ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกแรก ประเดิมกันที่ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่หมายมั่นปั้นมืออยากได้แชมป์รายการนี้จะเปิดเอติฮัต สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เจ้าของแชมป์มากที่สุด 13 สมัย ในเวลา 02.00 น.

เจ้าบ้าน แมนฯซิตี้ เพิ่งโรเตชั่นทีมถล่มเอาชนะ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด มาขาดลอย 5-1 ในเกมลีก ส่วนเส้นทางรายการนี้รอบน็อกเอาท์ผ่าน สปอร์ติ้ง ลิสบอน และแอตเลติโก มาดริด มา เกมนี้รอทดสอบความฟิต ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ปัญหาบาดเจ็บข้อเท้า เช่นเดียวกับ จอห์น สโตนส์ หากรายแรกลงไม่ได้ ชูเอา กานเซโล่ จะถูกโยกมายืนทางขวาและให้ โอเล็คซานเดอร์ ชินเชนโก้ ประจำการแบ๊กซ้าย ที่เหลือนำทัพโดย เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ,ฟิล โฟเด้น และราฮีม สเตอร์ลิ่ง

ฟากทีมเยือน เรอัล มาดริด รอบน็อกเอาท์ เจอแต่งานหนักผ่าน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และแชมป์เก่าอย่าง เชลซี เข้ามาได้ ผลงานในลีกบุกถล่ม โอซาซูม่า 3-1 ปัญหาเดียวของ คาร์โล อันเชล็อตติ ในเกมนี้คือไม่มี เอแดน อาซาร์ แนวรุกเบลเยียมที่มีอาการบาดเจ็บ แถมข่าวดีจะได้เอแดร์ มิลิเตา พ้นโทษแบนกลับมาคุมแนวรับร่วมกับ ดาวิด อลาบา นอกนั้นลงได้หมด ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่ และโทนี่ โครส คุมจังหวะแดนกลาง สามแนวรุกดันเอา เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ขึ้นไปประสานงานกับ คาริม เบนเซม่า และวินิซิอุส จูเนียร์

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯซิตี้ ทำได้ดีกว่าเอาชนะได้ 3 เสมอ 1 และ เรอัล มาดริด ชนะ 1

ลุ้นต่อ : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ๊กซ้ายตัวเก่งของ ลิเวอร์พูลโขกทำประตูเบิกร่อง ก่อนที่ “หงส์แดง” จะเปิดรังแอนฟิลด์ เอาชนะ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก

ทางด้านสองทีมดังแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตันผลงานสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง หลังจากทั้งคู่ลงบดบี้ขยี้แข้งในศึกสายเลือด ครั้งที่ 240 ที่สนามแอนฟิลด์ ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล เอาชนะไปได้ 2-0 จากประตูด้วยลูกโหม่งของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสันกับ ดิว็อก โอริกี้

ลิเวอร์พูล คว้าชัยในเกมนี้ได้สำเร็จ ทำให้การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังต้องลุ้นกันต่อแบบไฟลุกโชน หลังจากผ่านไป 33 นัด “หงส์แดง” เก็บไปแล้ว 79 คะแนน ตามหลัง “เรือใบสีฟ้า”
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือ 1 คะแนนเหมือนเดิม แต่ประตูได้เสียตอนนี้ ลิเวอร์พูล บวกอยู่ 63 ขณะที่ ซิตี้ บวกอยู่ 59 ลูก

บริษัทพูลถูกต้องตามกฎหมายของอังกฤษ ยังคงเปิดราคาการลุ้นแชมป์ของสองทีมนี้ไปอย่างสูสีสุดๆ เหมือนเดิม นั่นคือ แมนฯซิตี้ เป็นเต็ง 1 อัตราต่ำสุดอยู่ที่ 4-9 หรือแทง 9 ได้คือ 4 ส่วน ลิเวอร์พูล ขยับปรับลดลงมาเหลือ 7-4 หรือแทง 4 ได้คืน 7 ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วนั้น ยังมีเชลซี อีกหนึ่งทีมที่ได้ลุ้น แต่อัตราตอนนี้ไปไกลสุดกู่ที่ 500-1 ไปแล้ว

จากนี้ไปอีก 2 เกมตามแมทช์เดย์สุดสัปดาห์ ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายที่มีโอกาสกดดัน แมนฯซิตี้ เมื่อจะลงสนามก่อน ในแมทช์เดย์ที่ 34 วันเสาร์ที่จะถึงนี้ “หงส์แดง”จะบุกไปเยือน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เวลา 18.30 น. ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า”จะไปเยือน “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด เวลา 23.30 น.

จากนั้นในแมทช์ที่ 35 ลิเวอร์พูล จะลงเล่นในวันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม ที่แอนฟิลด์ เวลา 01.45 น. พบกับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์สและ “เรือใบสีฟ้า” จะเตะวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม เจอกับ นิวคาสเซิ่ล ในถิ่นตัวเอง เวลา 22.30 น.

ในทางตรงกันข้าม “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” อาการหนักสุด ๆ เมื่อหล่นมาอยู่โซนตกชั้นเป็นครั้งแรกของฤดูกาล ทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 68 ปี โดย แฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ เข้ามารับงานแทนที่ ราฟา เบนิเตซ คุมทัพในบอลลีกไปแล้ว 12 นัด อาการยิ่งสาหัสเรื่อยๆ แพ้ไปถึง 8 นัด ชนะได้ัแค่ 3 เกม ผ่านไปจนถึงขณะนี้เตะ 32 นัด มี 29 คะแนน อยู่อันดับ 18 ตามหลัง เบิร์นลี่ย์ทีมอันดับ 17 อยู่ 2 คะแนน แต่ยังเล่นน้อยกว่า 1 นัด โดยในกลุ่มหนีตายขณะนี้ ทีมอันดับสุดท้าย อันดับที่ 20 คือ นอริช 33 นัด มี 21 คะแนน, อันดับ 19วัตฟอร์ด 33 นัด 22 คะแนน, อันดับ 18 เอฟเวอร์ตัน32 นัด 29 คะแนน, อันดับ 17 เบิร์นลี่ย์ 33 นัด31 คะแนน และลีดส์ 32 นัด 33 คะแนน

อย่างไรก็ตาม พูลถูกต้องตามกฎหมายยังพร้อมใจคาดหมายว่า 3 ทีมที่จะตกชั้นในปีนี้คือ นอริช ซิตี้,วัตฟอร์ด และเบิร์นลี่ย์ มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด ในอัตรา5-6 หรือ แทง 6 ได้คืนแค่ 5 เท่านั้น ตามมาด้วย นอริช,วัตฟอร์ด และเอฟเวอร์ตัน อัตรา 6-4 ส่วนอีกอัตราคือ ลีดส์, นอริช และวัตฟอร์ด อัตรา 6-1