“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ทีมดังจากเกาะอังกฤษ รีดพลังขั้นสุดท้ายก่อนจะบดเอาชนะ “ปีศาจแดงดำ”เอซี มิลาน คู่ปรับในตำนานได้อย่างมันส์เร้าใจสุด ๆ 3-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่สนามแอนฟิลด์บ้านของตัวเอง ท่ามกลางแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมแชมเปี้ยนส์ลีกในบ้านตัวเองตั้งแต่มีนาคา 2020
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหงส์แดง ยอมรับว่า ทีมค่อนข้างที่จะเผลอเรอจนเกินไป มัวแต่เล่นเกมของตัวเอง จนโดนคู่แข่งเล่นงานเสียสองประตูในระยะเวลาห่างกันเพียง 110 วินาที โชคดีที่ทุกคนตั้งสมาธิและกลับมาได้อย่างหวุดหวิด
เจ้าถิ่นได้ประตูนำก่อนจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซัดไปแฉลบฟิกาโย่ โทโมรี นาทีที่ 9 แต่มาโดนอาคันตุกะจากแดนรองเท้าบู๊ตรัวสองเม็ดติด จาก อันเต้ เรบิช นาทีที่ 42และบราฮิม ดิอาซ นาทีที่ 44 กระทั่งกลับมาตั้งสติใหม่และตามตีเสมอ 2-2 จาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 48 ก่อนได้ประตูชัยจากการยิงไกลของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นาทีที่ 69
“ผมชอบฟุตบอลของเราในวันนี้ เราเล่นกันแทบทุกพื้นที่ในสนาม เล่นบอลกันแบบไม่ต้องให้คนอื่นทำอะไรเราได้เลย แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เกิดอะไรกับเราตอนไหนทำให้เราถูกลงโทษถึงสองประตูติดต่อกัน แต่นั่นมันมีต้นตอมาจากฟุตบอลของเราเอง”
คล็อปป์ ระบุว่า ฟาบินโญ่ ทำงานได้ดีมาก สามารถเข้าปะทะได้ทุกจังหวะที่ต้องการ แต่ในช่วงที่เสียประตู พื้นที่เยอะมากจน ฟาบินโญ่ ไม่สามารถเข้าไปปิดได้ทัน ตอนนั้นเป็นจังหวะที่ทีมไม่ค่อยเป็นระเบียบ
“เราเสียประตู เพราะความไม่เป็นระเบียบของเราเอง ซึ่งเราก็โดนกดตรงจุดนั้น และเสียทันทีสองประตู แต่เราก็กลับมาได้และนี่คือฟุตบอลที่ผมอยากเห็นที่สุด สุดท้ายเราชนะได้ ซึ่งตัวผมก็คิดว่า การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในเรื่องของผู้เล่นนั้น มันคือสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเราต้องลงแข่งทุกๆ 3 วัน และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ผู้เล่นชุดเดิมอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการหมุนเวียนตัวผู้เล่นคือสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”
ทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฉลองการคุมทัพนัดที่ 300 ให้กับทีม ด้วยชัยชนะเหนือ “กระทิงเปลี่ยว” แอร์เบ ไลป์ซิก จากเยอรมนี สุดมันส์6-3 ในเกมที่ ซิตี้ ยิงแบบไม่ซ้ำหน้า และไลป์ซิกเองก็ท้าทายได้อย่างดุเดือดแทบจะตลอดทั้งเกม
เจ้าถิ่นนำก่อนสองประตูจาก นาธาน อาเก้ นาทีที่ 16 ต่อด้วย นอร์ดี้ มูคิเอเล่ ทำเข้าประตูตัวเอง นาทีที่ 28 จากนั้นทีมเยือนตีไข่แตกนาทีที่ 42 จาก คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แต่เจ้าถิ่นก็หนีไปอีกเป็น 3-1 จากจุดโทษนาทีที่ 45 ของ ริยาด มาห์เรซแต่เกมครึ่งหลังกลับมาสนุกเมื่อ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ซัดไล่มาเป็น 2-3 นาทีที่ 51 จากนั้น แจ๊ค กรีลิช กดให้เรือนำอีกที 4-2 นาทีที่ 56 แต่ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ซัดแฮททริก ในนาทีที่ 73 ทำให้ทีมเยือนจ่อมาอีกทีเป็น 3-4
อย่างไรก็ตาม สกอร์มาขาดลอย เมื่อ ชูเอา กานเซโล่ทำให้เจ้าบ้านนำ 5-3 นาทีที่ 75 ก่อนที่เกมจะจบเมื่อ อังเคลินโญ่ อดีตเด็กเก่าแมนฯซิตี้ มาโดนไล่ออกในนาทีที่ 79 ทำให้ ไลป์ซิกเหลือแค่ 10 คน และสกอร์จบที่ 6-3 กาเบรียล เชซุส กดปิดกล่องนาทีที่ 85
สรุปผลการแข่งขันทุกคู่มีดังนี้ กลุ่ม เอ คลับ บรูช เสมอ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยุคใหม่ที่มี ลีโอเนล เมสซี่ นำทัพ 1-1,แมนฯซิตี้ ชนะ ไลป์ซิก 6-3, กลุ่ม บี แอต.มาดริด เสมอ ปอร์โต้0-0, ลิเวอร์พูล ชนะ มิลาน 3-2, กลุ่ม ซี เบซิคตัส แพ้ ดอร์ทมุนด์1-2, สปอร์ติ้ง ลิสบอน แพ้ อาแจ๊กซ์ 1-5, กลุ่ม ดี อินเตอร์ แพ้เรอัล มาดริด 0-1 และเชรีฟฟ์ ชนะ ชัคเตอร์ 2-0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี