คริสติอาโน่ โรนัลโด้ จอมสับสยองสองหมื่นโยชน์ กลายเป็นนักฟุตบอลที่ทำประตูได้สูงที่สุดในการรับใช้ทีมชาติตลอดกาลของโลกลูกหนังเป็นที่เรียบร้อย หลังจากเขาโหม่ง2 ลูก ในเกมที่ ทีมชาติโปรตุเกส บดชนะ ทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ 2-1

ดาวเตะวัย 36 ปี ทำประตูที่ 110 และ 111 ได้สำเร็จหลังจากเขาติดจุดโทษพลาด แต่ก็เพียงที่จะขึ้นเบอร์ 1ตลอดกาล แซงหน้าของ อาลี ดาอี จากอิหร่าน ที่ทำเอาไว้109 ประตู

ดาอี เจ้าของสถิติเดิม ลงเล่นทีมชาติระหว่างปี 1993-2006 ก่อนที่ โรนัลโด้ จะทาบสถิตินี้เมื่อแมทช์ยูโร 2020 กลางปีที่ผ่านมา ก่อนจะแซงหน้าได้ในที่สุด

สรุปท็อป 5 ผู้พังประตูในทีมชาติตลอดกาลของโลกฟุตบอล : 1.คริสติอาโน่ โรนัลโด้(โปรตุเกส) 111 ประตู,2.อาลี ดาอี(อิหร่าน) 109 ประตู, 3.ม็อคห์ตา ดาฮารี่(มาเลเซีย) 89 ประตู, 4.เฟเรนซ์ ปุสกัส(ฮังการี) 84 ประตูและ 5.ก๊อดฟรี่ย์ ชิตาลู(แซมเบีย) 79 ประตู

สุดยอดแข้ง : คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กลายเป็นนักฟุตบอลที่ทำประตูได้สูงที่สุดในการรับใช้ทีมชาติตลอดกาลของโลกลูกหนังเป็นที่เรียบร้อย หลังจากเขาโหม่ง 2 ลูก ในเกมที่ ทีมชาติโปรตุเกส บดชนะ ทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ 2-1

ยิ่งไปกว่านั้น โรนัลโด้ ได้ทำสถิติอีก 1 รายการเมื่อเขาเป็นนักฟุตบอลชาวยุโรปที่ติดทีมชาติมากที่สุด 180 นัดเท่ากับที่ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังทีมชาติ ทำเอาไว้อีกด้วย พร้อมกับขึ้นเป็นอันดับ 5 ร่วมของโลก

สถิติสูงสุดในการติดทีมชาติของทั่วโลกนั้น คือ“ไอ้หน้าผี” โซห์ ชิน อันน์ ของมาเลเซีย 195 นัด ระหว่างปี 1969-1984, อันดับ 2 บาเดอร์ อัล-มูตาว่า ของคูเวต185 นัด ระหว่างปี 2003-2021, อันดับ 3 อาเหม็ด ฮัสซันของอียิปต์ 184 นัด ระหว่างปี 1995-2012 และอันดับ 4อาเหม็ด บูบารัก ของโอมาน 182 นัด ระหว่างปี 2003-2019 เท่ากับว่า โด้ ตามหลังอันดับ 1 อยู่แค่ 15 เกมเท่านั้น

โรนัลโด้ ครองสถิติมากมายในตอนนี้ทั้งการเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบสุดท้าย 14 ประตู และเป็นนักเตะที่ยิงในยูโร กับ บอลโลกรอบสุดท้าย รวมกันไปแล้ว 21 ประตู

ยักษ์ชนยักษ์ : เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ หาโอกาสซัดลุ้นทำประตูโดยมี เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังกัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ พยายามเข้าสกัด ก่อนที่จะเจ๊ากันไป 1-1 ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก

สำหรับการทำประตูของโรนัลโด้ ในทีมชาติมีดังนี้33 ประตู/บอลโลก รอบคัดเลือก, 31 ประตู/ยูโร รอบคัดเลือก,19 ประตู/นัดกระชับมิตร, 14 ประตู/ยูโร รอบสุดท้าย,7 ประตู/บอลโลก รอบสุดท้าย, 5 ประตู/เนชั่นส์ลีก และ2 ประตู/คอนเฟเดอเรชั่นส์คัพ

ประตูของ โรนัลโด้ ในทีมชาติทั้งหมดนี้มาจากการยิงในกรอบเขตโทษ 91 ลูก และนอกเขตโทษ 20 ลูก โดยมาจากลูกตั้งเตะ 23 ลูก นั่นคือ 14 จุดโทษ กับ 9 ฟรีคิก

ทางด้าน “ไก่ทองคำ” ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์โลกยังฟอร์มย่ำแย่ต่อเนื่องมาจากยูโร 2020 เมื่อทำได้แค่ไล่ตามตีเสมอ ทีมชาติบอสเนีย แอนด์ เฮอร์โซโกวีนา ในกลุ่ม ดี1-1 หลังจากโดน เอดิน เชโก้ ซัดให้ทีมเยือนนำก่อน นาทีที่ 36ก่อนที่ อองตวน กรีซมันน์ จะทำประตูตีเสมอนาทีที่ 39จากนั้น ฌูล์ส คุนเด้ มาโดนไล่ออกนาทีที่ 51 ยังดีที่ตุนคะแนนไว้ก่อนหน้านี้ 8 คะแนนจาก 4 เกม นำหน้า ยูเครนที่เตะเท่ากันอยู่ 4 แต้ม หลังจาก ยูเครน ทำได้แค่บุกไปเสมอ คาซัคสถาน 2-2

สรุปผลการแข่งขันทุกคู่มีดังนี้ ลักเซมเบิร์ก ชนะอาเซอร์ไบจาน 2-1, โปรตุเกส ชนะ ไอร์แลนด์ 2-1, คาซัคสถานเสมอ ยูเครน 2-2, ฝรั่งเศส เสมอ บอสเนีย 1-1, เดนมาร์ก ชนะ สกอตแลนด์ 2-0, หมู่เกาะแฟโร แพ้ อิสราเอล 0-4,มอลโดวา แพ้ ออสเตรีย 0-2, ลัตเวีย ชนะ ยิบรอลตาร์ 3-1,นอร์เวย์ เสมอ เนเธอร์แลนด์ 1-1, ตุรกี เสมอ มอนเตเนโกร 2-2,มอลตา ชนะ ไซปรัส 3-0, รัสเซีย เสมอ โครเอเชีย 0-0และสโลวีเนีย เสมอ สโลวะเกีย 1-1