หลายคนอาจจะเข้าใจไปว่า “สิงห์บลูส์” เชลซี แพแตก หรือว่าสมองไหล จะอะไรก็แล้วแต่
ที่แน่ๆ ก็คือ การเปลี่ยน “ทีมบริหาร” ในยุคนายใหม่อย่าง ท็อดด์ โบลี่ห์ นั้น ไม่ใช่เรื่องที่แปลกแต่อย่างใด หากแฟนบอล
เข้าใจในระบบทุนนิยม, องค์กร และเรื่องสำคัญอย่างที่สุด
เป็นเรื่องคนของใคร!?!?!?!?
การที่ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช เหมือนกับโดน“ยกเค้า” ต้องหนีออกจากอาณาจักรที่ตัวเองสร้างมายาวนานตั้งแต่ปี 2003 หรือ 19 ปี ดังนั้นไม่แปลกในเรื่องของ “คน” ที่จะต้องเปลี่ยน
คนที่ “เสี่ยหมีไว้ใจ” และ “คนของเสี่ยหมี” จะไม่มีทางได้อยู่ที่นี่ต่อ
โดยเฉพาะในเรื่องบริหารจัดการ โบลี่ห์ ย่อมมีคนที่เขา“ไว้ใจ” และ “ไว้วางใจ” อยู่ในนั้น
ไม่จำเป็นที่จะต้องไป “ให้สิทธิ์” คนของ “เสี่ยหมี”แต่อย่างใด
เป็นเรื่องพื้นฐานชีวิตที่ไม่ซับซ้อน แต่ปัจจุบันบางคนอยากให้มันซับซ้อนมากกว่า
เอาเข้าจริงคือธรรมดามาก เพียงแต่การทำงานของทีมชุดนี้ไม่ธรรมดา
เรื่องการแยกทางกับ ปีเตอร์ เช็ก ที่รับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคนิคและประสิทธิภาพของทีม คอยดูแลบรรดานักเตะ
ชุดใหญ่ รวมถึงดาวรุ่งที่ย้ายออกไปค้าแข้งด้วยสัญญายืมตัวกับสโมสรอื่น อาจจะสะเทือนตรงที่เขาเคยเป็นนักเตะที่นี่ และมาทำงานให้กับทีมที่ดังสมัยเป็นนักบอล แฟนบอลย่อมรักและใจหาย
บรู๊ซ บัค ถูกผลักขึ้นไปเป็นที่ปรึกษาอาวุโส ในยุคใหม่ของ ท็อดด์ โบลี่ห์(ขวา)
ในรายของ บรู๊ซ บัค จอมขมังเวทย์ชาวอเมริกัน เข้ามารับตำแหน่งประธานสิงห์บลูส์ ตั้งแต่ปี 2003 เคียงบ่ากับ โรมัน และมีส่วนสำคัญกับการผลักดันทีมจนก้าวขึ้นเป็นสโมสรระดับแนวหน้าของโลก
การสร้างรายได้นอกสนาม คือ หัวใจของ บัค เขาเป็นที่มาของดีลต่างๆ จากสปอนเซอร์ โดยบทบาทต่อไปคือ เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของสโมสร
นั่นก็คือ “แขวน” นั่นแหล่ะ
กรานอฟสกาย่า อำลาจากบอร์ดบริหารคนแรก และตอนนี้ ปีเตอร์ เช็ก ก็อำลาไปอีกราย
ชัดเจนที่สุดก็คือ มารีน่า กรานอฟสกาย่า ฟันเฟืองคนสำคัญในการร่วมกับ โรมัน ในการสร้างอาณาจักรเดอะ บริดจ์ เธอมีหน้าที่หลักคือ เจรจา,ปิดจ๊อบ และเซ็นสัญญา พร้อมกับสามารถ “ตัดสินใจแทน” โรมัน ได้อย่างทันท่วงที
เธอทำงานให้กับ โรมัน มาตั้งแต่ปี 1997 และมาที่ลอนดอนกับ โรมัน ตั้งแต่ยุคแรกที่เทคโอเวอร์ กระทั่งขึ้นเป็นบอร์ดคนสำคัญในปี 2014 อยู่เบื้องหลังดีลสำคัญ และรวมถึงการประนีประนอมการปลด แฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ จากที่
ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนั่นก็เพราะเธอต้องการลดแรงเสียดสีระหว่างแฟนบอลกับโรมัน เพราะแลมพาร์ด เป็นตำนานสโมสร
กรานอฟสกาย่า เติบโตยุคสหภาพโซเวียตเดิมเป็นคนเชื้อสายรัสเซีย-แคนาดา พูดได้ถึง 6 ภาษา และเรียนมาเพื่อเป็นครู แต่เธอยืนยันว่า ชีวิตมีอะไรที่ท้าทายรออยู่ และเลือกมาทำงานด้านฟุตบอลกับโรมัน ที่เชลซี
ดังนั้นเมื่อ โรมัน ต้องไปจากทีมแน่นอนว่า กรานอฟสกาย่าจะอยู่ต่อไป.....แทบเป็นไปไม่ได้เลย
สุดท้ายก็อำลาเป็นคนแรก ก่อนจะอำลาแบบยกแพ็กตามที่ได้เห็น
ด้วยศักยภาพของทุกคน ทำให้หลายฝ่ายที่มีเลือด“สิงห์บลูส์” เกิดข้อวิตกกังวลว่า ทีมอาจจะต้องสะดุดในการเจรจาครั้งสำคัญกับนักเตะที่กำลังจะหมดสัญญา และมีข่าว
จะย้ายออกจากทีมทุกวี่ทุกวัน
จนถึงเวลานี้ก็ยังปิดดีลใครไม่ได้เลย!?!?!?!?
ด้วยความสัตย์ ได้เคยนำเสนอเรื่องเป็นที่เชื่อว่า เชลซีจะไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินได้ดีเท่ากับยุคของ โรมันต่อให้จะทุ่มแค่ไหน ผลลัพธ์สุดท้าย....จะยังไงก็ไม่ได้เท่าเดิม!!!
ดังนั้นย้ำกันอีกทีในบรรทัดสุดท้าย ทีมงานเจ้าของใหม่ จะต้องมาพร้อมกับทีมบริหารชุดใหม่ เป็นเรื่องปกติและธรรมดา
อย่างที่สุด
ไม่มีใครใหญ่คับฟ้า ไม่มีใครเป็นศูนย์กลางจักรวาล
ทุกอย่างหมุนไปตามความตั้งใจบ้าง หัวใจบ้าง เวลาบ้าง....ทั้งหมดคือวัฏจักร
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี