วันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี เป็นหนึ่งในวันที่สำคัญสุดๆ ของอาร์เจนตินา และโลกของฟุตบอล

นั่นเพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังผู้ลาลับไป เมื่อ 25 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว........

ดีโก้ หรือ ดีเอโก้ อาร์มานโด้ มาราโดน่า แห่งอาร์เจนตินาเสือเตี้ยมหัศจรรย์แห่งวงการลูกหนังอาร์เจนตินา และจักรวาลฟุตบอล

ตำนานบทย่อ เพราะถ้าเขียนยาวทั้งเล่มก็คงไม่พอ ยกตัวอย่างระดับชาติ ในปี 1978 “ฟ้าขาว” ได้สิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เซซ่าร์ หลุยส์ เมน็อตติ กุนซือสิงห์อมควันของทีม ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการที่ “ไม่เลือก” ดีเอโก้ มาราโดน่า ดาวรุ่งที่ดังที่สุดแห่งยุคนั้นติดทีม แต่ไว้วางใจ มาริโอ เคมเปส, ดาเนี่ยล พาสซาเรลล่า,อูบัลโด้ ฟิลลอล และออสวัลโด้ อาร์ดิเลส เป็นแกนนำ

สุดท้ายเป็นแชมป์ได้สำเร็จเป็นสมัยแรก ด้วยการหักคอ “ฟลายอิ้งดัทช์แมน” เนเธอร์แลนด์ ในช่วงต่อเวลา 3-1 เรียกว่า มาราโดน่า ดังตั้งแต่ยังไม่ได้ไปบอลโลก

จากนั้น อาร์เจนตินา ไม่ประสบความสำเร็จในบอลโลก ปี 1982เมื่อตกรอบ 2 แต่ก็มาได้แชมป์โลกสมัยที่ 2 ในอีก 4 ปีต่อมา ที่ประเทศเม็กซิโก ภายใต้การนำทัพของ คาร์ลอส บิลาร์โด้ โดยมีขุนพลเอกที่ชื่อ ดีเอโก้ มาราโดน่า

มาราโดน่า ที่โดนไล่เตะกลิ้งเป็นลูกขนุนในบอลโลก ปี 1982 แต่ในปี 1986มาราโดน่า แข็งแกร่งเหนือดุจเทวดา ด้วยสไตล์ “ขวาไว้ยืน ซ้ายไว้ยิง”

เป็นนักบอลที่ก้าวไปถึงขั้นที่ว่า เลือกได้ว่าจะไปต่อ

หรือว่าจะนอนกลิ้งเอาฟาวล์

เขานำทัพเป็นแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการพิชิต เยอรมันตะวันตก 3-2

พร้อมกับทำประตูที่ “โกงที่สุด” และ“สวยที่สุด” ห่างกันเพียงแค่ไม่ถึง 5 นาที ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ อังกฤษ ยิ่งทำให้แรงแค้นจากเรื่องสงครามฟอล์คแลนด์ ยิ่งเปิดแผล ยิ่งแรงขึ้นไปอีก

ประตูปัญหา เป็นที่มาของบัญญัติคำบันลือโลกว่า “แฮนด์ ออฟ ก๊อด” เกิดขึ้นในนาทีที่ 51 มาราโดน่า ใช้มือปัดบอลผ่าน ปีเตอร์ ชิลตัน โกล์อังกฤษ เข้าประตู แบบเห็นกันทั้งโลกยกเว้นกรรมการกับไลน์แมน

ให้หลังจากนั้น 4 นาที มาราโดน่า ทำให้ทุกคนต้องตะลึงเมื่อเลี้ยงเดี่ยวกว่าครึ่งสนามหลบผู้เล่นอังกฤษครึ่งทีมเข้าไปยิงประตู ก่อน อาร์เจนตินา ชนะ 2-1 และคว้าแชมป์โลกในบั้นปลาย

มาราโดน่า บอกว่า เขาไม่ได้ใช้มือปัด แต่เป็น “หัตถ์ของพระเจ้า”

มันคือตำนานที่ยิ่งยงมาถึงวันนี้และจะเป็นตลอดไป

ยิ่งไปกว่านั้น มาราโดน่า ทำ “แฮนด์ออฟก๊อด” ในบอลโลกรวม 2 ครั้ง

ครั้งแรกที่เขียนไปคือ ทุบเสียบตาข่ายทีมชาติอังกฤษ ปี 1986

ครั้งที่ 2 สกัดจากเส้น ไม่ทำให้ทีมเสียประตู ในเกมกับ สหภาพโซเวียต ปี 1990

ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสองครั้งการใช้มือสุดมหัศจรรย์พันลึกของ มาราโดน่า คนแทบจะทั้งโลกมองเห็น

มีแค่กรรมการเท่านั้นแหล่ะที่มองไม่เห็น!!

…………….ในวันเดียวกันนี้เมื่อ 2 ปีก่อน มาราโดน่า ฉลองวันเกิดครบรอบ 59 ปี ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และตอกย้ำว่าตัวเขายังคงเป็น “ศูนย์รวมใจทางฟุตบอล” ของชนชาวอาร์เจนไตน์ ได้เป็นอย่างดี

เหตุการณ์นี้เรียกกันว่า Maradona of Thrones

มาราโดน่า คุมทัพ กิมเนเซีย ยกพลบุกไปเยือน นีเวลล์ส โอลด์บอยส์ ซึ่งปกติแล้วเป็นธรรมดาที่ผู้มาเยือนมักจะโดนเจ้าถิ่นแอนตี้เป็นเรื่องธรรมดา

แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกิดกับ มาราโดน่าแต่อย่างใด!!!

แฟนบอลนีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ นับพันคนมาร่วมร้องเพลงต้อนรับ และฉลองวันเกิดให้กับนักเตะสุดมหัศจรรย์ผู้นี้ ณ โรงแรมที่พัก.........เท่านั้นยังไม่พอ!!!

เมื่อเข้าถึงสนามแข่งขันที่เอสตาดิโอ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ในโรซาริโอ ซานตา เฟ่ มีการต้อนรับ มาราโดน่า อย่างยิ่งใหญ่ แถมยังมีเก้าอี้นั่งพิเศษให้กับ มาราโดน่า คุมทัพแข่งขันกับทีมตัวเอง!!!

มาราโดน่า เคยมาเล่นที่นี่ระหว่างปี 1993-94 ลงสนามไปเพียงแค่ 5 นัดเท่านั้น แต่แฟนบอลที่นี่ต้อนรับยิ่งกว่าเทวดาเดินดิน!!!

มาราโดน่า มอบทุกสิ่งอย่างให้กับคนที่รักฟุตบอลตั้งแต่เป็นนักเตะ ชีวิตของเขาโหด เลว ดี มีทั้งเปรี้ยวหวานมันเค็ม คือ “เทวดากับซาตานในร่างเดียว” ของแท้

จะรักก็ใช่ที่ แต่ไอ้ครั้นจะให้เกลียดก็ไม่ใช่ทางเช่นกัน!!!

ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหน มาราโดน่าอยู่บนพื้นที่ข่าวอยู่เสมอ นับตั้งแต่ยุค 80 กระทั่งยุคโซเชียล ถือเป็นนักกีฬาที่โด่งดังทั้งบวกทั้งลบยาวนานกว่า 4 ทศวรรษ

ด้วย “แพชชั่น” ที่เต็มเปี่ยม มาราโดน่าอยู่บนอัฒจันทร์ในฟุตบอลโลก 2018 แต่กลับถูกจับภาพมากกว่าคนอื่น ในเกมที่ อาร์เจนตินาบดชนะ ไนจีเรีย 2-1 เข้ารอบสองอย่างหวุดหวิด

ส่วน มาราโดน่า เชียร์จนความดันขึ้นหวุดหวิดเจียนอยู่เจียนไปเช่นกัน!!!

หลังจากจำเป็นต้องลาออกจากการทำทีม โดราโดส ในเม็กซิโก เนื่องจากปัญหาสุขภาพทั้งที่เข่าและไหล่ เพราะผ่าเข่าทั้งสองข้าง เขามารับงานกับ กิมเนเซีย เป็นสโมสรที่ 7 ที่คุมทัพ

เขาฉลองวันเกิดปีนี้ด้วยการนำทีมบุกชนะ นีเวลล์ 4-0

บุคลิกมาดเจ้าพ่อเหมือนเดิม...ใส่หมวกของ ฮูโก้ ชาเวซ อดีตผู้นำของเวเนซุเอลา...พาทีมชนะนอกบ้านมากที่สุดในรอบ 23 ปี

.........ไม่ว่าวันไหนๆ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องถามกันอีกให้เสียเวลาว่า มาราโดน่า กับ เปเล่ แห่งบราซิลใครเก่งกว่ากัน มันก็เหมือนกับ “ไก่กับไข่” อะไรเกิดก่อนกัน

หรือไม่จำเป็นหรอกที่ต้องนำไปเปรียบกับคนโน้นคนนี้ให้ “คนที่นำเปรียบ” ต้องเสียเครดิตตัวเอง เพราะให้รู้แต่เพียงว่า มาราโดน่าคือ เทพเจ้าของชาวอาร์เจนตินา...ตลอดกาล มันก็น่าจะพอใจแล้ว

..........นาทีปัจจุบัน หากเขายังมีลมหายใจอยู่ จะอายุครบ 61 ปีบริบูรณ์

ว่ากันถึง “ชีวิตหลังความตาย” ไม่มีใครรู้หรอกว่า “โลกใบใหม่”เป็นอย่างไร แต่สำหรับเรื่องราวของมาราโดน่า บน “โลกใบนี้”

ยังดำเนินต่อไปอย่าง “เขม็งเกลียว”

เพราะนับจากการจากไปของ มาราโดน่า ยังไม่มีที่ท่าว่า “เรื่องราวหลังความตาย” ของเขาจะยุติแต่อย่างใด

1 ธันวาคม 2020 : ตำรวจในบัวโนสไอเรสได้ตรวจค้นบ้านและคลินิกส่วนตัวของ ดร.ลีโอโพลโด้ ลูเก้ ผู้ผ่าตัด มาราโดน่าหลังจากอัยการอาร์เจนตินา ได้สั่งให้มีการสอบสวนแพทย์ เพื่อหาสาเหตุการฆาตกรรมที่อาจเกิดขึ้น

ดอกเตอร์ลูเก้ ยังไม่ได้ถูกตั้งข้อหาใดๆ และเขาปฏิเสธการกระทำผิดใดๆ ในการรักษา โดยได้ยืนยันทั้งน้ำตาว่า เขาทำทุกอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิต มาราโดน่า ซึ่งเป็นเพื่อนของเขา

“มาราโดน่า อยู่ในช่วงที่โศกเศร้ามากๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองป่วย และขอไปพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งไม่ได้อยู่ในการรับผิดชอบของผมแล้ว” ดอกเตอร์ลูเก้ กล่าว

แต่นางพยาบาลสาวรายหนึ่ง สารภาพว่า เธอถูกบังคับให้เขียนรายงานโดยที่ปลอมเนื้อหาการตรวจรักษาซึ่งรายงานในวันที่มาราโดน่าเสียชีวิต 25 พฤศจิกายน ระบุว่าเวลา 06.30 น. มีการตรวจร่างกายมาราโดน่า พบว่าหายใจปกติดี แต่เธอยืนยันว่า ถูกบังคับให้ปลอมแปลงรายงานการดูแล ก่อนที่ตำนานลูกหนังจะสิ้นใจในเวลาต่อมา

พยาบาลคนดังกล่าว เปิดเผยว่าได้ยินเสียงมาราโดน่าลุกไปเข้าห้องน้ำเวลา 07.30 น. ซึ่งเธอไม่ได้เข้าไปดูในห้องต่อมาเวลา 09.20 น.เธอถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าไปตรวจร่างกายในห้องของมาราโดน่าก่อนที่ดาวเตะผู้ยิ่งใหญ่จะเสียชีวิตลง

22 กุมภาพันธ์ 2021 : มาริโอ เบาดรี ทนายความ ดีเอโก เฟอร์นานโด ลูกชายวัย 8 ขวบของ มาราโดน่า ระบุพบหลักฐานที่ว่า มาราโดน่า เสียชีวิตจากสาเหตุฆาตกรรม!!!

“ไม่ว่าประเทศใดๆ หรือถ้าเป็นอัยการคนอื่น คนร้ายต้องเข้าเรือนจำไปแล้ว การฆาตกรรมได้รับการพิสูจน์เรียบร้อย ซึ่งยิ่งกระบวนการนานเท่าใด หลักฐานก็ยิ่งถูกทำให้หายไปเท่านั้น”

10 มีนาคม 2021 : กลุ่มแฟนบอลที่รักในตัวของ มาราโดน่า จำนวนหนึ่งรวมถึง คลาวเดีย วิลลาฟาเน อดีตภรรยา, ดัลมา กับ จิอันนินา ลูกสาวทั้ง 2 คนได้เดินขบวนไปยังอนุสาวรีย์โอเบริสโก ใจกลางกรุงบูเอโนส ไอเรส เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าการเสียชีวิตของ มาราโดน่า เกิดจากถูกเพิกเฉยต่อการดูแล

“เขาไม่ได้เสียชีวิตเอง คนดูแลคือคนที่ฆ่าเขา! ความยุติธรรมสำหรับ ดีเอโก พิจารณาคดีและการลงโทษผู้กระทำความผิด” ผู้นำของการประท้วงโพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดีย

2 พฤษภาคม 2021 : ผลสอบสวนที่มาจากคณะทำงานถูกจัดทำเป็นเอกสาร 70 หน้า ระบุเอาไว้ว่า ก่อนการเสียชีวิต12 ชั่วโมง มาราโดน่า ไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งที่เพิ่งผ่าตัดสมอง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ ยังไม่มีการแจ้งความใดๆ กับแพทย์ วัย 40 ปี ที่ถูกอ้างถึง

5 พฤษภาคม 2021 : อัยการระบุว่าคณะแพทย์มากกว่า 20 คน เขียนความเห็นตรงกันในทำงานร่วมตรวจสอบตลอดระยะเวลา 2 เดือน ว่า มาราโดน่า ได้รับการรักษาที่ผิด และต้องทนทุกข์ทรมานนานกว่า 12 ชั่วโมง ที่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอจากชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์ และยังมีชีวิตอยู่ได้หากได้รับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างถูกต้อง

15 พฤษภาคม 2021 : การประกวดงามจักรวาล ครั้งที่ 69 (Miss Universe) เรียกเสียงฮือฮา เมื่อ “อาลิน่า ลุซ อักเซลรัด” นางงามจากอาร์เจนตินา ใส่เสื้อฟุตบอลทีมชาติ พร้อมรูป “ดีเอโก มาราโดน่า” ขึ้นเวทีประกวด ในรอบชุดประจำชาติ

“มาราโดน่า คือแบบอย่างที่ดีในการเป็นตัวแทนประเทศทุกครั้งที่เขาลงสนามในเสื้อฟ้าขาวด้วยความภูมิใจและจงรักภักดีต่อชาติบ้านเกิด” นี่คือเหตุผลที่ อาลิน่า กล่าวระลึกถึง

21 พฤษภาคม 2021 : อัยการได้ยื่นสำนวนเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 7 ราย เช่น ดร.ลีโอพอนโด ลูเก,อกุสตินา โคลาซอฟ จิตแพทย์ และคาร์ลอส ดิอาซ นักจิตวิทยา รวมถึงพยาบาล เป็นต้น ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

แล้วเราก็ต้องดูกันต่อไปว่า จะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้

ไม่กี่วันที่ผ่านมา สโมสรบาร์เซโลน่า ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์สโมสรว่า เตรียมที่จะผนึกกำลังกับ โบคา จูเนียร์ส จัดศึกฟุตบอลนัดพิเศษในชื่อของ “มาราโดน่า คัพ” เพื่อรำลึกถึง

เกมนัดดังกล่าวนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในรูปแบบของเกมนัดกระชับมิตร และถือเป็นการรำลึกครบรอบ 1 ปีที่ มาราโดน่า จากไป

นี่คือสิ่งที่เราได้เห็น หลังจากโลกต้องสูญเสียยอดนักเตะระดับนี้ไปตลอดกาล

สิ่งเดียวที่ต้องการตอนนี้ไม่ใช่สีสันจากชีวิต ความระห่ำเดือดที่เราได้เห็นมาตลอดเวย์กับคำว่า “เทวดาหรือซาตาน”

ขอให้ทุกอย่างจบ ถ้ามีคนทำร้ายเขาทำให้เสียชีวิตก็ขอให้รับกรรม ส่วนคนที่มีสิทธิ์มีเสียงก็จัดงานระลึกถึงตัวเขา เพื่อสิ่งที่วายชนม์ต้องการ

นั่นก็คือ “มาราโดน่า” หลับให้สบายก็เพียงพอ.........

บี แหลมสิงห์