ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมสำคัญที่อาจจะมีผลต่อทิศทางการไล่ล่าแชมป์ในฤดูกาลนี้ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จ่าฝูงที่ผิดหวังจาก VAR จะเปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมรับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในคืนวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 03.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย
เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้าไม่ชนะใครมา 3 เกมติด โดยเฉพาะในลีกที่สะดุด 2 นัด ติดหนแรกของซีซั่น เกมนี้ยังสามารถจัดทัพใหญ่ลงได้เต็มอัตราศึก จะขาดไปเพียง กาเบรียล เฮซุส กองหน้าบราซิล เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังเจ็บ ส่วนที่ไม่พร้อมอย่าง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, รีสส์ เนลสันและเอมิล สมิธ โรว์ ที่บาดเจ็บก็คือตัวสำรอง นอกนั้นขุมกำลังหลักรายอื่นๆ ถือว่าอยู่กันครบ ยึดระบบการเล่น 4-3-3เหมือนเดิม นำโดยกัปตันทีม มาร์ติน โอเดการ์ด เล่นเกมตรงกลางร่วมกับ โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาก้า ส่วนแนวรุก บูกาโย่ ซาก้า, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และกาเบรี่ยล มาร์ติเนลลี่
ฝั่งผู้มาเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ว่าจะเจอข่าวเรื่องการเงินโจมตี แต่สามารถคืนฟอร์มได้ด้วยการถล่ม “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า มา 3-1 ทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า จะไม่มี จอห์น สโตนส์ แนวรับตัวทีมชาติอังกฤษ ที่ยังบาดเจ็บ นอกนั้นไม่น่ากังวลอะไร เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ที่ถูกเปลี่ยนตัวในช่วงพักครึ่งเกมนี้แล้ว อาจจะรอเช็คความฟิต แต่เชื่อว่าต้องเข็นลงแน่ วาง โรดรี้ คุมแดนกลางร่วมกับ อิลคาย กุนโดกันสามแนวรุกใช้ ริยาด มาห์เรซ ประสานงานกับ เควิน เดอ บรอยน์ และแจ็ค กรีลิช โดยมี ฮาลันด์ ยืนหน้าเป้าเป็นตัวจบสกอร์
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯซิตี้ เก็บเรียบเอาชนะได้ทั้ง 5 ครั้ง เพิ่งดวลกันมาในเอฟเอ คัพ เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา “เรือใบ” เปิดบ้านเฉือน 1-0
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม : อาร์เซน่อล (4-3-3): แอรอน แรมส์เดล, เบน ไวท์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรี่ยล มากัลเญส, โอเล็คซานเดอร์ ชินเชนโก้, มาร์ติน โอเดการ์ด,โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาก้า, บูกาโย่ ซาก้า, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์และกาเบรี่ยล มาร์ติเนลลี่
แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์ก, เนธาน อาเก้, โรดรี้, อิลคายกุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช และ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์
บทวิพากษ์เกม
อาร์เซน่อล ในสายตาของผู้ที่เคยมองว่าพวกเขาตกอยู่ภายใต้ความกดดันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และต้องพิสูจน์ตัวเองทุกสัปดาห์ จนมาถึงซีซั่นนี้ ผลงานสามารถทำให้ฝันถึงแชมป์แรกตั้งแต่ “The Invincibles” ในปี 2003-04
ประสิทธิภาพที่น่าสนใจของอาร์เซน่อล นั่นคือการจะจ่ายบอลในเกมรุกได้อย่างรวดเร็วแม่นยำและไปได้ทุกทิศทางอย่างรวดเร็วเหมือนตีปิงปองนักบอลแต่ละคนขยับเพื่อหาพื้นที่ว่างอยู่ตลอดเวลาและมากกว่าหนึ่งคนอยู่เสมอ
เราได้เห็น อาร์เตต้า กับ อาร์เซน่อล แผนลงตัว นักบอลมั่นใจ และเข้าถึงปรัชญาของโค้ช
แต่ตอนนี้เหมือนกับว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญ และเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของทีม หลังจาก อาร์เซน่อลใช้วิธีการเล่นที่แน่นอน ความเข้าใจ ซึ่งเกิดจากความมั่นใจ กลับไม่ชนะใครในลีก 2 เกมหลังสุด ด้วยการแพ้ เอฟเวอร์ตัน และเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด แบบหัวเสียกับการตัดสินของกรรมการ
นี่เป็นช่วงที่น่ากวนใจมาก บวกกับสถิติในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ในอดีต“กันเนอร์ส” มักจะหลุดโค้งในช่วงนี้ และกลายเป็นว่าต้องมาตัดสินโดยตรงกับ แมนฯซิตี้
จากที่พวกเขาเคยนำถึง 8 คะแนน ตอนนี้เหลือ 3 แต้ม ถ้าพลาดถึงแพ้ในบ้าน จะเสียตำแหน่งจ่าฝูงทันทีด้วยประตูได้เสีย เพียงแต่แมทช์การเล่นยังอยู่ในมือ 1 เกม
แต่สถานการณ์กดดันแบบนี้ไม่มีใครชอบแน่นอน
อาร์เซน่อล ที่เล่นได้ดีมาโดยตลอด กลับหนีไปไหนไม่ออก แม้เราจะเห็นว่า ซิตี้ เองเป็นทีมที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ก็ด้วยการทดสอบแท็กติกใหม่ๆ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่จนแล้วจนรอด ซิตี้ ก็ยังเป็นทีมที่พร้อมไปในทุกขุมกำลัง แล้วก็เป็นทีมที่แปลกมาก ที่เคยชนะได้รัวๆ เป็น 10 เกมหากพวกเขาไม่ได้พลิกแพลงตัวเองจนเกินไป
ข้อสำคัญก็คือ การปรับระบบการเล่น การเปลี่ยนตัวผู้เล่นการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของเกมนั้น อาร์เซน่อล แทบจะไม่เคยทำ หากไม่จำเป็น เล่นด้วยสไตล์ที่มั่นใจมากในครึ่งซีซั่นแรก
ผิดกับ ซิตี้ ที่ทำแทบจะทุกเกม โดยเฉพาะการเล่นตั้งเกมด้วยกองหลังโล้แบบ 3 คน และหุบแบ๊กขวาเข้ามาด้านใน(Inverted full-back) ทำให้เกิดจุดที่ ชูเอา กานเซโล่ ต้องระเห็จจากทีม เนื่องจาก ริโก้ ลูวิส คือตัวเลือกแรก แถมการเข้ามาแนบในแบบนี้ กานเซโล่ ไม่ถนัด และ เป๊ป ต้องการเกมด้านข้างจากปีก ไม่ใช่จากแบ๊ก ซึ่งมันก็เวิร์กเป็นบางนัด
แต่บางนัดมันเกิดปัญหา เพราะปีกที่ลงสนาม ซึ่ง เป๊ป ชอบ แจ๊ค กรีลิช กับ ริยาด มาห์เรซ อยู่ด้านกว้างมากเกินไปเช่นเดียวกับ อิลคาย กุนโดกัน อยู่ในแนวลึกมากเกินไป แถมแผนนี้ฟิล โฟเด้น ก็ไม่ถนัด รวมถึงดาวรุ่งอีกคนอย่าง โคล พาล์มเมอร์ก็แทบจะหายไปเลย
แผนนี้มันดีตรงที่ตัวผู้เล่นในเกมรุกจะเยอะมากตรงด้านในแต่กว่าจะเข้าถึงพื้นที่ใช้เวลา ซึ่ง เป๊ป เองเหมือนรู้ดีว่า มันกำลังจะตัน ก็จะเปลี่ยนไม่เล่นแบบนี้ในบางแมทช์ และทำให้ความเข้าใจกันในทีมเสียไป ซึ่งมันเป็นเรื่องไม่ปกติกับทีมอย่าง ซิตี้ ที่ไม่เข้าถึงกรอบเขตโทษ หรือบางนัดกว่าจะได้ยิงต้องรอถึงครึ่งหลัง
เพียงแต่ศักยภาพ และคุณภาพเชิงลึกของทีมยังน่าเกรงขามอยู่เสมอ ซึ่งบอลลีก 10 เกมหลังพวกเขาชนะถึง 6 และมองกันว่าถ้าไม่ดื้อ คงจะไม่แพ้ถึง 3 เกม
เกมนี้ก็เช่นกัน ถ้า เป๊ป ไม่ดื้อ ปรับมันไปเรื่อย และให้นักบอลอยู่ในธรรมชาติมากที่สุด อย่างน้อยพวกเขาจะมีแต้มกลับบ้าน เพราะเรื่องบล็อกในกับทีมที่ใช้เกมตรงกลางขึ้นบล็อกบนอย่าง อาร์เซน่อล ซึ่งของแบบนี้ทุกคนรู้ว่า เป๊ป ถนัดอยู่แล้ว เนื่องจากสไตล์หลักของ อาร์เตต้า คือสไตล์ที่ เป๊ป เดินหน้ามาก่อน
นี่คืออีกหนึ่งเกมไฮไลท์แห่งฤดูกาล ที่เราเห็นว่า อาร์เซน่อลมี 11 ผู้เล่นตัวจริงที่แน่นอน แข็งแกร่ง จะได้ดวลกับ แมนฯซิตี้ ที่แข็งแกร่งแน่นอน แต่เราไม่เคยเห็นว่า ตกลงแล้ว 11 ตัวจริงของพวกเขาคือ ใครกันแน่
แม้แต่ เป๊ป เองก็คงตอบลำบากเหมือนกัน............
สกอร์ที่คาด : อาร์เซน่อล 1-1 แมนฯซิตี้
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี