ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบรองชนะเลิศ คู่ที่ 2 เตะในคืนวันพุธที่ 7 กรกฎาคม 02.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ที่ผงาดขึ้นมาเป็นเต็ง 1 ได้กลับมาเล่นในบ้านของตัวเอง นิว เวมบลีย์สเตเดี้ยม อีกครั้ง ถือเป็นการผ่านเข้ารอบตัดเชือกครั้งแรกนับตั้งแต่ ยูโร 1996 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ เจอกับ“แดนิช ไดนาไมต์” เดนมาร์ก เจ้าของแชมป์ปี 1992
แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซืออังกฤษ ไม่มีปัญหาอะไรให้กังวล เนื่องจากนักเตะที่บาดเจ็บต่างกลับมาฟิตพร้อมเป็นตัวเลือกได้ทั้งหมด คาดว่าเกมนี้อาจจะไม่มีการปรับแผนการเล่นยึดระบบ 4-2-3-1 เหมือนเกมที่ถล่มเอาชนะยูเครน ในรอบที่แล้ว 4-0 แต่จุดที่อาจจะเปลี่ยนคือตัวรุกทางฝั่งขวา มีโอกาสที่จะเลือกใช้บริการของ บูกาโย่ ซาก้า ดาวรุ่งจาก “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เพราะมีจุดเด่นในการช่วยลงมาเล่นเกมรับได้ดีปิดความอันตรายของริมเส้นฝั่งซ้าย เดนมาร์ก อย่าง โยอาคิม เมห์เล่
ที่เหลือยังเหมือนเดิม จอห์น สโตนส์ และแฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปักหลักคุมแนวรับ ขยับขึ้นมาแดนกลาง เคลวินฟิลิปป์ส เล่นกับเดแคลน ไรซ์ ส่วนแนวรุกวาง บูกาโย่ซาก้า ประสานงานกับ เมสัน เม้าท์ และราฮีม สเตอร์ลิ่ง โดยมี แฮร์รี่ เคน ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตูยืนปักหอก
พร้อมลุย : ขุนพลแข้งทัพ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ และขุนพลแข้ง “โคนม” ทีมชาติเดนมาร์ก ลงสนามฝึกซ้อมอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะดวลกัน ในศึก ยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 7 ก.ค. นี้ ในเวลา 02.00 น. เป็นต้นไป ช่อง NBT2 ถ่ายทอดสด
ทางฝั่ง “โคนม” เดนมาร์ก ทีมม้ามืดของรายการที่เพิ่งปราบเอาชนะบอลแข็งแกร่งอย่าง สาธารณรัฐเช็กมาได้ 2-1 เกมนี้กุนซือ แคสเปอร์ ยูลมันด์ ได้ทีมที่สมบูรณ์กลับมาเช่นกัน แดเนี่ยล วาสส์ และยุสซุฟ โพลเซ่นที่ก่อนหน้านี้ไม่เต็มร้อยตอนนี้ฟิตเต็มถัง แต่เชื่อว่าน่าจะนั่งสำรองไปก่อน ยึดนักเตะจากนัดที่ผ่านมา
ทีมยังยึดระบบ 3-4-2-1 แนวรับนำโดยกัปตันทีมซิมง แคร์ ขนาบข้างไปด้วยตัวที่เล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษอย่าง อันเดรียส คริสเตนเซ่น และยานนิคเวสเตอร์การ์ด คู่มิดฟิลด์ยังใช้ ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบี๊ยร์คเล่นกับ โธมัส เดลานีย์ เหมือนเดิม ให้จับตัววิงแบ๊กฝั่งซ้ายอย่าง โยอาคิม เมห์เล่ ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นยิงไปแล้ว 2 ประตู และ 2 แอสซิตส์ ส่วนสามประสานในเกมรุกเลือก มาร์ติน เบรธเวต เล่นกับมิคเคล ดัมส์การ์ด และแคสเปอร์ โดลเบิร์ก
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม อังกฤษ (4-3-3): จอร์แดน พีคฟอร์ด, ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, เคลวิน ฟิลิปป์ส, เคแดลน ไรซ์, บูกาโย่ ซาก้า, เมสัน เม้าท์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และแฮร์รี่ เคน
เดนมาร์ก (3-4-2-1): แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, อันเดรียสคริสเตนเซ่น, ซิมง แคร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด,ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบี๊ยร์ค, โธมัส เดลานีย์, โยอาคิม เมห์เล่,มาร์ติน เบรธเวต, มิคเอล ดัมส์การ์ด และแคสเปอร์ดอลเบิร์ก
สถิติการพบกับของทั้งสองทีม เจอกันมา 21 ครั้ง ในทุกรายการ อังกฤษ เหนือกว่าเอาชนะได้ 12 เสมอ 5 และเดนมาร์ก ชนะ 4 ส่วนการเจอกันในยูโรรอบสุดท้ายเกิดขึ้นหนเดียวคือในปี 1992 เป็นรอบแบ่งกลุ่ม เกมนั้นเสมอกัน 0-0 ก่อนที่ เดนมาร์ก จะผงาดสร้างเทพนิยายก้าวไปเป็นแชมป์แบบไม่มีใครคาดคิด
ทางด้านศึกโคปา อเมริกา ชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ คู่ที่ 2 เช้าวันพุธนี้ เวลา 08.00 น.สดทาง พีพีทีวีเอชดีช่อง 36 ที่สนามเอสตาดิอู นาซิออนนาล มาเน่ การ์รินช่ากรุงบราซิเลีย “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา ดวลกับ “โลส กาเฟเตโรส”โคลอมเบีย
“ลา อัลบิเซเลสเต้” ของกุนซือ ลิโอเนล สกาโลนี่ ฟอร์มดุในรอบที่แล้ว เมื่อทุบ เอกวาดอร์ กระจุย 3-0 โดยมี ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมคนสำคัญที่ทำไปแล้ว 4 ประตู 4 แอสซิสต์นำทัพ ดวลกับ โคลอมเบีย นัดนี้มีข่าวดีเมื่อ ฮวน กวาดราโด้ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง โดยผู้ชนะจะไปชิงกับ “เซเลเซา” ทีมชาติบราซิล ที่เข้าไปยืนรอแล้ว หลังจากปราบ ทีมชาติเปรู มาได้หวุดหวิด 1-0 ในวันอาทิตย์นี้
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม โคลอมเบีย (4-2-3-1) : ดาวิด ออสปิน่า-ดาเนี่ยล มูนญอซ, เยร์รี่ มีน่า,ดาวินซอน ซานเชซ, วิลเลี่ยม เตซีโย่-วิลมาร์ บาร์ริออส,กุสตาโว่ กวยยาร์-ฮวน กวาดราโด้,หลุยส์ มูเรียล, หลุยส์ดิอาซ-ดูวาน ซาปาต้า
อาร์เจนตินา (4-3-3) : เอมิเลียโน่ มาร์ตินเนซ-นาฮูเอล โมลิน่า, เคร์มัน เปซเซย่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้,มาร์กอส อกูนญ่า-โรดริโก้ เดอ ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส,โจวานี่ โล เซลโซ่ - ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ,นิโกลัส กอนซาเลซ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี