การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 9 ที่ประเทศลิทัวเนีย ได้ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการมีแขมป์ใหม่เกิดขึ้น เมื่อ “ฝอยทองผยองเดช”ทีมชาติโปรตุเกส ยอดทีมเจ้าของแชมป์แห่งยุโรป ผงาดครองแชมป์โลกได้เป็นสมัยแรก ด้วยการบดเอาชนะ ทีมชาติอาร์เจนตินา แชมป์เก่า และแชมป์อเมริกาใต้ ลงได้ 2-1

เส้นทางในการเป็นแชมป์ครั้งนี้ของโปรตุเกส เริ่มต้นรอบแรก ด้วยการเอาชนะ ไทย 4-1, ชนะ หมู่เกาะโซโลมอน 7-0, เสมอ โมร็อกโก 3-3 จากนั้นเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ ต้องต่อเวลาทั้งหมดในรอบ 16 ทีม ชนะ เซอร์เบีย 4-3(ต่อเวลา), รอบ 8 ทีม ชนะ สเปน4-2 (ต่อเวลา), รอบรองฯ ชนะจุดโทษ คาซัคสถาน 4-3 (เสมอในเวลา 2-2) และรอบชิงชนะเลิศ ปราบ อาร์เจนตินา 2-1

ทำให้ โปรตุเกส เป็นแชมป์โลกทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์จากการแข่งขันทั้งหมด 9 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้ บราซิล ได้แชมป์ไป 5 สมัย, สเปน 2 สมัย, อาร์เจนตินา 1 สมัย

ในรายการนี้มีการดวลแข้งไปทั้งสิ้น 52 นัด ยิงรวมกัน 301 ประตู โดย แฟร์เรา ของบราซิล ครองดาวซัลโว ซัดไป9 ลูก ขณะที่ ริคาร์ดินโญ่ พ่อมดชาวโปรตุเกสครองนักบอลยอดเยี่ยมตามคาด และนิโกลาส์ ซาเมียนโต้ ของอาร์เจนตินา ได้โกล์ยอดเยี่ยม ส่วนคาซัคสถาน ที่คว้าอันดับ 4เป็นครั้งแรกได้รางวัลแฟร์เพลย์ อวอร์ด