จากการที่การแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 22 นัดเปิดสนาม ซึ่งทีมชาติกาตาร์ พลาดท่าพ่ายคาบ้านให้กับ ทีมชาติเอกวาดอร์ 0-2 กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก กับการที่ เอ็นแนร์ วาเลนเซีย พังประตูแรกตั้งแต่ 3 นาทีของเกม แต่ถูกริบไปเนื่องจากล้ำหน้า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ผ่านโลกออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการชี้ว่าเป็นเพราะกลโกงของเจ้าภาพ

ซึ่งการเช็คล้ำหน้าในการแข่งขันบอลโลกปีนี้ ได้มีอุปกรณ์ชิ้นสำคัญนั่นคือ “เทคโนโลยีการจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ” หรือ SAOT (Semi-automated offside technology ) เพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติมแก่ผู้ตัดสินและผู้ช่วยผู้ตัดสิน(ผู้กำกับเส้น) ให้ตัดสินออกมาอย่างชัดเจนและขาวสะอาดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เทคโนโลยี SAOT นี้ ได้มีใช้กล้องติดตามเฉพาะ 12 ตัว ติดตั้งที่ใต้หลังคาสนามกีฬา โดยสามารถติดตามลูกบอลและหาจุดข้อมูลมากถึง 29 จุด ซึ่งลูกบอล “อัล ริห์ลา” ที่ใช้ในศึกนี้ จะทำงานร่วมกัน โดย อัล ริห์ลา มีเซ็นเซอร์อยู่ตรงกลางของลูกบอล พร้อมส่งข้อมูลไปยังห้องพิจารณา ด้วยความเร็วที่ 500 ครั้งต่อวินาที

ทำให้สามารถตรวจจับตำแหน่งการเตะลูกฟุตบอลก่อนล้ำหน้า ได้อย่างแม่นยำ กระบวนการนี้ยังมีความเร็ว ช่วยการตัดสินใจในระยะเวลา 2-3 วินาที ซึ่งระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (Artificial Intelligence: AI) ที่เลือกช็อตและระบบจะทำการสร้างเส้นการล้ำหน้า

เทคโนโลยีการจับล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัตินั้น เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทำการทดลองใช้ในศึก อาหรับ คัพ เมื่อช่วงปลายปีก่อน และรายการชิงแชมป์สโมสรโลก หรือ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา