ผีชิง : เวาท์ เว็กฮอร์สต์ กองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามหาโอกาสทำประตู ก่อนที่ทัพ ปีศาจแดง จะเปิดรัง โอลด์แทรฟฟอร์ดเอาชนะ เจ้าป่า น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-0 (สกอร์รวม5-0) ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ไปดวลกับ นิวคาสเซิ่ล ในวันที่
26 กุมภาพันธ์นี้
“จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ออกแถลงการณ์ ว่า “ต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสร ได้ปลดหนี้ของทีมที่มีมูลค่าสูงถึง 194 ล้านปอนด์(ราว7,900 ล้านบาท) ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ในการบริหารงานและสามารถทำได้สำเร็จ
วงเงินนี้ เป็นวงเงินที่กู้ยืมมาจากบริษัทแม่อย่าง คิง เพาเวอร์อินเตอร์เนชันแนล (KPI) ซึ่ง นายอัยยวัฒน์ ได้เคลียร์หนี้ค้างชำระของสโมสร ด้วยการโอนหนี้เป็นทุนไปยัง KPI เสร็จสมบูรณ์ เพื่อปลดหนี้คงค้างของสโมสร
“ความมุ่งมั่นของ KPI ในการสนับสนุนความยั่งยืนในระยะยาวของสโมสร ซึ่ง KPI ได้ให้เงินกู้เหล่านี้แก่สโมสรในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเพื่อเป็นทุนในการก่อสร้างสนามฝึกซ้อมแห่งใหม่ระดับโลกของสโมสรที่ซีเกรฟส์, เพื่อสนับสนุนการลงทุนของสโมสรต่อไปในทีม, ทีมฟุตบอลหญิง ในช่วงที่เกิดโรคระบาด” สโมสรกล่าวในแถลงการณ์
“การแปลงเป็นทุนช่วยให้งบดุลของสโมสรแข็งแกร่งขึ้น ลดต้นทุนดอกเบี้ย และแสดงหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ KPI ในการสนับสนุนความยั่งยืนในระยะยาวของสโมสร”
นับเป็นครั้งที่ 2 ที่การโอนหนี้เป็นทุนเสร็จสมบูรณ์ภายใต้ความเป็นเจ้าของของครอบครัวศรีวัฒนประภา ก่อนหน้านี้มีการปลดหนี้มูลค่า 103 ล้านปอนด์ในปี 2013 และทำให้มั่นใจได้ว่าการลงทุนของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดในสโมสรจะไม่ถูกยกยอดไปเป็นหนี้
นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า การรักษาเสถียรภาพในระยะยาวมีความสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นหลักการพื้นฐานที่เป็นแนวทางการลงทุนของเราในอนาคตของสโมสรมาโดยตลอด เราต้องการให้แน่ใจว่าเราดำเนินต่อไปในเส้นทางนั้นจากรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งและปลอดภัยที่สุด
“ผมเชื่ออย่างสุดหัวใจในเลสเตอร์ ซิตี้ และสิ่งที่สโมสรสามารถบรรลุได้สำหรับแฟนบอล คนของเรา และชุมชนของเรา ทั้งในเมืองเลสเตอร์ ในประเทศไทย และทั่วโลก”
“ความศรัทธาที่พวกเขามีต่อเราในการบริหารสโมสรด้วยความรับผิดชอบด้วยความทะเยอทะยานและความซื่อสัตย์เป็นแนวทางในการตัดสินใจของเรา ยังคงมีความสำคัญต่อเราในการสร้างในยุคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสร”
ตระกูลศรีวัฒนประภา เข้าเทคโอเวอร์สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2010 และขึ้นจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ สู่ พรีเมียร์ลีกก่อนจะประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรก เมื่อปี 2016 และชัยชนะสมัยแรกศึกเอฟเอ คัพ ปี 2021
ทางด้านฟุตบอลลีกคัพ ได้คู่ชิงชนะเลิศแล้ว “สาลิกาดง”นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มหาเศรษฐีทีมใหม่แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เข้าชิงชนะเลิศรายการสำคัญในประเทศครั้งแรกในรอบ 24 ปีรวมถึงกำลังลุ้นถ้วยรางวัลใหญ่ในประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1955 โดยนิวคาสเซิ่ล เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศรายการใหญ่ที่เวมบลีย์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เอฟเอ คัพ ในปี 1999 พร้อมกับเป็นความท้าทายในการคว้าแชมป์แรกให้กับตัวเองโดยแชมป์สุดท้ายที่พวกเขาได้นั้นต้องย้อนกลับไปในการคว้าแชมป์อินเตอร์-ซิตี้ แฟร์ส คัพในปี 1969
คู่ต่อกรคือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หลังจากเอาชนะน็อตติงแฮมฟอเรสต์มาได้แบบสบายเท้าด้วยสกอร์รวม 5-0 ซึ่ง แมนฯยู ที่ไม่ได้แชมป์อะไรมาเลยตลอด 6 ปีที่ผ่านมา หลังจากชัยชนะเหนือ อาแจ๊กซ์ 2-0 ในบอลยูโรป้า ลีก 24 พฤษภาคม 2017 ลุ้นประสบความสำเร็จทันทีในยุคที่ เอริค เทน ฮาก กุนซือเข้ามาคุมทัพปีแรก เช่นเดียวกับ เอ๊ดดี้ ฮาว ได้ลุ้นแชมป์สมัยแรก ในการทำงานกับนิวคาสเซิ่ล เต็มๆ ปีแรกเช่นกัน
ทั้งสองทีมปรับปรุงทีมขึ้นมาสู้ ลุยทั้งระบบ และสำคัญคือการ “เข้าสู่ตลาด” โดย นิวคาสเซิ่ล จ่ายไปกว่า 100 ล้านปอนด์ ส่วน แมนฯยู ขนาดว่าเจ้าของเหนียว ยังเหนี่ยวไปกว่า 200ล้านปอนด์ ซึ่งนัดชิงชนะเลิศจะมีขึ้น 26 กุมภาพันธ์ 2023
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี