ทีมนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) นำหลักการของ กำแพงกันคลื่น อุปกรณ์ติดตั้งริมทะเลเพื่อลดพลังงานของคลื่นที่พัดเข้ามากัดเซาะชายฝั่ง มาพัฒนาเป็น “กำแพงกันคลื่นแบบลอยตัว” ที่สามารถใช้ลดแรงของคลื่นน้ำ ที่เกิดจากการวิ่งของยานยนต์บนถนนที่ถูกน้ำท่วมได้ โดย วชิรวิทย์รางแดง นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มจธ. กล่าวถึงที่มาของ “โมดูลซับแรงกระแทกน้ำจากการขับรถในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม” (Water Shock-Absorbing Module from Driving A Flood Situation)
ที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นว่า เป็นชิ้นงานที่ทำขึ้นเพื่อเข้าร่วมประกวดในงาน “Ford+ Innovator Scholarship 2021” ซึ่งเป็นเวทีประกวดโครงงานสิ่งประดิษฐ์ ในหัวข้อนวัตกรรมพลังบวกเพื่อโลกที่น่าอยู่ (Plus For A Better World Challenge)โดยโจทย์จะต้องเป็นงานเชิงความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถนำพัฒนาให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งในช่วงนั้นมีข่าวและคลิปต่างๆ ที่สื่อถึงความทุกข์ของคนริมถนน ทั้งผู้ที่พักอาศัยในของอาคารบ้านเรือนและร้านค้า รวมถึงผู้คนที่เดินสัญจรไป-มา ซึ่งนอกจากน้ำท่วมขังที่ต้องเผชิญแล้ว ยังต้องรับมือกับคลื่นน้ำ ที่เกิดจากการวิ่งของรถที่ซัดเข้ามาสร้างความเสียหายทั้งกับร่างกายและทรัพย์สิน
“ด้วยเหตุนี้เราต้องการจะออกแบบกำแพงกันคลื่นที่สามารถลดพลังของคลื่นน้ำจากยานยนต์บนถนน ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าการกั้นคลื่นด้วยแผงกั้นแบริเออร์สีส้ม โดยโจทย์คือกำแพงกันคลื่นนี้จะต้องมีความโดดเด่นในเชิงความคิดสร้างสรรค์ สามารถพิสูจน์ประสิทธิภาพได้ในเชิงวิศวกรรม และมีความเป็นไปได้ในการนำไปผลิตใช้งานได้จริง”
วชิรวิทย์ กล่าว
ความท้าทายของงานชิ้นนี้ในเชิงวิศวกรรม คือ กำแพงคลื่นทั่วไปจะสร้างขึ้นเพื่อจัดการกับคลื่นจากทะเลที่มีขนาดและทิศทางที่ค่อนข้างแน่นอนในแต่ละช่วงเวลา แต่กำแพงคลื่นที่จะสร้างขึ้นมานี้ นอกจากต้องทำงานในสภาวะที่ลูกคลื่นที่เกิดจากยานยนต์ที่มีขนาดและความเร็วต่างกันอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังต้องเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานกับน้ำท่วมที่ระดับความสูงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ปภังกร สุขเพ็ญ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิศวกรรมไฟฟ้า สมาชิกอีกคนของทีม กล่าวถึงจุดเด่นของกำแพงคลื่นแบบลอยตัวที่พัฒนาขึ้น ว่า เนื่องจากระดับน้ำท่วมบนถนนแต่ละเส้น หรือในแต่ละวัน จะไม่เท่ากัน และการสร้างกำแพงให้สูงไว้ก่อนนั้น นอกจากต้นทุนที่สูงแล้วยังยากต่อการเคลื่อนย้ายดังนั้น จึงเลือกออกแบบโดยใช้วัสดุที่ความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ โดยใช้การสวมเข้าไปบนเสาเหล็กกันสนิมที่ตั้งอยู่บนตัวฐานที่มีน้ำหนัก และออกแบบให้ส่วนรับคลื่นมีความโค้งเหมือนตัวอักษร C ที่จะช่วยลดและเปลี่ยนทิศทางของมวลน้ำที่เข้ามา
ซึ่งออกแบบให้มีระยะห่างระหว่างตัวเสากับตัวกำแพงเล็กน้อย ทำให้นอกจากการขยับขึ้นลงได้ตามระดับน้ำ ณ เวลานั้นแล้ว ยังสามารถขยับไปทางด้านหน้า ด้านหลัง เพื่อสร้างคลื่นมาสวนกับคลื่นจากยานยนต์ ทำให้นอกจากสามารถลดแรงของคลื่นได้แล้วยังสะท้อนและหักล้างพลังของคลื่นลูกใหม่ที่จะเข้ามาได้อีกด้วย จากการวิเคราะห์โดยการนำหลักการพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณมาใช้ในการวิเคราะห์การไหลภายนอกของโมดูล ร่วมกับการทดสอบด้วยแบบจำลองในตู้กระจกทดสอบในมาตราส่วน 1:10 พบว่าสามารถลดแรงดันของคลื่นได้ถึงร้อยละ 42.7
รุ่งอรุณ คุณสมิตปัญญา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิศวกรรมไฟฟ้า กล่าวเสริมว่า เมื่อเปรียบเทียบกับแผงกั้นแบริเออร์สีส้มแล้ว อุปกรณ์ของเราที่ประกอบขึ้นมีจุดเด่นหลายประการ ทั้งขนาดที่เล็กกว่า และน้ำหนักที่เบากว่า คือ มีน้ำหนักเพียง 15 กิโลกรัม ในขณะที่แบริเออร์โดยทั่วไปน้ำหนัก 22 กิโลกรัม ทำให้ง่ายต่อการขนย้ายและจัดเก็บ รวมถึงความสูงของแผ่นที่ปรับขึ้นลงได้ ตั้งแต่ 20 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร หากน้ำท่วมไม่สูงก็สามารถปรับระดับความสูงให้เหมาะสมได้ คนสัญจรไป-มาสามารถก้าวข้ามกำแพงกันคลื่นนี้ได้เลย ขณะที่แผงกั้นแบริเออร์สีส้มมีขนาดความสูง 1 เมตร ปรับระดับไม่ได้และไม่สามารถก้าวข้ามได้
และด้วยความคิดที่สร้างสรรค์กับประสิทธิภาพที่พิสูจน์ได้ และเป็นนวัตกรรมที่สร้างได้จริง ทำให้โมดูลซับแรงกระแทกน้ำจากการขับรถในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ของ 3 นักศึกษาวิศวกรรม มจธ. คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ของการประกวดโครงงานสิ่งประดิษฐ์ Ford+ Innovator Scholarship 2021 มาได้สำเร็จ เนื่องจากรูปแบบคลื่นที่เกิดจากยานพาหนะต่างๆ จะมีลักษณะใกล้เคียงกัน ดังนั้นนอกจากกำแพงกันคลื่นแบบลอยตัวนี้จะใช้ได้กับช่วงน้ำท่วมแล้วยังสามารถนำไปใช้ติดตั้งตามแนวคูคลองเพื่อการลดแรงของคลื่นที่เกิดจากเรือที่ผ่านไป-มาได้อีกด้วย
ท้ายที่สุด น้องๆ ทั้ง 3 คน กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของความสำเร็จครั้งนี้ เกิดจากคำแนะนำของ ดร.กำธร เสพย์ธรรม อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มจธ. ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาที่แนะนำให้ใช้กระบวนการทางวิศวกรรม ทั้งการคำนวณด้วยโปรแกรม (Simulation) และการทดลองด้วยแบบจำลอง มาทดแทนการสร้างและทดลองจากชิ้นงานจริงที่ไม่สามารถทำได้จากสถานการณ์การระบาดของโควิด และระยะเวลาที่จำกัด
รวมถึงขอบคุณทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. ที่ให้ใช้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงคอมพิวเตอร์ Workstation ของคณะในการคำนวณทางวิศวกรรมอีกด้วย!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี