แรงไม่หยุด : มาร์ติน โอเดการ์ด จอมทัพกัปตันทีมอาร์เซน่อล ซัดประตูเบิกร่องก่อนเหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ “ไอ้ปืนใหญ่” บุกไปเอาชนะ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 รั้งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อไป

หนุนเยาวชน : นายโคสุเกะ มิอิมิ ประธาน วายเคเค โฮลดิง เอเชีย จำกัด แถลงข่าวกิจกรรม คลินิกฟุตบอลเยาวชน “วายเคเค เอเคเอฟซี” ครั้งที่ 3 ณ สนามซุปเปอร์สตาร์ อารีน่า ลาดพร้าว
กรุงเทพมหานคร

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล ออกมายกย่องลูกทีมหลังระเบิดฟอร์มเก่งต่อเนื่องบุกไปเอาชนะ วูลฟ์แฮมป์ตัน 2-0 ที่สนาม โมลินิวซ์ สเตเดี้ยมจากประตูของ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่เหมาคนเดียว 2 ประตูนาที 54 และ75 พร้อมทำให้ “ไอ้ปืนใหญ่” ทำแต้มทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าออกไปเป็น 5 คะแนนแล้ว ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้

โดยผลงานดังกล่าวทำให้ “ไอ้ปืนใหญ่” เก็บเพิ่มเป็น 37 คะแนน จากการลงสนาม 14 นัดรั้งตำแหน่งจ่าฝูงโดยนำหน้า ทัพ “เรือใบสีฟ้า” ที่พลิกล็อกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด คารัง เอติฮัด สเตเดี้ยม1-2 ออกไปเป็น 5 คะแนนแล้วในจำนวนนัดเท่ากันนอกจากนั้นยังทำให้ อาร์เซน่อล มีสถิตินำจ่าฝูงด้วยคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 2013 และนำจ่าฝูงไปถึงช่วงวันคริสต์มาสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2007-2008 เลยทีเดียว

ภายหลังเกม อาร์เตต้า เผยถึงสถานการณ์ของทีมเวลานี้ว่าน่าเหลือเชื่อสุดๆ กับผลงานที่เกิดขึ้นจนทำให้พวกเขาจะเป็นจ่าฝูงยาวไปถึงช่วงบ็อกซิ่งเดย์แน่นอนแล้ว

“ไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะมาอยู่ในจุดที่เราอยู่ตอนนี้ ผมโฟกัสไปที่วิธีการเล่นของเรา วิธีใช้ชีวิตร่วมกัน สิ่งที่เราสร้างร่วมกับกองเชียร์ของเราในสนามของเรา และนั่นทรงพลังมาก เป้าหมายของเราคือเล่นเป็นทีมได้ดีขึ้นทุกวัน มีเครื่องมือที่ดีกว่าในการทำสิ่งที่เราอยากทำในสนาม”

“มันยอดเยี่ยมที่ได้อยู่ในจุดที่เราอยู่ เราสนุกกับช่วงเวลานั้น เรามีช่วงพักใหญ่ เราต้องไตร่ตรองถึงสิ่งที่เรากำลังทำ และเราพร้อมอย่างมากสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังฟุตบอลโลก เมื่อทีมอยู่ในช่วงเวลาที่คุณต้องการเล่นต่อไป แต่มันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เราต้องใช้เวลาในตอนนี้ให้ดีที่สุด” กุนซือชาวสเปน กล่าว

ขณะเดียวกัน โธมัส แฟรงค์ กุนซือ เบรนท์ฟอร์ดเผยวิธีหยุด เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ดาวยิงฟอร์มร้อนของ แมนฯซิตี้ ที่ซัดในลีกไปแล้ว 18 ประตูหลังทัพ “ผึ้งน้อย” ระเบิดฟอร์มต่อยหนักบุกไปทุบซิตี้ คารัง เอติฮัด 1-2

“ผมหวังจริงๆ ว่าลูกทีมของผมจะได้เล่นกับ ฮาแลนด์ นะเพราะมันจะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่จริงๆถ้าสามารถเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ที่มีเขาอยู่ในสนามได้เรารู้ถึงความเก่งกาจของเขาในกรอบเขตโทษได้เป็นอย่างดี แต่เราก็มีแท็กติกที่ประสบความสำเร็จด้วยการพยายามปิดการทำเกมของ เควิน เดอ บรอยน์ทุกวิถีทาง เราต้องทำให้เขามีบอลในพื้นที่อันตรายน้อยที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราไม่ได้เห็น ฮาแลนด์ ทำประตูได้ในเกมนี้ บางทีนี่อาจเป็นผลการแข่งขันที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร มันยิ่งใหญ่มากสำหรับแฟนบอล และผมมีความสุขมากที่เราได้สร้างช่วงเวลามหัศจรรย์ที่เหลือเชื่ออีกครั้ง” แฟรงค์ กล่าว

ทั้งนี้ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก จะพักเบรกยาวต่อจากนี้ เพื่อเปิดทางให้ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะเปิดฉากฟาดแข้งในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ก่อนที่ลีกผู้ดีจะกลับมาลงสนามอีกครั้งในช่วงบ็อกซิ่งเดย์ วันที่ 26 ธ.ค. ต่อไป