มานูเอล โลคาเตลลี่ มิดฟิลด์ตัวเก่งวัย 23 ปีจากซาซซูโอโล่ ทีมในกัลโช่ซีเรียอาที่เป็นเป้าหมายของทีมยักษ์ใหญ่หลายๆทีม ยิงคนเดียว2ประตูช่วยให้อิตาลีชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 ในศึก ยูโร 2020 กลุ่ม เอทำให้ อัซซูรี่ ตบเท้าเข้ารอบ 16 ทีมแน่นอนแล้ว ที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก, กรุงโรม  อิตาลี่  เริ่มเกม อิตาลี่ ครองบอลและมีโอกาสลุ้นจาก เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า ครอสไปให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ โขกเน้นๆ แต่กดไม่ลงข้ามคานออกหลังไป   นาทีที่ 19 แฟนบอลอัซซูรี่ได้เฮจากเตะมุมทางซ้าย ลอเรนโซ่ อินซินเย่ เปิดเข้ากลาง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เบียดกับ มานูเอล อาคานยี่ และ กรานิต ชาก้า บอลตกลงตรงหน้ากองหลังจากยูเวนตุสที่จิ้มเสียบตาข่ายแต่มีสัญญาณจาก วีเออาร์ ซึ่งระบุว่ามีการแฮนด์บอลเกิดขึ้นส่งผลให้ อิตาลี พลาดได้ประตูออกนำ นาทีที่ 26 อิตาลี นำ1-0 มานูเอล โลคาเตลลี่วางยาวทางซ้าย โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ลากจี้ก่อนจะกระชากเกือบสุดเส้นหลังตบเข้าในคืนให้ โลคาเตลลี่ ชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือจบครึ่งแรกอิตาลี่นำ1-0 ครึ่งหลังนาทีที่ 52 สกอร์มา 2-0 จากการต่อบอลของนิโกโล่ บาเรลล่า ไหลเข้าในให้โลคาเตลลี่ ที่ตั้งป้อมยิงด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษบอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าประตูไป

 สวิตเซอร์แลนด์ มีโอกาสลุ้นหนแรกในนาทีที่ 64 เมื่อสเตเว่น ซูเบอร์ ตัวสำรองหลุดเข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนจะยิงด้วยขวาติดเซฟ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ที่ใช้ขาซ้ายสกัดได้ หลังนำ2ประตู อัซซูรี่ อาศัยการดักจังหวะสวนกลับ และมีโอกาสจาก ชิโร่ อิมโมบิเล่ และ เฟเดรีโก้ เคียซ่า ตัวสำรองแต่ไม่เป็นผลท้ายเกมนาทีที่ 89 ราฟาเอล โตลอย ผ่านให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ที่พลิกตัวกดด้วยขวา ยานน์ ซอมเมอร์ พุ่งปัดโดนปลายมือแต่บอลเสียบตาข่าย จบเกม อิตาลี ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 คว้า 6 คะแนนเต็มเข้ารอบ 16 ทีมแล้ว แต่ต้องไปลุ้นแชมป์กลุ่มกับเวลส์ ในนัดสุดท้ายวันที่20 มิ.ย.นี้อิตาลี่ใต้การนำของโค้ชรูปหล่อโรแบร์โต้ มันซินี่ทำสถิติยิง 31ประตูใน9เกมชนะรวดและเป็น30เกมที่ไม่แพ้ใครใน3ปีที่ผ่านมาแถม 9 เกมที่ผ่านมายังไม่เสียประตูให้ทีมใดอีกด้วย

คู่ที่ 2  เวลส์ ในสถานการณ์ดีสำหรับการเข้ารอบน็อคเอาต์ยูโร 2020 เมื่อชนะ ตุรกี 2-0 จาก อารอน แรมซี่ย์ และ คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ แม้ แกเร็ธ เบล จะมีพลาดจุดโทษในครึ่งหลังด้วย   ในกลุ่ม เอที่สนามบากู โอลิมปิก สเตเดี้ยม, อาเซอร์ไบจาน เวลส์ ที่เสมอสวิตเซอร์แลนด์ใช้ทีมชุดเดิมมีดาวดังอย่าง เบน เดวิส, แดเนียล เจมส์, อารอน แรมซี่ย์ และ แกเร็ธ เบล ลงตัวจริงเริ่มได้6 นาที เวลส์ ได้ลุ้นก่อนเลย เมื่อ แกเร็ธ เบล แทงทะลุช่องเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ อารอน แรมซี่ย์ ทะลุกับดักล้ำหน้าเข้าไปแล้วล็อกหนึ่งทีเข้าเท้าขวาก่อนตวัดยิงยัดเสาแรก ทว่า อูกูร์ชาน ชาคีร์ ยังใช้ขาเซฟเอาไว้ได้

นาทีที่ 23 เวลส์ มีโอกาสเมื่อ เบล จ่ายตามช่องให้ แรมซี่ย์ หลุดเขตโทษฝั่งขวาแล้วซัดด้วยเท้าขวา ทว่าบอลข้ามคานออกไปแบบน่าผิดหวังสุดๆตุรกี ตอบโต้ขึ้นมา นาทีที่ 30 อุนแดร์ เปิดเตะมุมมาให้ คาน ไอฮาน เทกตัวโหม่ง แต่ โจ โมเรลล์ โขกสกัดทิ้งจากบนเส้นได้นาทีที่ 43เวลส์นำ 1-0 จากจังหวะที่ เบล ตักบอลจากระยะกว่า 35 หลาเข้าเขตโทษมาให้ แรมซี่ย์ สอดทะลุกับดักล้ำหน้าหลุดเดี่ยวมาพักอกในเขตโทษแล้วยิงผ่าน ชาคีร์ เข้าประตูไปหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์1-0นาทีที่ 61 เวลส์ ได้จุดโทษ เมื่อ เบล กระชากบอลไปโดน เซกี้ เซลิค เตะล้มลงไปผู้ตัดสินเป่าฟาวล์แต่เบลกลับเข้ามายิงข้ามคานออกไปไกลช่วงทดเจ็บนาทีที่ 5 มังกรแดงมาย้ำชัยเล่นเตะมุมสั้นแล้วเบลกระชากเลาะสุดเส้นหลังเข้าเขตโทษจ่ายให้ คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ ยิงตุงตาข่าย จบเกม เวลส์ เอาชนะ ตุรกี 2-0 เก็บไป 4 แต้มจากการเล่น 2 นัด

คู่ที่ 3 ประตูเดียวในช่วงทดเจ็บครึ่งแรกจาก อเล็กซี่ มิรานชุค พา รัสเซีย เก็บ3แต้มคว้าชัยเหนือฟินแลนด์ 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี ที่สนามเครสตอฟสกี้ สเตเดี้ยม เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ฟินแลนด์ ที่มีตุนอยู่สามแต้มจากชัยชนะเหนือ เดนมาร์ก 1-0 วางคู่หน้าคู่เดิม ทีมู พุกกี้ กับ โยเอล โพยานพาโล่ เผชิญหน้ากับ รัสเซีย ที่ต้องเน้นเกมรุกเต็มที่ เพราะแพ้ เบลเยียม มาในนัดแรกถึง 0-3 ครึ่งแรก ฟินแลนด์ เฮเก้อตั้งแต่ 3 นาทีแรก จากจังหวะต่อบอลในแดนตัวเองของ รัสเซีย แล้วเสียบอล ยุคค่า ไรทาล่า ตัดได้แล้วครอสจากด้านขวา โยเอล โพยานพาโล่ ขึ้นโหม่งเสียบมุม แต่พอเช็ก วีเออาร์ เป็นจังหวะล้ำหน้า

 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกไป 2 นาที รัสเซีย มาได้ประตูสำคัญขึ้นนำ 1-0 อาร์เต็ม ชียูบา จ่ายเข้าเขตโทษด้านขวา อเล็กซี่ มิรานชุค แต่งบอลเข้าเท้าซ้ายแล้วซัดเสียบเสาสอง ครึ่งหลัง ฟินแลนด์ บุกหวังทวงประตูคืน แต่เกือบโดน รัสเซีย ยิงเพิ่มในนาที 66 ริฟาต เชมาเลทดินอฟ หลุดไปยิงซ้ายในกรอบโทษเฉียดเสาสองนิดเดียวนาที 72 ดาเลอร์ คูเซียเยฟ รับบอลหน้ากรอบโทษระยะ 18 หลา ปั่นเล็งเสาสองแล้ว แต่ ลูคัส ฮราเดคกี้ เซฟออกหลังไปอย่างหวุดหวิดเวลาที่เหลือเจ้าบ้านยันสกอร์อยู่ จบเกม รัสเซียชนะ ฟินแลนด์ 1-0 เก็บสามคะแนนแรก