บราซิล ไม่เคยเป็นเต็ง 1 มานานมากนับตั้งแต่หมดยุคของ โรนัลโด้ เดอ ลิม่า เมื่อปี 2006
ขุนแข้งแห่งแดนเซเลเซา เดินหน้ามาในบอลโลกครั้งนี้ด้วยการถูกหมายว่า เป็นเต็ง 1 หลังจากมีตัวเลือกมากมายจนล้นในเกมรุก
ไม่แตกต่างอะไรจากช่วงที่พวกเขาเป็นแชมป์ครั้งล่าสุด เมื่อปี 2002 หรือ 20 ปีที่แล้ว ที่แกนแดนบนแต่ละคนอย่างโหด
ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่, โรนัลโด้ หรือจะเป็นโคตรแบ๊กจอมบุกทั้ง โรแบร์โต้ คาร์ลอส และคาฟู
สังเกตได้ว่าช่วงเวลาของบราซิล ในช่วงบอลโลกนั้นมักจะมีตัวรุกชั้นยอดมาให้เราได้เห็นตลอด ไม่ใช่คนเดียว แต่มีมากมายหลายคน ยกเว้นหนเดียวคือ ปีที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพครั้งที่ 2 เมื่อปี 2014
ปีนั้นตัวรุกบราซิล ถือว่า “อับแสง” ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเป็นช่วงเวลาตกท้องช้างพอดีที่เราไม่ได้เห็นตัวดีๆเท่าไหร่นัก ยิ่ง เนย์มาร์ บาดเจ็บจากรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังจากเจอเข่าสั้นหลังสวนเข้าไปถึงกับกระดูกหลังเคลื่อนจนเกือบพิการ
ทำเอาแนวรุก บราซิล ที่เหลือในตอนนั้นก็พิการไปเลย เพราะต้องมาพึ่งตัวรุกอย่าง ออสการ์ แต่ตัวบุกตัวบนไม่ได้เรื่องทั้ง เฟร็ด(คนละคนกับกองกลางตอนนี้), โช,แบร์นาร์ด และฮัล์ค ซึ่งมีดีแค่โชว์กล้ามกับเรื่องเสียวใต้สะดือผ่านโซเชียลเท่านั้น
มีเสียงลือมาว่า การเลือกตัวผู้เล่นครั้งนั้น “มีนอกมีใน” จนทำให้ทีมพับฐาน มันเป็นข่าวที่ฉาวมาก และผมเองก็ได้รับได้ยินกับหูตัวเอง เมื่อได้เจอกับนักข่าวบราซิล ช่วงไปทำข่าวโอลิมปิก ในอีกสองปีต่อจากนั้นที่ริโอ เดอ จาเนโร
นาทีนี้ บราซิล ประเดิมเกมแรกด้วยชัยชนะเหนือเซอร์เบีย ไปได้ 2-0 แต่ต้องสังเวยดาวเตะตัวแกนนำสำคัญอย่าง เนย์มาร์ จูเนียร์ ที่เล่นในสไตล์ “เอาตัวเข้าแลก”จนต้องพักยาวไปอย่างน้อยอีก 2 เกมนับจากนี้
เท่ากับว่า บราซิล นั้นจะไม่มีแม่ทัพในแนวรุกของเกมในรอบแรกทั้งกับ สวิตเซอร์แลนด์ และแคเมอรูน
ประเด็นนี้น่าสนใจมากว่า บราซิล จะยังคงรักษาสไตล์การเล่นได้ดี และสมราคากับการเป็นทีมที่ถูกยกให้เป็นเต็งเหนือคนอื่นขนาดไหน
เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับแข้งแซมบ้าในยุคครองโลกแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ช่วงเวลาที่ทีมมี “ไข่มุกดำ” เปเล่ นำทีม
ในนามแห่งทีมชาติ เปเล่ ทำสถิติลงเล่น 92 นัดซัดไป 77 ประตู เป็นนักกีฬาคนเดียวที่ครองแชมป์ฟุตบอลโลกมากที่สุด 3 สมัย ในปี 1958, 1962 และ 1970
เปเล่ แจ้งเกิดจากชัยชนะบนแผ่นดินสวีเดน กับแชมป์โลกสมัยแรก บนวัยเพียง 17 ปี 249 วัน ด้วยอายุน้อยที่สุดในโลก ภาพที่เขาร่ำไห้ปรากฏออกไปทั่วโลกจนโฟกัสว่า เด็กคนนี้เป็นใคร
ทำไมถึงยิงประตูได้ยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมด้วยทักษะ และเยือกเย็นอย่างยิ่ง พร้อมกับระเบิดประตูได้ถึง 6 ลูก โดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศ ยิงได้ 2 ลูก ทำสถิติอายุน้อยสุดที่ยิงในเวิลด์คัพ
การกระดกบอลข้ามหัวกองหลัง แล้วซัดผ่านนายประตูสวีเดน เข้าไปเสียบตาข่าย คือที่สุดของภาพแห่งความทรงจำ และจะมีภาพนี้อยู่เสมอในเทศกาลฟุตบอลโลก
ในช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่ เปเล่ ก้าวมาติดทีมชาติจนกลายเป็นตำนานของโลก นอกจากฝีเท้าของดีแล้ว เขายังโชคดีที่รายล้อมไปด้วยสุดยอดขุนพลที่เคียงข้างมากมาย ทำให้ บราซิล จากเดิมที่เป็นทีมธรรมดา กลายเป็นราชันลูกหนังโลก กับยุค 3 แชมป์โลก
ปี 1958 เล่นเคียงข้างกับ ดีดี้, การ์รินช่า, มาริโอ ซากาโล่ และวาว่า
ปี 1962 ทีมมี ดีดี้, การ์รินช่า, ซากาโล่ และวาว่า เคียงข้าง แถมยังมี ซิโต้ กับ อมาริลโด้
ปี 1970 ประสานพลังกับ ทอสเทา, ริเวลิโน่,แจร์ซินโญ่, เกอร์สัน และคาร์ลอส อัลแบร์โต้
เมื่อลงลึกในรายละเอียดแล้ว ปี 1962 เปเล่ ได้รับบาดเจ็บ และไม่ได้มีโอกาสลงสนามอีกเลยนับตั้งแต่นัดที่ 2 แต่ทีมก็เดินไปเป็นแชมป์โลก สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ
ในทีมมีเกมรุกมากถึง 7 คน ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรจากครั้งนี้
เมื่อไร้เงาของ เนย์มาร์ หากว่า บราซิล จะก้าวมาประสบความสำเร็จ ตัวที่เหลือนับจากนี้ต้องไปให้ได้ และเดินไปให้ถึงอย่างที่ชุดตำนานเคยทำมาแล้ว
ตีตี้ มีโอกาสในการเลือก ว่าใครจะยืนหน้าต่ำในแบบเดิมคือ 4-2-3-1 หรือจะพลิกเล่น 4-3-3
คิดในทางที่ดี บางทีอาจจะเป็นไปได้ที่เพื่อนอาจจะออกบอลได้ง่ายขึ้น
หากไม่มี เนย์มาร์ วิ่งมาเป็น “เป้าบังคับแรก”
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี