สำนักงานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) ปี 2022 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 พ.ย. - 18 ธ.ค.65 ณ ประเทศกาตาร์
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การลงนามร่วมกันในครั้งนี้เป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.ที่มีเสียงข้างมาก 4 ต่อ 2 ให้สนับสนุน งบประมาณจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) จำนวน 600 ล้านบาท (รวมภาษีและอากรอื่นใด) เพื่อใช้ในการสนับสนุนซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) 2022 ที่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีได้ทุกแพลตฟอร์มอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนหันมาชื่นชอบกีฬามากขึ้น
ด้าน นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า การลงนามดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการเบิกจ่ายเงินสนับสนุนจาก กสทช.รวมถึงการดำเนินการผ่านร่างสัญญา ขณะนี้เบื้องต้นส่งให้คณะกรรมการอัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว และ กกท.อยู่ระหว่างการหารือเจรจากับทางตัวแทนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) หลังจากที่ได้ส่งหนังสือแจ้งไปขอให้พิจารณาทบทวนลดราคาลงอีกครั้ง ซึ่งการดำเนินการหางบประมาณสนับสนุนดังกล่าวจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส และไม่ทำให้เกิดข้อครหาว่าประเทศไทยจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ฟีฟ่าสูงเกินไป จึงต้องมีการเทียบเคียงราคากับประเทศเพื่อนบ้านว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ เพื่อไม่ให้การนำเงินภาษีของประชาชนมาใช้ไม่เกิดประโยชน์และถูกเอาเปรียบ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ทั้งนี้ กกท.ได้พยายามเต็มที่ในการหาข้อยุติให้ได้เร็วที่สุด ทั้งเรื่องการขอให้ฟีฟ่าพิจารณาลดราคาให้เหมาะสม พร้อมเงื่อนไขในการแบ่งแยกแพ็กเกจ ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากฟีฟ่าว่าจะยินยอมตกลงราคาที่เหมาะสมกับไทยอย่างไร โดยคาดว่าจะมีคำตอบจากตัวแทนของฟีฟ่าในเร็วๆ นี้ รวมถึงจะเร่งดำเนินการหาสปอนเซอร์ให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้มีเอกชนหลายรายสนใจและยืนยันที่จะเข้ามาร่วมสนับสนุน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ขณะเดียวกันมองว่า ยอดจ่ายลิขสิทธิ์อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท เป็นราคาที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับลิขสิทธิ์ของประเทศอื่น
อย่างไรก็ตาม กระบวนการเจรจาทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จก่อนวันที่ 20 พ.ย.นี้ โดยเชื่อว่าทางฟีฟ่าจะเสนอทางออกที่ดีที่สุดกับไทย แต่หากทางฟีฟ่าไม่ยอมลดค่าซื้อลิขสิทธิ์ ก็ต้องยอมรับและชี้แจงให้กับประชาชนได้รับทราบว่าภาครัฐได้พยายามเจรจาให้ดีที่สุดแล้ว
นอกจากนี้ ในส่วนของกรณีการนำเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมาช่วยสนับสนุนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกฎหมายทั้งหมด ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะนำเงินกองทุนดังกล่าวมาใช้ได้แต่ต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากการจัดสรรเงินกองทุนในแต่ละปีจะมีแผนในการอนุมัติอย่างชัดเจน เนื่องจากจะต้องถูกจัดสรรไปให้สมาคมกีฬาต่างๆอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้กำชับ กกท.เร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่
- 006