การแข่งขันฟุตบอลลีกยุโรป เตรียมกลับมาดวลแข้งฤดูกาลใหม่ 2022-23 แล้ว โดยสัปดาห์นี้จะเป็นเกมเตะชิมลางที่เป็นประจำทุกปี ซึ่งในวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคมนี้ จะเป็นเกมใหญ่ 2 ประเทศ นั่นคือ อังกฤษ และเยอรมนี รวมไปถึงลีกต่างๆ ในระดับรองของอังกฤษ จะเริ่มดวลแข้งกันอย่างเป็นทางการ
ในศึกเอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2022 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ ดวลกับคู่ปรับแห่งยุค “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก เวลา 23.00 น. บีอิน สปอร์ต และทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดจากเดิมต้องเตะที่ เวมบลีย์ แต่หนนี้หลีกทางให้กับ นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลหญิงยูโร 2022 ย้ายมาใช้สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รังเหย้าของ เลสเตอร์ ซิตี้ แทน
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ผลงานในช่วงปรีซีซั่นถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ชนะ 2 แพ้ 2 (แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 0-4, ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0, ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 5-0 และแพ้ เรด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก 0-1) ก่อนเกมเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีมได้ออกมายืนยันว่าจะไม่มีนายทวารมือหนึ่งและสองอย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ และควิวีน เคลเลเฮอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บยังไม่สมบูรณ์ รวมไปถึงผู้เล่นเอ้าท์ฟิลด์อย่าง ดีโอโก้ โชต้า และอเล็กซ์อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
ทำให้ไม่มีทางเลือกต้องใช้ อาเดรียน ผู้รักษาประตูมือสามลงเฝ้าเสา เพราะตัวที่มีอยู่เป็นดาวรุ่งอย่าง ฮาร์วีย์ เดวีส์ และฟาเบียน โรเซ็ค ส่วน คอนสแตนตินอส ซิมิกาส แบ๊กซ้ายทีมชาติกรีซต้องรอทดสอบความฟิต นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร ยึดระบบการเล่น 4-3-3 เหมือนเดิม จัดทัพตามสภาพความฟิตของนักเตะ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คุมแดนกลางร่วมกับ ฟาบินโญ่ และธีอาโก้ อัลคันทาร่าสามประสานในเกมรุกใช้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และหลุยส์ ดิอาซ โดยมีดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกเจ้าของค่าตัว 64ล้านปอนด์ พร้อมสอดแทรกลงตัวจริง
ทางฝั่ง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่าไม่ค่อยเผยไต๋ในช่วงปรีซีซั่น พวกเขาลงอุ่นเครื่องที่สหรัฐอเมริกาไปเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น (ชนะ คลับ อเมริกา 2-1 และชนะ บาเยิร์น มิวนิค 1-0) ทีมมีการเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่ง กาเบรียล เฮซุส, ราฮีม สเตอร์ลิ่งและโอเล็คซานเดอร์ ชินเชนโก้ ถูกขายออกไป แต่ก็เสริมผู้เล่นบิ๊กเนมเข้ามา 2 รายคือ เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ และคาลวินฟิลิปป์ส พร้อมด้วยนายทวารสำรองที่จะมาเป็นแบ๊กอัพของ เอแดร์ซอน โมลาเอส อย่างสเตฟาน ออร์เตก้า โมเรโน่
ในแนวรับไม่มี อายเมริค ลาปอร์ก แนวรับที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ในรายของ จอห์น สโตนส์, ฟิล โฟเด้น และอิลคายกุนโดกัน ไม่ได้เดินทางไปกับทีมในการไปทัวร์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา ทำให้ต้องใช้ เนธาน อาเก้ลงเป็นคู่หูของ รูเบน ดิอาส ในแนวรับ นอกนั้นถือว่าพร้อมมาในระบบ 4-3-3 เช่นกัน โรดรี้ น่าจะได้โอกาสปักหลักคุมแดนกลางก่อนตัวใหม่อย่าง คาลวิน ฟิลิปป์ส โดยมี แบร์นาร์โด้ซิลวา และเควิน เดอ บรอยน์ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมประสานงานกับ ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ และแจ็ค กรีลิช
สถิติการพบกันในรายการนี้พบกันแค่ครั้งเดียวเมื่อปี 2019 เสมอกันในเวลา 1-1 ก่อนที่ แมนฯซิตี้ จะดวลจุดโทษเอาชนะไปได้ 5-4 ส่วนการดวลกัน 5 เกมหลังสุด ผลัดกันชนะไปฝั่งล่ะ 1 ครั้ง และเสมอ 3
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ลิเวอร์พูล (4-3-3): อาเดรียน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้,เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ธีอาโก้อัลคันทาร่า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ดาร์วิน นูนเญซ) และหลุยส์ ดิอาซ
แมนฯซิตี้ (4-3-3): เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เนธานอาเก้, ชูเอา กานเซโล่, เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ริยาด มาห์เรซ,เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ และแจ็ค กรีลิช
สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ทางด้าน ศึกแชมป์ชนแชมป์ของประเทศเยอรมนี เป็นการปะทะกันของ “กระทิงเปลี่ยว” แอร์เบ ไลป์ซิก ที่คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ในฤดูกาลที่แล้วเป็นสมัยแรกของสโมสร จะได้เล่นในเรด บูลล์ อารีน่ารังเหย้าของตัวเองดวลกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เจ้าของแชมป์บุนเดสลีกา 10 สมัย ในคืนวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม เวลา 01.30 น.คู่นี้ พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ถ่ายทอดสด
แอร์เบ ไลป์ซิก ฤดูกาลที่แล้วเร่งสปีดจนสามารถจบอันดับ 4 ของตารางได้โควตาไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมใจที่หวังเอาไว้ ทีมของกุนซือ โดมินิโก้ เทเดสโก้ ปักหลักเก็บตัวปรีซีซั่นในยุโรป โดยลงอุ่นเครื่องไป 2 เกม (ชนะ เซาแธมป์ตัน 3-1 และแพ้ ลิเวอร์พูล 0-5) ทีมมีการเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่งปล่อย ไทเลอร์ อดัมส์ ไปให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด รวมไปถึง นอร์ดี้ มูคีเล่ ให้กับ ปารีส-แซงต์แชร์กแมง ที่เสริมเข้ามาแบบเป็นชิ้นเป็นอันมีรายเดียวคือ ซาเวอร์ ชาลาเงอร์ จากโวล์ฟสบวร์ก
เกมนี้พวกเขาได้เปรียบเพราะได้เล่นในรังเหย้าของตัวเอง ตามรายงานจะไม่มียุสซูฟ โพลเซ่น และอเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ สองหัวหอกจากสแกนดิเนเวียที่มีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นถือว่าพร้อม โดมินิค เทสเดสโก้กุนซือของทีมมีสถิติค่อนข้างดีนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ชนะได้ถึง 18 เสมอ 7 และแพ้ 5 จากการคุมทีม 30 นัด ไม่นับเกมอุ่นเครื่องกับลิเวอร์พูล คาดว่าเกมนี้น่าจะจัดเต็มมาในระบบ 3-4-2-1 นำทัพโดย เปตาร์ กูลาคซี่, วิลลี่ ออร์บาน, คอนราดไลเมอร์, อังเคลิโญ่, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และเอมิล ฟอร์สเบิร์ก
ฝั่ง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ภายใต้การคุมทีมของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ถือครองสถิติเป็นเจ้าของแชมป์รายการนี้มากที่สุด 9 สมัย เสียหัวหอกคนสำคัญอย่าง โรเบิร์ตเลวานดอฟสกี้ ไปให้กับ บาร์เซโลน่า ที่เหลืออย่าง มาร์ค โรก้า, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ และนิคคลาส ซือเล่ พวกนี้ไม่นับที่เสริมเข้ามาถือว่าน่าสนใจได้ นูสแซร์ มาซราอุย, ไรอัน กราเวนแบร์ช, ซาดิโอ มาเน่ และมัตไธจ์สเดอ ลิกต์ ผลงานการลงอุ่นเครื่องในช่วงปรีซีซั่นบินไปทัวร์ที่สหรัฐอเมริกา (ชนะ ดีซี ยูไนเต็ด 6-2 และแพ้ แมนฯซิตี้ 0-1)
เกมนี้ต้องรอทดสอบความฟิตของ เลออน กอเร็ตซ์ก้า มิดฟิลด์นักกล้ามว่าจะสมบูรณ์หรือไม่ นอกนั้นทีมของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ถือว่าพร้อมอยู่ที่ว่าจะจัดแบบไหนแต่เชื่อว่าน่าจะส่งชุดใหญ่ลงเล่นเอาฤกษ์เอาชัย มีโอกาสที่ 3 ผู้เล่นใหม่อย่าง นูสแซร์ มาซราอุย,ซาดิโอ มาเน่ และมัตไธจ์ส เดอ ลิกต์ จะได้ลงประเดิมสนามเป็นตัวจริงทันที ส่วน ไรอัน กราเวนแบร์ช ต้องรอโอกาสบนม้านั่งสำรองไปก่อน โดยจะประสานงานกับ โชชัว คิมมิช,เลรอย ซาเน่ และโธมัส มุลเลอร์
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด บาเยิร์น มิวนิค ไม่แพ้เลย เป็นฝ่ายกำชัยได้ 3 และเสมอ 2
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม แอร์เบ ไลป์ซิก (3-4-2-1): เปตาร์ กูลาคซี่, โมฮาเหม็ดซีมากาน, วิลลี่ ออร์บาน, มาร์เซล ฮัลสเตนแบร์ก, เบนจามิน เฮนริชห์, คอนราด ไลเมอร์, ซาเวอร์ ชาลาเงอร์, อังเคลิโญ่, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และเอมิล ฟอร์สเบิร์ก
บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1): มานูเอล นอยเออร์, นูสแซร์ มาซราอุย, มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์, ลูก้า แอร์กนองเดซ, อัลฟองโซ่ เดวีส์, โยชัว คิมมิช, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เลออย ซาเน่, โธมัส มุลเลอร์, คิงสลีย์ โกมาน และซาดิโอ มาเน่
สกอร์ที่คาด : แอร์เบ ไลป์ซิก 2-3 บาเยิร์น มิวนิค
ส่วนเกมฟุตบอลอังกฤษ ทั้งระบบได้ฤกษ์เปิดสนามในสัปดาห์นี้ทั้ง 3 ดิวิชั่น ซึ่งโปรแกรมทั้งหมดมีดังนี้ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ/คืนวันศุกร์ 02.00 น. ฮัดเดอร์สฟิลด์-เบิร์นลี่ย์, วันเสาร์ 21.00 น. แบล็คพูล-เรดดิ้ง,คาร์ดิฟฟ์-นอริช, ร็อธเทอร์แฮม-สวอนซี,แบล็คเบิร์น-ควีนส์พาร์ค, ลูตัน ทาวน์-เบอร์มิงแฮม, ฮัลล์-บริสตอล ซิตี้, วีแกน-เปรสตัน, มิลล์วอลล์-สโต๊ค, มิดเดิ้ลสโบรช์-เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, วันอาทิตย์/ 18.00 น.ซันเดอร์แลนด์-โคเวนทรี และวันจันทร์02.00 น. วัตฟอร์ด-เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
ลีก วัน เตะพร้อมกันวันเสาร์นี้ เวลา 21.00 น. พลีมัธ อาร์ไกล์-บาร์นสลี่ย์, บริสตอลโรเวอร์ส-ฟอเรสต์ กรีน, ลินคอล์น ซิตี้-เอ็กซ์เตอร์ ซิตี้, แอคคริงตัน สแตนลี่ย์-ชาร์ลตัน แอธเลติก,พอร์ท เวล-ฟลีตวู้ด,เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด-มิลตัน คีน์ส ดอนส์,มอร์แคมบ์-ชรูว์สบิวรี่ ทาวน์, วีคอมบ์-เบอร์ตัน,เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์-พอร์ทสมัธ, เชลแน่ม-ปีเตอร์โบโร่, ดาร์บี้ เคาน์ตี้-อ็อกซ์ฟอร์ด และอิปสวิช ทาวน์-โบลตัน วันเดอเรอร์ส
ลีก ทู เตะพร้อมกันวันเสาร์นี้ เวลา 21.00 น. คาร์ไลส์-ครอว์ลี่ย์ ทาวน์, วอลซอลล์-ฮาร์เทิ่ลพูล, แฮร์โรเกต ทาวน์-สวินดอน ทาวน์, แบร๊ดฟอร์ด ซิตี้-ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส,เลย์ตัน โอเรี้ยนท์-กริมสบี้ ทาวน์, โรชเดล-ครูว์ อเล็กซานดร้า, สต๊อคพอร์ต-บาร์โรว,ซัลฟอร์ด ซิตี้-แมนส์ฟิลด์ ทาวน์, เอเอฟซีวิมเบิลดัน-จิลลิ่งแฮม, ซัตตัน ยูไนเต็ด-นิวพอร์ต เคาน์ตี้, ทรานเมียร์ โรเวอร์ส-สตีเวเนจและนอร์ธแฮมป์ตัน ทาวน์-โคลเชสเตอร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี