สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย เอเอฟซีที่มีชีค ซัลมาน บิน รอฮีม อัลเลาะห์ ลีฟะฮ์ชาวบาห์เรนเป็นประธานได้ส่งหนังสือเชิญชาติสมาชิก47ประเทศที่อยู่ภายใต้การดูแลของ เอเอฟซี และ ฟีฟ่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติร่วมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกฟุตบอล เอเชียน คัพครั้งที่18 ปี 2023 รอบสุดท้าย แทนที่ “จีน”
หลังจากที่ “จีน” ขอถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2565ที่ผ่านมา อันเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศ ทำให้ในตอนนี้ยังไม่มีเจ้าภาพในรอบสุดท้าย ส่งผลให้ทาง “เอเอฟซี” มีการประชุมหารือกับชาติสมาชิกเพื่อหาชาติที่พร้อมที่สุดในการรับหน้าเสื่อจัดแข่งขันรายการสำคัญของทวีปเอเชีย โดยชาติสมาชิกสามารถเสนอตัวได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2565นี้
สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาก่อนหน้านี้แล้วมีทั้งหมด 13 ทีม ได้แก่ ญี่ปุ่น , ซีเรีย , กาตาร์ , เกาหลีใต้ , ออสเตรเลีย , อิหร่าน , ซาอุดิ อาระเบีย , สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ , จีน , อิรัก , โอมาน , เวียดนาม และ เลบานอนส่วนในรอบคัดเลือกจะหาอีก 11 ทีม เพื่อให้ครบเป็น 24 ทีมในรอบสุดท้าย โดยจะแข่งในช่วงกลางปี 2023 เป็นต้นไปในวันที่16มิ.ย.ถึงวันที่16ก.ค.2566ทางด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯนั้นได้ยืนยันแล้วว่าสภาพสนามของไทยมีไม่พอเพียงเพราะต้องมีสนามขนาด25,000 ที่นั่งขึ้นไปมากถึง 8 -10 สนามแต่ไทยมีแค่ 4 สนามเท่านั้น สำหรับชาติแรกที่ประกาศออกมาว่าอยากรับเป็นเจ้าภาพคือญี่ปุ่น ชาติที่ 2 คือกาตาร์เจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปลายปีนี้ 2022 เพราะมีสนามมากพอถึง 10 สนามอยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี