สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จัดการประชุมแผนงานของทีมชาติไทยชุด ยู-23 ที่ในปี 2023 จะเป็นปีสำคัญที่จะเริ่มทัวร์นาเมนท์การคัดเลือกโอลิมปิก 2024 ที่จะคัดตัวแทนทวีปเอเชีย 3+1 ทีมเข้าไปเล่นในโอลิมปิกรอบสุดท้าย

พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เปิดเผยหลังการประชุมว่า“เรามีแผนงานและต้องการที่จะดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ และพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของทีมงานผู้ฝึกสอน และนักเตะระดับเยาวชน ให้มีความต่อเนื่อง
มากที่สุด ซึ่งในทุกทัวร์นาเมนท์ ของรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เราจะใช้นักเตะที่เกิดหลังวันที่ 1 มกราคม 2544 (2001) ทั้งหมด และจะไม่ใช้นักเตะโควตาอายุเกิน ในการแข่งขันฟุตบอลรายการ ซีเกมส์ และเอเชี่ยนเกมส์ โดยขอให้เป็นนโยบาย และจุดยืนที่ชัดเจนของสมาคมฯ สำหรับการเตรียมทีมชาติไทยชุด U-23”

“ปัจจุบันสมาคมฯ และทีมงานผู้ฝึกสอน มีนักเตะอยู่ในลิสต์ส่วนหนึ่ง ซึ่งจะมีการสเกาท์ และติดตามผลงานของนักเตะในการแข่งขันฟุตบอลรายการต่างๆ โดยไม่ปิดโอกาสกับนักเตะที่ทำผลงานได้ดี และมีอายุอยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว”

“นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังมีแผนการเตรียมประชุมหารือร่วมกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนในไทยลีก เพื่อหารือถึงแนวทาง ข้อมูลด้านเทคนิค และขอความร่วมมือในการปล่อยตัวนักเตะเข้าร่วมแคมป์ฝึกซ้อมทีมชาติในช่วงฟีฟ่า เดย์ และทัวร์นาเมนท์
การแข่งขัน”

สำหรับนักเตะที่มีศักยภาพ และมีอายุคาบเกี่ยวกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ และชุด U-23 หลังจากการหารือกับ มาโน่ โพลกิ้ง จะมีการพิจารณาถึงความเหมาะสม และความสำคัญของแต่ละรายการ อีกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุด และเป็นการเตรียมทีมในระยะยาว ตามแผนงานของสมาคม โดยวางเป้าหมายไว้ในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโอลิมปิก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปี 2567 (2024)

ทั้งนี้ 3 รายการต่อไปของทีมชาติไทย ชุด ยู-23 ปี ช่วงปี 2022-2024 ประกอบด้วย ศึกฟุตบอล ยู-22 ชิงแชมป์อาเซียน 2023 (รอกำหนดช่วงระยะเวลาการแข่งขัน), มหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่
5-16 พ.ค. 2566 และ เอเชี่ยน เกมส์ 2022 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-8 ต.ค. 2566