เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำ วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2022 มีการดวลแข้งมากถึง 8 คู่ เริ่มจากเกมแรก 18.30 น. ไปจนถึงสตาร์ทเกมคู่สุดท้าย 01.45 น.
ซึ่งปรีวิวเกมที่น่าสนใจมีดังนี้

เวลา 18.30 น. เลสเตอร์ ซิตี้-แมนฯซิตี้ : “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ช่วงหลังฟอร์มดีขึ้นชนะมา 2 เกมติด ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 17 ของตารางเกมนี้ทีมของ แบรนดอน ร็อดเจอร์ส ยังไม่มี วีลฟรีดเอ็นดิดี้, ริคาร์โด้ เปเรยร่า และไรอัน เบอร์ทรานด์ ที่บาดเจ็บ ส่วนกัปตันทีม จอนนี่ อีแวนส์ ก็ไม่ฟิต ต้องใช้ เว้าต์ ฟาส จับคู่แนวรับกับ แดเนี่ยลอมาร์ตี้ย์ นอกนั้นอยู่กันครบ นำโดย เจมส์ แมดดิสัน, ยูรีตีเลมานส์, เคียร์แนน คิวสบิวรี่-ฮอลล์, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และเจมี่ วาร์ดี้

ทีมเยือน “เรือใบสีฟ้า” แชมป์เก่าและเต็ง 1 ที่มีแต้มตามจ่าฝูง 2คะแนน ออกไปเสมอกับ ดอร์ทมุนด์ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ 0-0 ริยาด มาห์เรซ พลาดจุดโทษอีกแล้ว ส่วนในลีกผลงานยังร้อนแรง เกมนี้ไม่มี คาลวิน ฟิลิปป์ส และไคล์ วอล์คเกอร์ สองผู้เล่นทีมชาติอังกฤษที่บาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร บรรดาแกนหลักที่ได้พักอย่าง เอแดร์ซอน, อายเมริค ลาปอร์ก, เควิน เดอ บรอยน์ และแจ็ค กรีลิช จะคืนตัวจริง โดยมี เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ เป็นตัวจบสกอร์เหมือนเดิม

สกอร์ที่คาด : เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 แมนฯซิตี้

เวลา 21.00 น.บอร์นมัธ-สเปอร์ส/“เดอะ เชอรี่ส์”ทีมน้องใหม่ที่ไม่ชนะใครมา 3 เกมติด โดน 2 เกมหลังสุดแพ้รวด พวกเขายังคงให้ แกรี่ โอนีล คุมทัพเหมือนเดิม เกมนี้ไม่มี ลอยด์ เคลลี่, เดวิด บรู๊คส์, เนโต้ และโดมินิค โซลันกี้ ที่เดี้ยงมาจากเกมล่าสุด ทำให้ตัวเลือกมีไม่มากนัก นอกนั้นไม่มีน่าจะมีปัญหาอะไรยึดระบบการเล่น 3-4-2-1 ตามถนัด นำโดย มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, ลูอิส คุ๊ก, เจฟเฟอร์สัน เลอมา, ไรอัน เฟเดริคส์, ฟิลิป บิลลิ่ง, ไรอัน คริสตี้ และ
คีฟเฟอร์ มัวร์

ทีมเยือน “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ฟอร์มแผ่วในลีกแพ้มา 2 เกมรวด ส่วนกลางสัปดาห์ทำได้เพียงไล่ตามตีเสมอ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 1-1 เกมนี้รอทดสอบความฟิตของ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ส่วนริชาร์ลิซอน ยังบาดเจ็บอยู่ คาดว่า อันโตนิโอ คอนเต้ น่าจะกลับมาใช้ระบบ 3-4-3 คามเดิม หลังจากปรับไปเป็น 3-5-2 แล้วไม่ได้ผล อิฟส์ บิสซูม่า จะหลุดไปนั่งสำรอง ทำให้คู่กลางยังเป็น โรดริโก้เบนตานคูร์ เล่นกับ ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ค ส่วนแนวรุก ไบรอัน กิลน่าจะได้ลงตัวจริงประสานกับ แฮร์รี่ เคน และซน ฮึง มิน

สกอร์ที่คาด : บอร์นมัธ 1-2 สเปอร์ส

เวลา 21.00 น. ไบร์ทตัน-เชลซี/“นกนางนวล” ไบร์ทตัน นับตั้งแต่ โรแบร์โต้ เด แชร์บี้ เข้ามาคุมทีมพวกเขายังคงไม่ชนะใคร 5 เกม เสมอ 2 แพ้ 3 ล่าสุดบุกไปโดนแมนฯซิตี้ ถลุงมา 3-1 เกมนี้ไม่มี ยาคุบ โมเดอร์ และคาโอรุ มิโตมะ ที่บาดเจ็บ ส่วน เลวี่ โคลวิลล์ แนวรับดาวรุ่งลงเล่นไม่ได้เพราะเจอต้นสังกัดแม่ตามเงื่อนไขที่ทำกันไว้ คาดว่าพวกเขาจะยึดระบบเดิม 3-4-2-1 นำทัพโดย ทาริค แลมพ์ตี้ย์, อเล็กซิส แม็คอลิสเตอร์, มอยเซส ไซเซโด้, เลอันโดร ทรอสซาร์,โซลลี่ มาร์ช, ปาสกาล กรอส และแดนนี่ เวลเบ๊ค

ฝั่งผู้มาเยือน “สิงห์บลูส์” ฟอร์มยอดเยี่ยมสุดๆนับตั้งแต่ที่ แกรห์ม พ็อตเตอร์ เข้ามาคุมทีม 9 เกม ชนะ 6 เสมอ 3 โดยเขาจะกลับมาถิ่นเดิมอีกครั้งที่เพิ่งลาออกมาคุมเชลซี เมื่อเดือนก่อน เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน เวสลีย์ โฟฟาน่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และรีซ เจมส์ ที่บาดเจ็บ ในรายของ คาลิดู คูลิบาลี่น่าจะผ่านความฟิตลงเล่นได้ มาในระบบเดียวกัน 3-4-2-1มัตเตโอ โควาซิซ คุมแดนกลางร่วมกับ จอร์จินโญ่ แนวรุกใช้ ราฮีมสเตอร์ลิ่ง ประสานงานกับ เมสัน เม้าท์ และไค ฮาแวร์ตซ์

สกอร์ที่คาด : ไบรท์ตัน 0-1 เชลซี

เวลา 01.45 น. ลิเวอร์พูล-ลีดส์/“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ผลงานในลีกน่าผิดหวังบุกพ่าย “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-1 แต่กลางสัปดาห์เรียกความมั่นใจกลับมาด้วยการบุกถล่มอาแจ็กซ์ 3-0 ลิ่วเข้ารอบ 16 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เกมนี้ยังไม่มี หลุยส์ ดิอาซ, อาร์ตูร์ เมโล่, โฌแอล มาติ๊ป และดิโอโก้โชต้า ที่บาดเจ็บ ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เดี้ยงจากเกมล่าสุดต้องรอทดสอบความฟิต แต่ข่าวดีคือการได้ ธีอาโก้ อัลคันทาร่า ที่หายจากอาการหูอักเสบกลับมาคุมทีมแดนกลางร่วมกับ ฟาบินโญ่ สามแนวรุกวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่และฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ คอยทำเกมป้อนบอลให้กับหน้าเป้าอย่าง ดาร์วิน นูเญซ

ทีมเยือน “ยูงทอง” ลีดส์ ช่วงหลังฟอร์มแย่สุดๆ ไม่ชนะใครมา 8 เกม แถมเป็นการแพ้ 4 เกมรวด ทำเอา เจสซี่ มาร์ช กุนซือของทีมออกมาตัดพ้อไม่เคยเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตแบบนี้มาก่อนตั้งแต่ตอนเป็นนักฟุตบอลและโค้ช เกมนี้ไม่มี อดัม ฟอร์ชอว์, สจ๊วร์ต ดัลลาส, ไทเลอร์ อดัมส์ และหลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า ที่บาดเจ็บ ส่วนแพทริค แบมฟอร์ด ต้องรอดูว่าร่างกายสมบูรณ์หรือไม่ นอกนั้นอยู่ครบ นำโดย แซม กรีนวู้ด, มาร์ค โรก้า, แดเนี่ยล เจมส์,แบรนเด้น แอรอนสัน, แจ็ค แฮร์ริสัน และโรดริโก้ โมเรโน่

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 3-2 ลีดส์ ยูไนเต็ด