ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยที่เตรียมลงแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 48 ระหว่างวันที่ 22-25 กันยายน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน

โดยการแข่งขันครั้งนี้จะมี 4 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งเวลานี้ มีเพียง ทีมชาติไทย และทีมชาติมาเลเซีย ที่ยืนยันเข้าร่วมการแข่งขัน และต้องรอการยืนยันจากอีก 2 ชาติอีกครั้ง ซึ่งการแข่งขันจะเป็นแบบน็อกเอาท์ รวม 4 แมทช์ นั่นจะทำให้ทัพช้างศึกได้ลงเล่นแน่นอน 2 แมทช์ ฟีฟ่าเดย์

ล่าสุด นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าภาคส่วนต่างๆ ของ จ.เชียงใหม่ ได้เตรียมพร้อมแล้วทั้งสนามแข่งขันที่ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปีที่เพิ่งปรับปรุงเสร็จ จุ 2 หมื่นคน, สนามซ้อม, โรงแรมที่พัก ในส่วนของสนามซ้อม เตรียมไว้ครบแล้ว4 สนาม คือ ที่สนามอัลไพน์ กอล์ฟ เชียงใหม่ ที่มี 3-4สนาม สนามแห่งนี้มีมาตรฐานสูงทราบว่าช่วงต้นปีหน้าจะมีทีมจากเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น มาซ้อมที่นี่ด้วย ซึ่งศึก 4 เส้าจะใช้เป็นสนามซ้อมของ 2 ทีม

ส่วนอีก 2 สนาม คือสนามซ้อมบริเวณสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี และสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ ส่วนเรื่องบัตรเข้าชมยังไม่ได้กำหนดราคาอย่างเป็นทางการ แต่ยืนยันว่าไม่แพงแน่ ราคาย่อมเยา ต้องการให้ชาวเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงได้ชมกันทั่วถึงกับฟุตบอลดี ฟีฟ่าเดย์ ราคาถูก วางไว้ราวๆ 100 บาท ถ้าจะสูงหรือต่ำกว่าก็ไม่มากจากนี้ แต่ต้องปรึกษาฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อน

นายพิชัยกล่าวต่อไปว่า งบประมาณในการเป็นเจ้าภาพเท่าที่คุยกันระหว่าง สมาคมกีฬาจังหวัดเชียงใหม่, อบจ., ภาคเอกชน น่าจะอยู่ที่ราวๆ 20 กว่าล้านบาท ทราบมาว่าเฉพาะค่าเชิญทีม ก็ทีมละ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) งบฯ ส่วนนี้เป็นการร่วมมือกันหลายภาคส่วน ทั้ง จ.เชียงใหม่ ทาง อบจ., การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และภาคเอกชน ทั้งในเชียงใหม่ และส่วนกลางกรุงเทพฯ รวมถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องขอขอบคุณที่ไว้ใจ จ.เชียงใหม่

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลใหม่ 2022-23 กำลังจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้ และได้มีการเตะแมทช์ชิมลาง “คอมมิวนิตี้ ชิลด์” เป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง ลิเวอร์พูล ทุบแมนฯซิตี้ ลงได้ 3-1 ครองโล่การกุศลเป็นประเดิมครั้งแรกรอบ 16 ปี

การดวลแข้งปีนี้ นับเป็นปีที่ 31 ในยุคพรีเมียร์ลีก และเป็นปีที่ 124 ของระบบลีกสูงสุดมีทั้งหมด 20 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งทุกทีมได้ถือหุ้นของบริษัทพรีเมียร์ลีก ตามกฎอีกด้วย และการันตีว่า รายรับของปีนี้ไม่มีต่ำกว่าทีมละ 120 ล้านปอนด์และสูงสุดจะอยู่ที่ 170 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

n 20 ทีมลีกสูงสุดมาจากไหน

ทีมในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ได้น้องใหม่มา 3 สโมสร นั่นคือ “สิงห์สั่งป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์เจ้าของตำนานแชมป์ยุโรป 2 สมัยซ้อน ที่ตกชั้นไปนานถึง 23 ปี ร่วมด้วย บอร์นมัธ และแชมป์เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อย่าง “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ทีมที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งมหานครลอนดอน 143 ปี

ซึ่งปีนี้ทีมจากกรุงลอนดอน ยังมากที่สุดเหมือนเดิม รวม 7 ทีม ประกอบด้วย อาร์เซน่อล,เบรนท์ฟอร์ด, เชลซี, คริสตัล พาเลซ, ฟูแล่ม,ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด โดยถือว่าอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งทีมจากแดนใต้ปีนี้กลับมามี 3 ทีมอีกครั้ง นั่นก็คือ ไบรท์ตัน แอนด์โฮฟ อัลเบี้ยน, เซาแธมป์ตัน และบอร์นมัธ

ขณะที่ตอนกลาง หรือ “มิดแลนด์” มี 4 ทีมนั่นคือ แอสตัน วิลล่า, วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส,น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และเลสเตอร์ ซิตี้, เกรตเตอร์ แมนเชสเตอร์ 2 ทีม คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอีก 1 ทีมที่อยู่ใกล้กันจากเวสต์ ยอร์กเชอร์ นั่นคือ ลีดส์ ยูไนเต็ด

ขยับขึ้นไปตอนบน จากเมอร์ซี่ย์ไซด์ 2 ทีมนั่นคือ ลิเวอร์พูล กับ เอฟเวอร์ตัน และที่อยู่ไกลสุดคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นิวคาสเซิ่ล อัพพอน ไทน์นั่นคือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

n ‘แมนฯ ซิตี้’ ยังคงเต็งหาม

“เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า ยังคงเป็นเต็ง 1 เหมือนเดิมในการล่าแชมป์ฤดูกาลนี้ หลังจากพวกเขาครองความยิ่งใหญ่บนเกาะอังกฤษแบบต่อเนื่องสุดๆ เพราะ 5 ปี หลังกดไปถึง 4 แชมป์

อัตราต่อรองของพวกเขาอยู่ที่ 8/13 หรือแทง 13 ได้กลับคืนมาแค่ 8 เท่านั้นถือว่าต่ำแบบสุดๆ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่อัตราเริ่มต้นของเต็งพรีเมียร์ลีก แทงมากกว่าที่ได้คืน

ตามมาด้วย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คู่ปรับแห่งยุคของเรือใบ ที่อัตราต่ำสุดตอนนี้ลดลงมาเหลือแค่ 2-1 แล้ว หรือแทง 1 ได้ 2 หลังจากเพิ่งเตะทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลิ้งในเกมเดอะ ชิลด์ โดยมี “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นเต็ง 3 อัตราที่ 12-1, “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เป็นเต็ง 4อัตรา 13-1, “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเต็ง 5 อัตรา 25-1 และ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อลเป็นเต็ง 6 อัตรา 26-1

n หยัน ‘น้องใหม่’ กลับที่เก่า

ทีมเต็งตกชั้นในซีซั่นนี้ก็คือทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาทั้งหมด เริ่มจาก บอร์นมัธ ทีมรองแชมป์จากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่กลับมาอีกครั้งในรอบ 2 ปี อัตราอยู่ที่ 4-7 หรือแทง 7 ได้คืนมา 4 ขณะที่ น็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ ที่เสริมทัพถึง 13 คนแล้ว เป็นเต็ง 2 อัตรา 6-5 และเต็ง 3 คือ ฟูแล่ม อัตรา 5-4

โดยทีมที่เป็นตัวเต็งจะต้องไปท่องยุทธจักร นั่นก็คือ ลีดส์ อัตรา 9-4, เบรนท์ฟอร์ด อัตรา 12-5,เซาแธมป์ตัน 3-1, เอฟเวอร์ตัน 10-3 และวูล์ฟส์ 4-1

n กฎปรับใหม่เปลี่ยนตัว-มัลติบอล

พรีเมียร์ลีก ปรับกฎใหม่ร่วมกับ คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ หรือ Football Association BoardI (FAB) นั่นคือการเปลี่ยนผู้เล่นทั้งหมด 5 คนต่อ 1 นัด โดยเปลี่ยนได้ 3 ครั้ง ไม่นับรวมช่วงพักครึ่งเวลา และใส่ชื่อนักเตะบอลตัวสำรองได้นัดละ 9 คน

โดยจะมีการนำระบบ “มัลติบอล” หรือลูกฟุตบอลรวม 10 ลูกมาใช้ในแต่ละเกม เพื่อเพิ่มความเร็วในการนำลูกฟุตบอลกลับเข้ามาในสนาม

ผู้รักษาประตู ได้รับอนุญาตให้ขยับเท้าหนึ่งข้างหลังเส้นประตู ในช่วงของการดวลจุดโทษ เพื่อสร้างปฏิกิริยาในการป้องกันประตู

หากมีเหตุการณ์ที่นักฟุตบอลคนใดคนหนึ่งหรือหลายคน ควบคุมตัวเองไม่ได้ จนมีเรื่องระหว่างเกมนั้น เมื่อเหตุการณ์จบลง ผู้ตัดสินจะให้เล่นใหม่ด้วยการ “เตะฟรีคิกโดยอ้อม” กับทีมฝั่งตรงกันข้าม โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการอธิบายกฎที่ชัดเจนเอาไว้

n วันเปิดปิด-ลุ้นตลาดนักบอลอีกยาว

โปรแกรมการเตะปีนี้ คือ การเปิดฉากเร็วกว่าเดิมประมาณ 1 สัปดาห์ คราวนี้ขยับมาเป็นคืนวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม ซึ่งเป็นเกม “Friday Night”ที่ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จะทำศึกลอนดอน ดาร์บี้ด้วยการออกไปเยือน “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ในเวลา 02.00 น. ส่วนเกมสุดท้ายของฤดูกาลตามโปรแกรมจะลงเล่นในวันที่ 28 พฤษภาคม 2023

ส่วนตลาดซื้อขายนักเตะอย่างที่ทราบกันว่าเปิดมาตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน และตลาดในช่วงเวลาซัมเมอร์นี้จะปิดฉากลงในวันพฤหัสบดีที่
1 กันยายน เวลา 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นตรงกับเวลาประเทศไทย คือ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน ในเวลา 05.00 น. ลุ้นดีลเสร็จก็เตรียมตัวใส่บาตรกันได้เลย