การแข่งขันศึกฟุตบอล เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพ ได้กำหนดวันแข่งขันออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะฟาดแข้งกันในช่วงต้นปีหน้าวันที่ 12 ม.ค.-10 ก.พ. 2024

โดยก่อนหน้านี้ประเทศจีน รับหน้าที่เสื่อเป็นการเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 16 มิ.ย.-16 ก.ค. 2023 อย่างไรก็ตาม พวกเขาตัดสินใจถอนตัว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือ เอเอฟซี ต้องหาชาติเจ้าภาพใหม่และเป็น กาตาร์ ที่ได้รับหน้าที่ครั้งนี้ไป

อย่างไรก็ตาม กาตาร์ ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งได้รับหน้าที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย เมื่อปลายปีที่แล้วได้ขอเลื่อนการแข่งขันออกไปจากช่วงเดือนมิถุนายน ไปเป็นต้นปี 2024 เนื่องด้วยปัญหาเรื่องสภาพอาการที่ร้อนจัดของประเทศ ก่อนจะกำหนดวันจัดการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยในระหว่างวันที่ 12 มกราคม-10 กุมภาพันธ์ 2024

สำหรับการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย มี 24 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบด้วย กาตาร์ (เจ้าภาพ), อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, ซาอุดีอาระเบีย, อิรัก, ยูเออี, โอมาน, ซีเรีย, จีน, เวียดนาม, เลบานอน, อุซเบกิสถาน, จอร์แดน, บาห์เรน, ปาเลสไตน์, คีร์กีซสถาน, อินเดีย, ทาจิกิสถาน, ไทย, ฮ่องกง, มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย

ทั้งนี้ การแข่งขันเอเซียน คัพ 2023 รอบสุดท้ายจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยทีมอันดับ 1 และ 2 ของกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย พร้อมกับอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีมจาก 6 กลุ่มจะตามเข้ารอบต่อไป

ขณะที่ความคืบหน้า โปรแกรม “ช้างศึก” ที่จะลงอุ่นเครื่อง 2 นัด กับซีเรีย วันที่ 25 มี.ค. 2566 และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) วันที่ 28 มี.ค.66 โดยทีมไทย อันดับ 111 ของโลก ส่วน ซีเรีย อันดับ 90 ของโลก และ ยูเออี ที่ 70 ของโลก จะเป็นการแข่งระดับ International ‘A’ Match

ล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่าทั้ง 2 เกมจะมีการถ่ายทอดสดทาง AIS Play ซึ่ง มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ยืนยันว่า ต้องการทีมที่แข็งแกร่งที่สุดไปแข่งขัน เป็น 2 เกมที่สำคัญมากกับทีมที่ฟีฟ่าแรงกิ้งสูงกว่า มีโอกาสเก็บแต้ม ต้องการชนะเพื่อขยับอันดับ และจะได้เห็นว่าสามารถรับมือได้มากน้อยแค่ไหน ต้องการนักเตะที่พร้อมที่สุด ที่ไม่มีอาการบาดเจ็บจะเรียกนักเตะ 23 คน และต้องการให้ทุกคนได้ลงไปสัมผัสเกม

ทั้งนี้ ทีมชาติไทยจะเรียก 26 นักเตะรวมตัวกันเพื่อฝึกซ้อมในวันที่ 20 มี.ค. ก่อนตัดเหลือ 23 คน เดินทางไปยูเออี วันที่ 23 มี.ค.