เสื้อที่รับความนิยมสูงสุดอีกหนึ่งตัวในยูโรครั้งนี้ เปิดตัวเมื่อวันอาทิตย์ มีรายงานว่า ขายหมดภายในระยะเวลาแค่ 4 วันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เสื้อตัวนี้กลายเป็น“เสื้อเจ้าปัญหา” เพราะ“ฟุตบอล”ถูกแทรกด้วยการเมืองอีกครั้งอย่างชัดเจน

ทีมชาติยูเครน ได้รับคำสั่งให้ถอด “สโลแกนทางการเมือง” ออกจากเสื้อยูโร 2020 โดย Uefa หลังจากที่รัสเซียประท้วง เพราะเสื้อที่มีแผนที่แสดงที่ตั้งของ“ไครเมีย” รวมถึงวลี “Glory to the Heroes” ด้วย

นี่คือ ม็อตโต้ หรือ คติพจน์ ที่มีรากฐานมาจากการก่อความไม่สงบที่ต่อต้านโซเวียตมานานหลายทศวรรษของยูเครน!!!!

เรื่องนี้เกิดขึ้นจากจุดกำเนิด รากเหง้าที่มีมาช้านาน กระทั่งการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1991 ยังผลให้เกิดผลข้างเคียงที่ตามมา และถือว่าหนักหน่วงมากๆ

บันทึกโลกการล่มสลายของโซเวียต วันบ็อกซิ่งเดย์ โลกเปลี่ยนแปลงไป แผนที่โลกของกีฬาก็เกิดแรงกระเพื่อมกับความเคลื่อนไหวนี้

ครั้งนี้ยังไม่ทันเริ่มก็มีเรื่องของเสื้อยูเครน เข้ามาเกี่ยวข้อง

“โจมา” ชุดแข่งขันสัญชาติสเปนของ ยูเครน ออกแบบออกมาสะเทือนซางการเมืองเรื่องของ “ไครเมีย”

“ไครเมีย” เป็น“คาบสมุทร” และเป็น “สาธารณรัฐ” ที่มีสิทธิปกครองตนเองทางใต้ของยูเครน เป็นคาบสมุทรที่แบ่งทะเลทะเลดำกับทะเลอาซอฟ

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2014 กลุ่มชายสวมหน้ากากและเครื่องแบบที่ไม่บ่งบอกสังกัดบุกเข้ามาในเมืองซิมเฟอโรปอลของไครเมีย พวกเขามีอาวุธของรัสเซียและเข้ายึดอาคารที่ทำการรัฐบาลรวมทั้งฐานทัพของยูเครน กองกำลังลึกลับนี้ได้รับฉายาที่เรียกขานกันในหมู่ชาวไครเมียหลายชื่อรวมทั้ง “ชายสีเขียวตัวน้อย” และ“สุภาพชน” ซึ่งต่อมาทางการรัสเซียยอมรับว่าคนเหล่านี้

กองกำลังปฏิบัติการพิเศษ (SSO) นั่นเอง ภายหลังผู้นำรัสเซียได้ลงนามในคำสั่งให้วันที่ 27 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ และทางการไครเมียได้ตั้งอนุสาวรีย์แสดงความขอบคุณต่อ “สุภาพชน” ที่มาปลดปล่อยพวกตนไว้กลางเมืองอีกด้วย

ภายหลังผู้นำรัสเซียได้ลงนามในคำสั่งให้วันที่ 27 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ และทางการไครเมียได้ตั้งอนุสาวรีย์แสดงความขอบคุณต่อ “สุภาพชน” ที่มาปลดปล่อยพวกตนไว้กลางเมืองอีกด้วย

ตั้งแต่ครั้งนั้น ซึ่งกองกำลังรัสเซียเข้ามายึดครอง และผนวกไครเมียเข้ากับดินแดนรัสเซีย รวมถึงจัดให้มีการทำประชามติ ซึ่งผลปรากฏว่าชาวไครเมียถึง 95% มีความต้องการอยากเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซียมากกว่ายูเครน

อย่างไรก็ดี ในสายตาของสหประชาชาติและหลายประเทศในโลกยังคงยอมรับว่าไครเมียคือดินแดนในปกครองของยูเครน

ตามจุดยุทธศาสตร์ก็คือ ดินแดนแห่งนี้เกิดจากการอ่อนแอของอาณาจักร ออตโตมัน ที่ถูกฝรั่งเศสบีบบังคับทำสนธิสัญญาใน ค.ศ. 1852

สนธิสัญญานี้ มันทับซ้อน “สนธิสัญญาชุกไกนาร์จี” ที่ออตโตมันให้สิทธิ์พิเศษแก่รัสเซียในการปกครองคริสต์ศาสนิกชนกรีกออร์ธอด็อกซ์ในดินแดนออตโตมัน ซึ่งทำสนธิสัญญากันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1774

จนเกิดสงครามฝั่งพันธมิตร ชนกับ รัสเซีย ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 18 แล้วก็รุงรังกันมาเรื่อยๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ตัวอย่างมีเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2562 แอปเปิ้ล ก็โดนมาแล้ว

นักการเมืองและประชาชนชาวยูเครนทั่วไป โกรธจัดรุมประณามและเรียกร้องให้บอยคอตต์ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลหลังแอปพลิเคชั่นแผนที่โชว์ว่า ไครเมีย เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ระบุยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีสัญชาติสหรัฐฯ ไม่สนใจต่อความเจ็บปวดของคนยูเครนแม้แต่น้อย

มาในครั้งนี้ ยูฟ่า ยังอนุญาตให้ยูเครนใส่แผนที่ดังกล่าวบนชุดแข่งได้ แต่สั่งให้ลบข้อความภาษายูเครนที่มีความหมายว่า “ชัยชนะของฮีโร่” ออกไป

มันรุนแรงขึ้นจากโฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย “มาเรียซาคาโรวา” วิพากษ์วิจารณ์ชุดนี้เปรียบเทียบสโลแกนดังกล่าวกับเสียงเรียกร้องของนาซี และ ดีมิทรี ซวิชเชฟ ส.ส.รัสเซีย เรียกเสื้อตัวนี้ว่า “ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” และเรียกร้องให้ Uefa ดำเนินการ

ในฐานะคนชอบเสื้อบอลอย่างผม ผมมองว่า ชุดแข่งตัวนี้ กลายเป็นเสื้อในตำนาน เพราะมีนัยทางการเมืองทุกอย่างครบครันแม้จะมีแค่ 2 จุดเท่านั้นก็คือ แมป กับ ม็อตโต้

แต่เพียงแค่ 2 จุดนี่แหละครับ มันชัดเจนเหลือเกิน

“ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และการทหาร”..........ชัดเจนจริง ๆ

บี แหลมสิงห์