การเดินทางของฟุตบอล ทำให้เราได้ทีมแรกแล้ว 1 ทีมที่ชิงยูโร นั่นคือ อิตาลี
หลายคนบอกว่า การยิงจุดโทษนั้น มักจะทำให้ อิตาลี กลายเป็นทีมที่มักอับโชคกับการดวลจุดโทษอยู่เสมอๆ
เชื่อว่าทั้งหมดคือ “ภาพจำ”
ผมมีโอกาสได้เห็น ทีมชาติอิตาลี ดวลเป้ามาแล้วหลายครั้ง แอบนึกไปเหมือนกันว่า อิตาลี มักจะชอบแพ้ลูกโทษ ซึ่งมันก็จริงอยู่ เพราะเกมที่ผ่านตามายังจดจำการพ่ายแพ้ต่อ อาร์เจนตินาคาถ้ำตัวเอง ตกรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 1990
“โอยยยยยย อิตาลี ตกรอบครับ อิตาลียิงจุดโทษตกรอบครับ เจ้าภาพตกรอบแล้วครับ ทุกคนนั่งหมดอาลัยตายอยาก ทุกคนซึมมึนและไม่มีใครอยากจะเชื่อ!!!!!!” เสียงบรรยายแผดก้องของ “ย.โย่ง” เอกชัย นพจินดา คัมภีร์ฟุตบอลเมืองไทย ที่เป็นผู้บรรยายในเกมนั้น.............
หรือจะเป็นการยิงจุดโทษไม่เข้าองยอดดาวดังทั้ง ฟรังโก้ บาเรซี่ และโรบี้ บาจโจ้ ทำให้ต้องแพ้ บราซิล ในนัดชิงฯฟุตบอลโลก 1994
อิตาลี ต้องตกรอบอลโลก 3 สมัยติดต่อกันด้วยการดวลจุดโทษ เพราะในปี 1988 ภาพความพ่ายแพ้มันมาหลอกมาหลอนอีกครั้ง เมื่อแพ้ ฝรั่งเศส ทำให้หยุดแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
หรือจะเป็นการรัวขาเข้าไปยิงแบบเฮงซวยของ ซิโมเน่ ซาซ่า ในยูโรครั้งที่แล้ว ถือว่าเป็นการเข้าไปยิงจุดโทษที่ถูกวิจารณ์หนักที่สุด เพราะกว่าจะยิงได้รัวขาไม่รู้กี่สิบที แล้วทะลึ่งยิงข้ามคาน!!!
นั่นคือ “ภาพจำ” เพราะถ้าย้อนกลับไป การยิงเป้า 4 ครั้งแรกของอิตาลี คือ “แพ้เรียบ”
น่าแปลกดีตรงที่พอขึ้นสหัสวรรษใหม่ อิตาลี มีโอกาสดวลเป้าอีกถึง 8 ครั้ง แต่หนึ่งในนั้นพวกเขาเป็น “แชมป์โลก” ในปี 2006
ใช่ครับ “ภาพจำ” แต่ตอนนี้ “ภาพจริง”
รูปเกมที่ออกมาเราได้เห็นกันว่า สนุกสูสีและมีความสุขที่ได้เห็นฟุตบอลแบบนี้ สิ่งสำคัญก็คือ “สไตล์ฟุตบอล” คือสิ่งหนึ่งที่แฟนบอลยังโชคดีที่ได้เห็น
การต่อบอลสั้นๆ ยังเป็นเอกลักษณ์ของสเปน และการเล่นแบบครบทุกรสละเอียดทุกเม็ดของอิตาลี คือ เครื่องหมายการค้า
แต่พอดวลจุดโทษนี่เอาเข้าจริงก็คือ อิตาลี สถิติเป็นรอง และเชื่อว่าหลายคนแอบคิดอยู่ในใจ
สเปน อาจจะต้องไปทำสังฆทานยกทีม เพราะพวกเขาแพ้ทีมที่ยิงจุดโทษแย่อย่าง อังกฤษ เป็นทีมแรก เมื่อปี 1996 แต่พวกเขาชนะทุกครั้งเมื่อเจอกับ อิตาลี
อย่างที่เขียนไปเมื่อวันก่อน ศึกเมดิเตอเรเนียน ดาร์บี้ สูสีเหลือกำลัง ก่อนที่จะเจอกันครั้งใด ถ้าทะลุมายิงจุดโทษ
อิตาลี แพ้ทุกครั้ง
หนแรกในศึกยูโร 2008 ชื่อว่าทุกคนน่าจะจำสีหน้าของ ดานิเอเล่ เดอ รอสซี่ ได้ ก่อนที่พวกเขาจะแพ้ สเปน 2-4 ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย
หนล่าสุดคือ ฟีฟ่า คอนเฟอเดอเรชันส์ คัพ 2013 อิตาลี ก็โดน สเปน ประหารด้วยการยิงเป้า ทำให้ “กระทิงดุ”เข้าสู่นัดชิงชนะเลิศ
จนมาถึงครั้งนี้ อิตาลี ถอนแค้นได้สำเร็จแบบทบต้นและดอก ได้เข้าชิงเป็นสมัยที่ 4 พร้อมกับได้ลุ้นแชมป์ยุคใหม่อีกสักที หลังจากเคยได้ครั้งแรกในยุคเดิม ปี 1968
เพื่อสร้างความ “ภาพจำใหม่” ให้เกิดขึ้นอีกที
น่าแปลกตรงที่ ชัยชนะด้วยจุดโทษแต่ละครั้งของ อิตาลี ล้วนแต่เข้าไปอยู่ในความทรงจำของแฟนฟุตบอลแทบจะทุกที
ชัยชนะเหนือ เนเธอร์แลนด์ ในปี 2000 รอบตัดเชือกที่บ้าคลั่ง เมื่อพวกเขาเหลือ 10 คน แถมเสียจุดโทษในเวลาถึงสองครั้ง แต่ไม่เสียประตูเลยจากการยิงแย่ๆ ของ แฟรงค์ เดอ บัวร์ กับ พาทริค ไคลเวิร์ต ก่อนจะชนะจุดโทษหน้าตาเฉย
หรือจะเป็นชัยชนะเหนือ ฝรั่งเศส แก้แค้นทบต้นดอกในนัดชิงบอลโลก 2006 นี่คือชัยชนะอันยิ่งใหญ่สุดๆ จากการยิงเป้าของอิตาลี ที่ไม่ค่อยมีภาพนี้
แม้ว่าไฮไลท์จะอยู่ที่ ซีเนอดีนซีดาน เอาหัวโขใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่แต่ผมชอบและอบอุ่นหัวใจอยู่เสมอที่นึกภาพ อันเดรีย ปิร์โล่ วิ่งกางปีก,บุฟฟ่อน แหกปากสะใจ และฟาบิโอคันนาวาโร่ ปีนโต๊ะขึ้นไปชูถ้วย
คนยุคก่อนอาจจะไปจับจดกับลูกยิงของ บาจโจ้ กันทุกทีสิ แต่ตอนนี้ภาพการเล่นที่เปลี่ยนไปของ อิตาลี และการยิงจุดโทษแล้วคว้าชัย
อาจทำให้คุณเปลี่ยนแนวคิดและภาพจำใหม่ตามสมัยนิยม
อีกก้าวเดียวสำหรับอิตาลี ที่จะเป็นแชมป์ในทัวร์นาเมนท์ที่โชกโชนน่าสนใจมากๆ สำหรับพวกเขา
1.ได้รับการยกย่องเรื่องการเล่น
2.สร้างความประหลาดใจเรื่องแบบแผน
3.ต่อเวลาคว้าชัย
4.สถิติผ่อนคลายเมื่อเสียประตูบ้าง แต่ชนะต่อเนื่อง
5.ยิงจุดโทษกำชัย ทำให้มั่นใจมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น อิตาลี ก็เป็นทีมที่ยืนยันได้ว่า บางที “สีเสื้อ” ไม่ใช่ทางออกทั้งหมดในชัยชนะ
สีอะไรใส่ก็ได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็น “สายมู” เพราะถ้าเตรียมตัวไม่ดี
จาก “สายมู” นี่กลายเป็น “สายหมู”เลยนะ
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี