รายงานข่าวจากวงการฟุตบอลไทย  ล่าสุดมีข่าวว่า “ลุงอากิระ นิชิโนะ” อดีตกุนซือทีมชาติไทยวัย 65 ปีชาวซามูไรอาจจะได้คัมแบ็คกลับเมืองไทยอีกครั้ง  เพราะมี 2 สโมสรไทยลีกเงินหนาในเมืองไทยให้ความสนใจว่าจ้างให้มาคุมทัพนำไปสู่ความสำเร็จในฟุตบอลไทยลีกในฤดู 2564 – 2565  ซึ่งการเจรจาต่างๆนั้น  มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว  อยู่ที่ว่า ลุงอากิระ  แกจะให้ความสนใจทีมไหนและตกลงเงื่อนไขต่างๆ อย่างไร ซึ่งมีสัญญาในการทำงานถึง 2 – 3 ปีเลยทีเดียว   

แหล่งข่าววงในวงการฟุตบอลไทยได้เผยแก่”สื่อกีฬา”ว่า  นายอากิระ นิชิโนะ  ที่เคยคุมทีมชาติไทยมาร่วม 2 ปี  แม้ผลงานจะไม่เป็นที่ประทับใจกับแฟนฟุตบอลไทยก็ตาม  แต่ด้วยความที่เขาเป็นชาวญี่ปุ่นมีระเบียบวินัยสูงยิ่ง   หากได้มาคุมทีมระดับสโมสรอาชีพเงินหนา  อากิระอาจจะตอบโจทย์ในการนำทีมไปสู่ตำแหน่งแชมป์ได้หากมันตรงในด้านทัศนคติ  ทั้ง 2 สโมสรเงินหนาดังกล่าวคือสโมสรสิงห์เจ้าท่าการท่าเรือ เอฟซีใต้การกุมบังเหียนของ”หญิงเก่ง” มาดามแป้ง  นางนวลพรรณ  ล่ำซำมหาเศรษฐีนีผู้โด่งดังมากๆในสังคมไทย  มีทั้งหน้าตา ความสวยงาม  ใจถึงพึ่งได้  บารมี  ชนิดพรรคการเมืองใหญ่ๆตามตื้อให้เธอไปลงสมัครเป็นผู้ว่าราชการ กทม. ถึง 2 พรรค  ประกอบกับบิดาของมาดามแป้ง นายโพธิพงษ์  ล่ำซำเองก็สนับสนุนบุตรสาวคนเก่งเต็มที่

อีกสโมสรคือสโมสรเงินถัง “บางกอกกล๊าส ปทุมธานี ยูไนเต็ด”  ของค่ายบุญรอดบริเวอรี่  ทีมตราสิงห์  ที่ 2 สโมสรในเครือที่หนุนได้แก่ เชียงรายยูไนเต็ด  กับ บางกอกกล๊าส  สามารถแย่งแชมป์ฟุตบอลออกมาจากอ้อมอกของ”บิ๊กเนวิน”ได้ถึง 2 ปีซ้อนๆในฤดูกาลที่ 23  และ 24 นั่นเอง  ทางนายใหญ่ค่ายตราสิงห์เอกอัครมหาเศรษฐีนามสกุลดัง”ภิรมย์ภักดี” พร้อมทุ่มทุนสร้างตัดหน้าค่ายตรา”ช้าง” อยู่แล้ว 

 อย่างไรก็ตามการเจรจาเอาลุงนิชิโนะมา  ในอัตราค่าจ้างเดือนละ 3 – 4 ล้านบาทและต้องมีทีมงานมาด้วยอีก 3 – 4  รายคือล่ามภาษาไทย – ญี่ปุ่น  - อังกฤษ  นักวิเคราะห์เกม ผู้ช่วยโค้ชอีก 1 คน  ต้องใช้ทุนจ้างประมาณ 4 – 5 ล้านบาทในสภาวะเศรษฐกิจที่ไวรัสโควิดยังระบาด  ก็เป็นโจทย์ใหญ่   แค่ถ้าลุงนิชิโนะยอมลดเพดานค่าจ้างเหลือเฉพาะตัวเดือนละ 1 ล้านบาทไทยกับมีสต๊าฟมาในอัตราค่าจ้างรวมยกทีมเดือนละ 2 ล้านบาทตกทั้งปี 24 ล้านบาท การได้ตัวลุงนิชิโนะมาคุมทีมก็เป็นไปได้แน่อยู่ที่การเจรจาต่อรองกันนั่นเอง