มหกรรรมกีฬาคนพิการ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองสุราการ์ตา (โซโล) ประเทศอินโดนีเซีย ปิดฉากลงแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ทัพนักกีฬาไทยคว้าอันดับที่ 2 มาครองหลังจากทำเหรียญรางวัลได้ทั้งหมด 116 เหรียญทองทะลุเป้าที่ตั้งเอาไว้ 70 เหรียญทอง
ทัพนักกีฬาอินโดนีเซียคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองไปครอง ทำได้ 171 เหรียญทอง138 เหรียญเงิน 110 เหรียญทองแดง ตามด้วยประเทศไทย 116 เหรียญทอง 111 เหรียญเงิน 90 เหรียญทองแดง, เวียดนาม 63 เหรียญทอง58 เหรียญเงิน 54 เหรียญทองแดง, มาเลเซีย34 เหรียญทอง 19 เหรียญเงิน 14 เหรียญทองแดง,ฟิลิปปินส์ 28 เหรียญทอง 31 เหรียญเงิน43 เหรียญทองแดง, เมียนมา 14 เหรียญทอง12 เหรียญเงิน 16 เหรียญทองแดง, สิงคโปร์7 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 11 เหรียญทองแดง, กัมพูชา 6 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 10 เหรียญทองแดง, ติมอร์เลสเต 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน5 เหรียญทองแดง, บรูไน 1 เหรียญทอง3 เหรียญทองแดง และ ลาว 2 เหรียญเงิน6 เหรียญทองแดง
อินโดนีเซีย ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จหลังจากที่เป็นเจ้าเหรียญทองในอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 9เมื่อปี 2017 ที่มาเลเซีย และนับเป็นแชมป์สมัยที่ 3ในขณะที่ประเทศไทยยังครองตำแหน่งแชมป์สูงสุดด้วยการเป็นเจ้าเหรียญทองอาเซียนพาราเกมส์6 สมัย
พิธีปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ มีขึ้นที่สนามมานาฮาน เนชั่นแนลสเตเดี้ยม โดยพลตรีโอสถ ภาวิไล ที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์กีฬาคนพิการอาเซียนอีก 1 สมัย (วาระปี 2022-2026) ได้กล่าวขอบคุณประเทศอินโดนีเซีย ที่รับเป็นเจ้าภาพแทนประเทศเวียดนาม เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนที่การแข่งขันจะเข้าสู่ระบบเดิมอีกครั้ง โดยอาเซียนพาราเกมส์ จะจัดแข่งขันคู่ขนานกับกีฬาซีเกมส์ และได้ส่งต่อให้ กัมพูชา รับเป็นเจ้าภาพต่อไป ซึ่งหลังจากที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในวันที่ 5-17 พฤษภาคม 2023 แล้ว กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ครั้งที่ 12 ได้กำหนดแข่งขันวันที่ 1-10 มิถุนายน 2023
ทางด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า นักกีฬาไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะไม่ได้ตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง แต่ก็สามารถทำเหรียญทองได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และหลายชนิดกีฬาแสดงให้เห็นว่ามีการพัฒนาที่สูงมากขึ้น ซึ่งอาเซียนพาราเกมส์ถือเป็นบททดสอบขั้นแรก ก่อนที่นักกีฬาจะยกระดับไปสู่เอเชียนพาราเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ และยังมีการแข่งขันระดับนานาชาติของแต่ละชนิดกีฬาอีกด้วย ซึ่ง กกท.พร้อมให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องต่อไป
สำหรับเงินอัดฉีดนั้น กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จะมอบเงินรางวัลให้นักกีฬาตามเกณฑ์ เหรียญทอง 200,000 บาท เหรียญเงิน 100,000 บาท และเหรียญทองแดง 50,000 บาท