มิราเคิล หรือ ต้นมหัศจรรย์ หรือ เทพสาคร มีชื่อสามัญ เรียกว่า Miracle fruit หรือ Richardella dulcifica หรือ Miraculous berry อยู่ในวงศ์ SAPOTACEAE เป็นไม้ผลพื้นเมืองของประเทศกานา แอฟริกาตะวันตก ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศคล้ายภาคใต้ของประเทศไทย จัดเป็นไม้ผลที่ปลูกยากชนิดหนึ่ง ออกรากช้า และเจริญเติบโตช้า ไม่ชอบแดดจัด เติบโตใต้ต้นไม้ใหญ่ได้ เป็นไม้พุ่มเล็กสูงประมาณ 2-3 เมตร อาจสูงได้ถึง 6 เมตร ผลเล็กคล้าย berry ขนาดประมาณ 2 เซ็นติเมตร เปลือกผลแก่สีแดงสด เนื้อในจะมีสีขาว มีรสหวานจัด แต่ปราศจากน้ำตาล ใช้เวลาปลูก 2 ปี จะมีการออกดอกติดผลตลอดทั้งปี พบการติดผลมากในช่วงฤดูหนาว
คุณสมบัติพิเศษของต้นมิราเคิล คือ เมื่อรับประทานผลสุกแก่เข้าไปแล้ว สารไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) ในผลจะไปเคลือบผิวของลิ้นอยู่นานประมาณ 1-2 ชั่วโมง เมื่อเรารับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเข้าไป จะไม่รู้สึกเปรี้ยว แต่กลับกลายเป็น “รสชาติหวาน” ปัจจุบันต้นมิราเคิลเป็นพืชที่ได้รับความสนใจของคนทั่วโลก มีการศึกษาเกี่ยวกับไม้ผลชนิดนี้จำนวนมาก อาทิ การศึกษาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ยังพบว่าวัยรุ่นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้นิยมรับประทานผลมิราเคิลก่อนที่จะรับประทานอาหารหรือดื่มไวน์ เพื่อทำให้รับประทานได้อร่อยยิ่งขึ้น อีกทั้งมีการนำผลมิราเคิลมาแปรรูปเป็นอาหารเพื่อสุขภาพในรูปของแคปซูล จากการศึกษาพบว่าผลมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
อาจารย์อานนท์ เอื้อตระกูล ผู้เชี่ยวชาญองค์การค้าโลก ประจำประเทศกานา ระหว่างปี 2532-2535 กล่าวถึงผลไม้มหัศจรรย์นี้ไว้อย่างน่าสนใจหลายประการ โดยเฉพาะในเรื่องของความเป็นพิษว่า “หลายคนเป็นห่วงว่าผลมิราเคิลอาจจะแฝงไปด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ทางสถานปฏิบัติการของกองทัพบกสหรัฐอเมริกาที่เมืองนาทิค (Natick) และบริษัท เมดิตรอน (Meditron) แห่งเมืองเวย์แลนด์ (Wayland) รัฐแมสซาชูเซตต์ได้ทำการศึกษาสารพิษดังกล่าวในผลไม้ชนิดนี้ ปรากฏว่าไม่พบ นอกจากนี้องค์การอาหารและเกษตร แห่งสหประชาชาติ ได้เห็นชอบกับการที่จะนำประโยชน์จากผลไม้ชนิดนี้มาใช้กับมนุษย์ เป็นอันว่ามิราเคิลรับประทานได้ไม่มีพิษต่อร่างกายของมนุษย์แต่อย่างใด”
ผู้ที่จุดประกายในเรื่องการค้นคว้าต้นมิราเคิลเป็นนักจิตวิทยา จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อ คุณลินดา ซัมเมอร์ฟิลด์ เธอให้ความสนใจศึกษาเรื่องจิตวิทยาเกี่ยวกับการลิ้มรส และได้ศึกษาผลมิราเคิลที่เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา เมื่อปี พ.ศ.2509 และได้เขียนรายงานเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของผลไม้ชนิดนี้ว่า มีส่วนช่วยในการลดความเครียดของผู้ป่วย ที่ถูกแพทย์ห้ามรับประทานของที่มีความหวานหรือมีพลังงานสูง
จากการศึกษาที่หลากหลายดังกล่าว ผลของต้นมิราเคิลได้รับความสนใจในเชิงการค้ามากขึ้นเป็นลำดับ มีบริษัทเอกชนหลายแห่งมีความต้องการผลผลิตของผลมิราเคิลเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปแปรรูปเป็นสารเพิ่มความหวานเทียม สำหรับใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการบริโภคความหวานที่มีพลังงานต่ำโดยมีความพยายามที่จะแปรรูปผลมิราเคิลให้คงสภาพและมีคุณสมบัติเหมือนเดิม แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร นอกจากนี้มีการนำเอาผลมิราเคิลไปตากแห้งแต่พบว่าทำให้คุณสมบัติเปลี่ยนแปลงไป การศึกษาในปัจจุบันพบว่าผลมิราเคิลจะคงสภาพและมีคุณสมบัติเดิมเมื่อมีการบริโภคสดเท่านั้น และมีการทดลองเก็บผลมิราเคิลไว้ในตู้เย็นจะอยู่ได้นานไม่เกิน 10 วัน ขณะนี้มีการศึกษาเพื่อหาวิธีการให้ผลมิราเคิลคงสภาพความสดได้นานถึง 3 เดือน เพื่อให้อายุการเก็บและมีผลสดบริโภคได้นานขึ้น
กัลยา จงรัตนชูชัย
กองประชาสัมพันธ์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี