตเตโอโควาซิซ แนวรุกใช้ ฮาคิม ซีเย็ค เล่นกับเมสัน เม้าท์ และโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ทีมเยือนไม่มีทางเลือกโดนยิงในบ้านมา 2 ประตู ต้องมาเปิดหน้าแลกเท่านั้น ข่าวดีคือการได้ แซร์จิโอ้ โอลิเวยร่าและเมห์ดี้ เตเรมี่ สองตัวทำสกอร์พ้นโทษแบนกลับมา คาดว่าจะได้กลับมาเป็นตัวจริงทันที ส่วนตัวเจ็บมีรายเดียว คือ มูฮาเหม็ด เอ็มบาย การกลับมาของโอลิเวยร่า จะทำให้ มาร์โก กรูยิช ต้องหลุดไปนั่งสำรอง ที่เหลือนำโดยแกนหลักอย่าง เปเป้, เฆซุส โคโรน่า, มาเตอุส อูริเบ้และ มุสซ่า มาเรก้า

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้, เซซาร์อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, อันเดรียสคริสเตนเซ่น, รีซ เจมส์, มัตเตโอ โควาซิซ,เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์กอส อลอนโซ่,ฮาคิม ซีเย็ค, เมสัน เม้าท์ และโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ปอร์โต้ (4-4-2) : ออกุสติน มาร์เชซิน,วิลสัน มานาฟ่า, ซานเซล เอ็มเบมบ้า,เปเป้, ไซดู ซานูซี่, เฆซุส โคโรน่า, มาเตอุสอูริเบ้, แซร์จิโอ้ โอลิเวยร่า, โอตาวิโอ้,มุสซ่า มาเรก้า และ เมห์ดี้ เตเรมี่

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม5 เกมหลังสุด เชลซี ทำได้ดีกว่าเอาชนะได้4 ครั้ง และปอร์โต้ ชนะ 4 ครั้ง การเจอกันนัดที่ผ่านมา สิงห์บลูส์ บุกขย้ำ 2-0

อีกคู่ “หอคอยฝังเพชร” ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ดวลกบ “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค เวลา 02.00 น. เช่นกัน หลังจากนัดแรกนั้น เปแอสเช ที่เลกแรกบุกไปเฉือนถึงอัลลิอันซ์ อารีน่า มาแบบสุดมันส์ 3-2 แถมฟอร์มในลีกก็ทำได้ดีบุกยำสตราส์บูร์ก 4-1

เกมนี้ยังไม่มี อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ และมาร์โก แวร์รัตติ สองแข้งอิตาเลียนที่ติดโควิด-19 แม้ว่าจะกลับมาซ้อมได้แล้วแต่ต้องรอผลการทดสอบอีกรอบ ส่วน มาร์ควินญอส มีอาการบาดเจ็บฟิตไม่ทัน ทำให้ ดานิโล่ เปเรยร่า ต้องถูกถอยลงมายืนเป็นเซ็นเตอร์คู่กับเพรสเนล คิมเปมเบ้ เพราะได้ เลอันโดร ปาเรเดส พ้นโทษกลับมาเสียบลงล็อกแบบพอดิบพอดี ส่วนตัวรุกถือว่าพร้อมทั้งหมด นำทัพโดย อังเคล ดิ มาเรีย, เนย์มาร์,ยูเลี่ยน แดร๊กซ์เลอร์ และคิลิยัน เอ็มบาปเป้

ฝั่ง “เสือใต้ แชมป์เก่าที่พ่ายคารังมาชนะ 1 ประตู ไม่เพียงพอต้องสองขึ้นไปเท่านั้น ผลงานเกมลีกน่าผิดหวังเสมอกับ อูนิโอน เบอร์ลิน 1-1 เกมนี้ยังไม่มีโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกคนสำคัญที่บาดเจ็บ เช่นเดียวกับ เลออน กอเร็ตซ์ก้า ส่วน แซร์ก นาบรี้ ไม่รู้ว่าครบกำหนดเวลากักตัวหลังติดโควิด-19 หรือยัง ที่น่าเป็นห่วงคือ คิงสลีย์ โกม็อง ที่บาดเจ็บจากนัดล่าสุด แต่เชื่อว่า ฮันซี่ ฟลีค จะเข็นลงที่เหลือบรรดาตัวหลักที่ได้พักจะจากเกมลีกจะคืนตัวจริงทั้งหมด

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเปแอสเช (4-2-3-1) : เคย์ลอว์ นาบาส, โคลิน ดั๊กบา, ดานิโล่ เปเรยร่า, เพรสเนล คิมเปมเบ้, มิทเชลล์ บัคเกอร์, เลอันโดร ปาเรเดส, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, อังเคล ดิ มาเรีย, เนย์มาร์, ยูเลี่ยน แดร๊กซ์เลอร์ และ คิลิยัน เอ็มบาปเป้

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอลนอยเออร์, เบนฌาแม็ง ปาวาร์, เยโรมบัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ่ เดวีส์, โยชัว คิมมิช, ฆาบี้ มาร์ติเนซ, เลรอย ซาเน่,โธมัส มูลเลอร์, คิงสลีย์ โกม็อง และเอริค มักซิม ชูโป-โมติง

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด บาเยิร์นฯ ทำได้ดีกว่าเอาชนะ 3และปารีสฯ ชนะ 2 แต่การไปเยือนพาร์ค เดอ แพร็งส์ หนล่าสุด “เสือใต้” เป็นฝ่ายแพ้แบบหมดรูป 3-0