“ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ยังคงอยู่รอดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลหน้าแน่นอนแล้ว หลังพลิกกลับมาเอาชนะ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ 3-2 ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค
โดยเกมนี้ พาเลซ บุกมาเซอร์ไพรส์ได้ 2 ประตูจาก ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้าและจอร์แดน อายิว ในครึ่งแรก แต่แล้วครึ่งหลัง ทอฟฟี่สีน้ำเงิน มารัว 3 ประตูรวดจาก ไมเคิ่ล คีน นาทีที่ 54,ริชาร์ลิซอน นาทีที่ 75 และ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน โขกประตูชัยนาที 85 ทำให้จบเกม เอฟเวอร์ตัน พลิกสถานการณ์เปิดบ้านแซงเอาชนะคริสตัล พาเลซ ไปแบบสุดดราม่า 3-2 ส่งผลให้พวกเขารอดพ้นการตกชั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการรั้งอันดับ 16ของตารางมี 39 คะแนนจากการลงเล่น 37 นัด
หลังจบเกม แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ยอมรับนี่คืออีกหนึ่งค่ำคืนที่พิเศษสุดๆ สำหรับเขากับการที่สามารถรักษาทีมที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเอาไว้บนลีกสูงสุด
“นี่คือช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพและผู้จัดการทีมของผม ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้อยู่ในช่วงเวลาอันน่าอัศจรรย์นี้ ทั้งในฐานะผู้เล่นและโค้ชของเชลซี แต่เมื่อคุณสามารถพาทีมพ้นจากความรู้สึกสิ้นหวังจากการตกชั้น มันเป็นอีกอารมณ์ที่แตกต่างออกไป ผมรู้สึกอิ่มเอมใจเป็นอย่างยิ่งมันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุดๆ ไม่จำเป็นต้องตั้งคำถามถึงการฉลองชัยชนะของแฟนบอล ผมเข้ามาทำงานที่สโมสรแห่งนี้ได้3 เดือน ได้เห็นความยากลำบาก การได้อยู่บนลีกสูงสุดต่อไปนั้นมีความหมายกับผู้คนในเมืองนี้เป็นอย่างมาก และมันเป็นอีกค่ำคืนที่พิเศษประวัติศาสตร์ของสโมสรเอฟเวอร์ตัน” แลมพาร์ด กล่าว
ส่วนอีกคู่ในโซนหนีตกชั้นเช่นกัน “เดอะ คลาเร็ตต์” เบิร์นลีย์ บุกไปเสมอกับ “สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลล่า 1-1 ทำให้เวลานี้ เบิร์นลีย์ มี 35 คะแนนจากการลงเล่น 37 เกม เท่ากับ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด แต่ลูกได้เสียดีกว่าถึง 20 ประตู ต้องไปลุ้นหนีตกชั้นนัดสุดท้าย โดยนัดสุดท้าย เบิร์นลีย์ จะได้เล่นในถิ่นเทิร์ฟ มัวร์ ต้อนรับการมาเยือน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ส่วน ลีดส์ ยูไนเต็ด จะต้องออกไปเยือน “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด
ทั้งนี้การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. นี้นอกจากการลุ้นหนีตกชั้นแล้ว จะยังต้องลุ้นแชมป์ระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงของตาราง จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอสตัน วิลล่า ส่วนอันดับสองอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดแอนฟิลด์ดวลกับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งเงื่อนไขคือ แมนฯซิตี้ชนะจะคว้าแชมป์ทันทีเพราะมีคะแนนนำอยู่ 1 แต้ม ส่วน ลิเวอร์พูล ต้องชนะไว้ก่อนและไม่ลุ้นให้ แมนฯซิตี้ ไม่ชนะ แอสตัน วิลล่า
ขณะที่การลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์เพื่อไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลนี้ เหลือลุ้นอยู่ 2 ทีม “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่หล่นมารั้งอันดับ 5 สถานการณ์เป็นรองเพราะต้องดวลกับ เอฟเวอร์ตันแค่ชนะยังไม่พอเพราะต้องลุ้นให้ สเปอร์ส บุกไปแพ้ นอริช ซิตี้ ที่ตกชั้นไปแล้วด้วย
สำหรับโปรแกรมพรีเมียร์ลีก นัดสุดท้ายเตะพร้อมกันทุกคู่ในเวลา 22.00 น. มีดังนี้ (5) อาร์เซนอล-เอฟเวอร์ตัน (16)/(11) เบรนท์ฟอร์ด-ลีดส์ ยูไนเต็ด (18)/(10) ไบรท์ตัน-เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (7)/(17) เบิร์นลี่ย์-นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (12)/(3) เชลซี-วัตฟอร์ด (19)/(13) คริสตัล พาเลซ-แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (6)/(9) เลสเตอร์ ซิตี้-เซาธ์แฮมป์ตัน (15)/(2) ลิเวอร์พูล-วูล์ฟแฮมป์ตัน (8)/(1) แมนเชสเตอร์ ซิตี้-แอสตัน วิลล่า (14)/(20) นอริช ซิตี้-ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (4)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี