ความเคลื่อนไหวของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่เตรียมอุ่นเครื่องในช่วงปฏิทินฟีฟ่าเดย์ 2 นัดพบกับ ทีมชาติเนปาล (อันดับที่ 167 ของโลก) ในวันที่ 24 มี.ค. 2565 พบ เวลา 19.00 น. ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม และ ทีมชาติซูรินาม (อันดับที่ 140 ของโลก) ที่สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม AIS PLAY และไทยรัฐทีวี 32 ยิงสดทั้งสองนัด
ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทัพ “ช้างศึก” ที่เก็บตัวที่ โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ และทำการฝึกซ้อมต่อเนื่อง โดย มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ได้ทำการเรียกตัว “มิคกี้” ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ แนวรุกจากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เข้าแคมป์ทีมชาติไทย แทนที่ของ ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ขอถอนตัวจากอาการบาดเจ็บ
ซึ่ง “มิคกี้” เป็นหนึ่งในขุนพลช้างศึก ชุดคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยผลงานที่โดดเด่นของเขา ทำให้กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยเรียกตัวเข้ามาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง เพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า เดย์
ขณะเดียวกัน “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ได้ทำการแต่งตั้ง “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นกัปตันทีม ชุดอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ 2 แมทช์ ที่จะพบกับ เนปาล และ ซูรินาม แทนที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จอมทัพของทีมจากสโมสร คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ที่ไม่ถูกเรียกมาติดทีมชุดนี้
สำหรับแฟนฟุตบอล สามารถหาซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขามีดังนี้ -โซน A, B, C, D, E, F, G, H, I, J, M, N (Main stand) 500 บาท, -โซน O, P, Q, R, S, T (Pool stand) 350 บาท -โซน Y (Scoreboard) 100 บาท และ AWAY ZONE : โซน X (Torch stand) 650 บาท (สำหรับ NEPAL)
ขณะเดียวกัน ทัพฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ก็เดินทางสู่ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเตรียมทำศึกดูไบ คัพ 2022 เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยการเดินทางครั้งนี้ นำโดย วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พร้อมด้วย นักเตะอีก 21 ราย ส่วนอีก 2 รายอย่าง สิทธิโชค ภาโส และ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จะเดินทางไปสมทบที่ดูไบ โดย “โค้ชโย่ง” ได้เลือกกัปตันทีมในทัวร์นาเมนท์นี้ 3 ราย ประกอบไปด้วย อนุศักดิ์ ใจเพชร, กรวิชญ์ ทะสา และ ธีรภัทร เลาหบุตร
สำหรับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะถ่ายทอดสดทุกนัดทาง AIS Play มีโปรแกรมการแข่งขันดังนี้ แมทช์เดย์ 1 วันที่ 23 มีนาคม 2565 ทีมชาติไทย พบ กาตาร์ ที่ สนามดูไบ โปลิส สเตเดี้ยม เวลา 23.00 น., แมทช์เดย์ 2 วันที่ 26 มีนาคม 2565 ทีมชาติไทย พบ จีนที่ สนาม ดิ เซเว่นส์ สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น (ตามเวลาประเทศไทย) ส่วนแมทช์เดย์ที่ 3 จะเป็นการจัดอันดับ จาก 2 เกมแรก เพื่อหาทีมแชมป์ และอันดับอื่นๆ ต่อไป โดยในกรณีที่มีคะแนนเท่ากัน จะตัดสินกันด้วย ผลต่างประตูได้เสีย, คะแนนแฟร์เพลย์ และหากยังเท่ากันอีกจะมีการจับสลาก ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 29 มีนาคม2565 โดยในเกมที่ 3 หากจบลงด้วยการเสมอกันจะตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี