“เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางกัปตันทีมชาติไทย บรรลุข้อตกลงย้ายจาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ต้นสังกัดไปร่วมทัพ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ แชมป์เจลีกทีมล่าสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติแข้งในภูมิภาคอาเซียนถึง 120 ล้านบาท
โดย ชนาธิป ที่ย้ายจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่จากศึกไทยลีก มาร่วมทัพ คอนซาโดเล่ ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อปี 2017 ก่อนจะถูกซื้อขาดที่ 2.4 ล้านยูโร หรือ 84.8 ล้านบาทในเดือน ก.พ. ปี 2019 พร้อมกลายเป็นนักเตะไทยที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ และเวลานี้ยังคงมีสัญญากับสโมสรถึงปี 2025 ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งลงสนามในเจลีก ครบ 100 เกม ไปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมกับเล่นในทุกรายการไปแล้ว 125 เกม ยิงไป 15 ประตู 22 แอสซิสต์
นอกจากนี้ “กัปตันเจ” ยังเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร ในปี 2018 รวมถึงติดทีมยอดเยี่ยมของเจลีก ซึ่งนับเป็นนักเตะสโมสรคนแรกในรอบ 18 ปี ที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมด้วย นอกจากนั้นยังเป็นผู้เล่นเอเชียคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของเจลีก (ไม่นับคนญี่ปุ่น) ที่ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี โดย 2 คนก่อนหน้านี้คือ ฮวาง ซุน-ฮอง และ ฮง เมียง-โบ จากเกาหลีใต้
ล่าสุด ยาชิคาซุ โนโนมูระ ประธานสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ได้ยืนยันผ่านรายการวิทยุท้องถิ่นว่าเวลานี้ได้ตกลงปล่อยตัว ชนาธิป ที่มีสัญญาเหลือกับทัพ “นกฮูกเมืองเหนือ” อีก 3 ปี ให้กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ แชมป์เจลีก 4 สมัยจาก 5 ปีหลังสุด อย่างเป็นทางการแล้ว เหลือเพียงแค่รอการประกาศจากสโมสรทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง พร้อมเปรยด้วยว่าค่าเซ็นสัญญานั้นเป็นจำนวนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตลาดซื้อขายญี่ปุ่น
ทางด้าน ฮิโรคัดสึ มิคามิ ผู้จัดการทั่วไปของสโมสรเปิดเผยว่า “มีทีมสนใจนักเตะเราถึง 6 คนด้วยกัน การย้ายทีมของชนาธิป เป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิดมาก่อน เรากำลังจะเสริมทัพสร้างความแข็งแกร่งของทีมในระยะสั้นถึงระยะกลาง และผมต้องการสานต่อกลยุทธ์เอเชียในรูปแบบใหม่”
ขณะเดียวกันสื่อกีฬาหลายสำนักในแดนอาทิตย์อุทัยอาทิ sponichi.co.jp และ daily.co.jp ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ ฟรอนตาเล่ ต้องการตัว ดาวเตะวัย 28 ปี ไปร่วมทัพ เนื่องจากหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมาสโมสรนั้นต้องเสียสตาร์ดังของทีมไปค้าแข้งในลีกยุโรปหลายรายอาทิ ฮิเดมาสะ โมริตะ, อาโอะ ทานากะ,คาโอรุ มิโตมะ และ ริโอะ ฮาตาเตะ ซึ่งสโมสรเชื่อมั่นว่ายอดแข้งทีมชาติไทยรายนี้จะสามารถยกระดับของทีมให้อยู่ในจุดสูงสุดได้เช่นเดิม ซึ่งคาดว่าค่าตัวการย้ายทีมในครั้งนี้จะสูงถึง 3 ล้านยูโร หรือราว 120 ล้านบาทเลยทีเดียว และจะทำให้เขาทุบสถิติตัวเองกลายเป็นแข้งอาเซียนที่ค่าตัวแพงที่สุดอีกครั้ง
ทางด้าน “พ่อจุ้ง” ก้องภพ สรงกระสินธ์ บิดาของ ชนาธิป ได้ออกมาเปิดเผยกับเพจ บี บางปะกง ว่า ยอมรับว่าแปลกใจ ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน กระทั่งเมื่อวันที่6 ม.ค. ที่คุยกับ ทิวาพลสังขพันธ์ ล่ามของเจ้าเจ จะถามถึงโครงการพาเด็กไทยไปฝึกซัปโปโร ซึ่ง ทิวาพล เงียบไป และถามกลับว่า “พ่อยังไม่รู้หรือว่า เจ กำลังย้ายไปฟรอนตาเล่ ตอนนี้กำลังเคลียร์สัญญา” ก็มานึกย้อนว่า ช่วงที่ เจ อยู่สิงคโปร์ ส่งข้อความในไลน์กลุ่มครอบครัว ว่า “หลังปีใหม่จะมีข่าวดี ข่าวใหญ่ ของบ้านเรา”
พ่อจุ้ง กล่าวด้วยว่า เพิ่งพาเจไปไหว้พระ ลูกชายเปรยๆ ว่าปีนี้อยากได้แชมป์เจลีก และคว้านักเตะยอดเยี่ยมสักครั้ง ตนก็ยังคิดในใจว่าฝันไปหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นซัปโปโร แทบจะไม่มีทางเลย มาตอนนี้ ถึงบางอ้อว่า เจหมายถึงจะย้ายมาอยู่กับทีมแชมป์อย่าง ฟรอนตาเล่ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเหมาะสม เพราะเจอายุ 28 กำลังอยู่ในช่วงพีค จริงๆ แล้วลูกชายอยากย้ายไปเล่นในยุโรปสักครั้งแต่ดูแล้วไม่น่าเหมาะเพราะมีอุปสรรคที่รูปร่างเล็กไป ซึ่งคิดว่าเล่นกับทีมแชมป์เจลีกนี่แหละจะได้ไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวกันมาก เพราะตอนนี้ร่างกาย เขาก็ฟิตสมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว
อนึ่ง เวลานี้ ชนาธิป ยังคงพักร้อนอยู่ที่ประเทศไทยหลังช่วยทัพ “ช้างศึก” คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟซูซูกิคัพ มาครองได้สำเร็จ และเตรียมจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสโมสรใหม่ต่อไปและคาดว่าจะได้สวมเสื้อเบอร์โปรด หมายเลข 18 เช่นเดิมด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี