ไร้พ่ายเข้าชิง : ขุนพลแข้ง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สะใจสุดขีดหลังตีเสมอ โรม่า 2-2 ในช่วงทดเจ็บ (สกอร์รวมสองนัดชนะ 4-2) ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก ไปดวล อตาลันต้า ได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังเป็นการไร้พ่ายของทัพ “ห้างขายยา” เกมที่ 49 ติดต่อกันไปแล้ว

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำค่ำคืนวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2024 ลงฟาดแข้งกันถึง 8 คู่ โดยเกมล่าแชมป์จะเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 18.30 น. “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าที่กำลังลุ้นเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ลีก 4 ปีซ้อน จะยกพลบุกไปเยือน คราเว่น คอตเทจ ของ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯซิตี้ เหนือกว่าเยอะ ชนะได้หมด ถลุงตาข่ายฟูแล่มไป16 ประตู

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสดีที่พวกเขาจะทำแต้มแซง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ขึ้นจ่าฝูง ในเวลานี้ ซิตี้ เตะ 35 นัด มี 82 แต้ม ขณะที่
อาร์เซน่อล 36 นัด นำฝูงด้วยการมี 83 แต้ม

โดย ซิตี้กำลังเล่นได้อย่างแข็งแกร่งชนะมา 4 เกมรวด แถมตามรายงานก็ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน มาในระบบ 4-2-3-1ส่ง มาเตโอ โควาซิซ ลงไปคุมแดนกลางร่วมกับโรดรี้ แนวรุกวาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ประสานงานกับ เควิน เดอ บรอยน์ และฟิล โฟเด้น โดยมีเออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ ที่เพิ่งกดคนเดียว 4 ประตูในเกมที่แล้วยืนเป็นหน้าเป้า

เจ้าถิ่น ฟูแล่ม รั้งอันดับ 13 ของตารางรอดการตกชั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังมี 44 คะแนน จากการลงเล่น 36 เกม เป้าหมายคือการจบอันดับที่ดีที่สุด ทีมของ มาร์โก ซิลวา ชนะได้แค่เกมเดียวจากการลงเล่น 5 นัดหลังสุด เกมนี้รอทดสอบความฟิต แฮร์ริสัน รี๊ด เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่เหลือถือว่าพร้อมลงเล่นได้หมด ยึดระบบ 4-2-3-1

สกอร์ที่คาด : ฟูแล่ม 1-3 แมนฯซิตี้

อีกคู่ที่น่าสนใจลงเล่นในเวลา 21.00 น. “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “เดอะ คลาเร็ตต์” เบิร์นลีย์ โดยเจ้าถิ่นโอกาสลุ้นท็อปโฟร์ยากสุด ๆ เพราะตามหลัง แอสตัน วิลล่า 7 คะแนน แม้ว่าจะเหลือโปรแกรมลงเล่นอีก 3 เกมแต่ต้องชนะรวด ทีมของ อังเก้
ปอสเตโคกลู กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตหลังแพ้มา 4 นัดรวด เกมนี้ยังเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มี เดสตินี่อูโดจี้, ติโม แวร์เนอร์ และเบน เดวีส์ นอกนั้นอยู่กันครบ มีความเป็นไปได้ว่า ริชาร์ลิซอน ที่นั่งสำรองมาหลายเกมจะได้รับโอกาสสตาร์ทตัวจริง ประสานงานในเกมรุกร่วมกับ แบรนแนน จอห์นสัน, เจมส์ แมดดิสัน และ ซน ฮึง-มิน

ฝั่งทีมเยือนโอกาสรอดตกชั้นยากจริงๆ ต้องชนะ 2 เกมที่เหลือ แถมยังต้องไปลุ้นผลการแข่งขันของ ลูตัน ทาวน์ และน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เกมนี้ยังไม่มี แอรอน แรมซีย์, นาธาน เรดมอนด์, อามีน อัล-ดัคฮิล และจอร์แดน เบเยอร์ ที่บาดเจ็บ ส่วน มัคซิม เอสเตฟ รอเช็คความฟิต สำหรับสถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ สเปอร์ส เหนือกว่าชนะได้ 4 ส่วน เบิร์นลีย์ ชนะ 1

สกอร์ที่คาด : สเปอร์ส 3-1 เบิร์นลีย์