สโมสรยักษ์ใหญ่จริงๆในไทยลีกหนึ่ง คือบีจีปทุมยูไนเต็ดแห่งสนามลีโอสเตเดี้ยมหรือสนามรังสิตสเตเดี้ยมที่จุคนดู10,114 ที่นั่งที่รังสิตคลอง 3 ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี อดีตแชมป์ไทยลีกหนึ่ง 1 สมัย ที่เป็นสโมสรของอภิมหาเศรษฐีตระกูล”ภิรมย์ภักดี”ที่มีทรัพย์สินรวมๆกันเกิน5หมื่นล้านบาทฤดูก่อนได้รองแชมป์มาที่ 2 ฤดูใหม่ปี 2565 – 2566 มีคิวแข่งเอเอฟซีแชมเปี้ยนลีกรอบ2 รอบ 16 ทีมสุดท้ายในเดือนสิงหาคม 2565 ต้องไปญี่ปุ่น 3 บอสใหญ่สั่งเดือนหน้าคือเอเอฟซีแชมเปี้ยนลีกต้องไม่ให้ขายหน้ารั้ง4 ทีมสุดท้าย ส่วนไทยลีกปีใหม่หวังถึงแชมป์  ทั้ง”บิ๊กตุ่ม”นายสันติ ภิรมย์ภักดีประธานคณะกรรมการบริษัทบุญรอดบริเวอรี่ จำกัด “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์  ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรกิตติมศักดิ์ “เสี่ยปิ๊ป”  ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรตัวจริงมั่นใจว่าน่าจะไปถึงดวงดาวได้มีผู้เล่นต่างชาติถึง 9 คนฟูลทีม 

ด้านหัวหน้าโค้ชเป็นญี่ปุ่นคือนายมาโกโตะ  เทงูราโมริ  ผู้อำนวยการฟุตบอล โค้ชจั๊บ สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ 2 ผู้ช่วยโค้ชคืออำนาจ แก้วเขียวและพีรพงศ์  พิชิตโชติรัตน์  นักเตะทีมเอ34คนในวันที่ 4 ก.ค.2565 คือผู้รักษาประตู ฉัตรขัย บุตรพรม,ประสิทธิ์ ผดุงโชค,สุภนัย จันทร์ประสิทธิ์,กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก กองหลัง นาคิน วิเศษชาติ,สหรัฐ ปองสุวรรณ,บราซิล วิกตูร์ การ์ดูซู,กาซิโอ ไซด์,สิงคโปร์  เออร์ฟาน ฟานดี้,เอร์เนสโต ภูมิภา,อภิสิทธิ์ โสรฎา,จักพัน ไพรสุวรรณ,สันติภาพ จันทร์หง่อม,อดิศักดิ์ ซอสูงเนิน,ออสเตรเลีย เจสซี่ เคอร์แรน,เวเนซูเอล่า แอนเดรส ตูนเญส กองกลาง สารัช อยู่เย็น,พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล,วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ,เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์,ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์,อิสราเอล ลิดอร์ โคเฮน,ฉัตรมงคล ทองคีรี,กนกพล ปุษปาคม,ณัฐพล วรสุทธิ์,วาริส ชูทอง กองหน้า บราซิล           จีโอกู ลูอิส ซังตู,เปาโล คอนราโด,สิงคโปร์อิคซาน ฟานดี้,สุรชาติ สารีพิมพ์,ธีรศิลป์ แดงดา,ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร,ชาตรี ฉิมทะเล,ธรรมยุต รักบุญ ในวันนี้ทีมเอได้ล่องใต้ไปซ้อมที่แคมป์หัวหิน2สัปดาห์เต็มๆ

ในขณะที่ปีนี้กระต่ายได้ปล่อยปล่อยผู้เล่นดาวรุ่งของทีม ในการย้ายไปร่วมทีมในศึกไทยลีก 2 และไทยลีก 3 ฤดูกาล2565-2566 ที่กำลังจะเริ่มขึ้น เพื่อโอกาสในการลงสนาม และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ในการพัฒนาฝีเท้าของนักเตะต่อไปในอนาคตโดยนักเตะดาวรุ่งบีจี ปทุม ยูไนเต็ดที่ถูกปล่อยตัวทั้งหมดมีดังนี้ณัฐพล ห่อทอง, รัตนชาติ เนียมไธสง, ธนดล ศุภผล ย้ายไปร่วมทีม จันทบุรี เอฟซี ทีมในศึกไทยลีก 3 โซนตะวันออก, เกริกพล อาบรัมย์ ย้ายไปร่วมทีม พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ทีมในศึกไทยลีก 3 โซนตะวันออก, ศุภสัณห์ อาจรอด, รชานนท์ พลเรือง, ธีระพล กองสอน ย้ายไปร่วมทีม อ่างทอง เอฟซี ทีมในศึกไทยลีก 3 โซนตะวันตก, ธนกฤต ละออไขย์, ศิรชัช กระแสทอง ย้ายไปร่วมทีม พิษณุโลก เอฟซี ทีมในศึกไทยลีก 3 โซนเหนือ, ศตวรรษ ลีลา, ศิวัช ระวังป่าบุตรชายของกิตติศักดิ์ ระวังป่าอดีตนายทวารทีมชาติไทย, เดชานนท์ ศรีเมือง, ภาสกร คุ้มธเรศ, ธนากร ทองคำ, พีรพงศ์ ศรีสาวรรณ์, ธนกฤต ทองศรี และ ศตนันท์ ป้อมสะอาด ย้ายไปร่วมทีม เอสทีเค เมืองนนท์ ทีมในศึกไทยลีก 3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล และอภิสิทธิ์ เสมอเหมือน ที่ย้ายไปร่วมทีม แม่โจ้ ยูไนเต็ด ทีมในศึกไทยลีก 3 โซนเหนือ,วัชรินทร์ เนื่องพระแก้วได้ย้ายไปร่วมนครศรีธรรมราช ยูไนเต็ดทีมภาคใต้น้องใหม่ในศึกไทยลีก 2 เพื่อหาประสบการณ์กับการค้าแข้งอาชีพเป็นเวลา1ปี