ไปไม่เป็น : เออร์ลิ่งเบราท์ ฮาแลนด์ ดาวยิงแมนเชสเตอร์ ซิตี้โดนแข้ง เรอัล มาดริดเข้ามารุมแย่งบอล ก่อนที่ทัพ “ราชันชุดขาว” จะเสมอกับ“เรือใบสีฟ้า” 1-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองชนะเลิศเลกแรก ที่ซานติอาโกเบร์นาเบว
แชมป์เก่า “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แห่งสเปนเปิดซานติอาโก เบร์นาเบว เสมอกับเต็งหนึ่ง “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 จากอังกฤษ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกแรก
มาดริด นำก่อนจากลูกยิงไกลของ “บิ๊กเหลน” วินิซิอุส จูเนียร์ ในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์ จะมาซัดไกลเหมือนกัน ซิตี้ ตามตีเสมอครึ่งหลัง โดย 7 จาก 14 ประตูของเควิน เดอ บรอยน์ ในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก นับตั้งแต่เขาเข้ามาร่วมทีมแมนฯ ซิตี้ มาจากการยิงนอกกรอบ
อย่างไรก็ตาม ประตูนี้เป็นที่ถกเถียง ดูเหมือนว่าลูกบอลจะหลุดออกด้านข้างไปแล้วก่อนการตีเสมอของ เควินเดอ บรอยน์ จะเกิดขึ้น
คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือเรอัล มาดริด กล่าวว่า สำหรับผมบอลออกไปแล้ว ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ใช้ VAR “VAR ไม่ได้ตรวจสอบเป้าหมาย บอลออกนอกสนามไปแล้ว ก็แค่นั้นแหละเทคโนโลยีได้บอกแล้ว แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ตรวจสอบ VAR ซึ่งผู้ตัดสินก็ไม่สนใจอะไรเลย!!!!!”
ยังผลให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่แพ้ 21 เกมหลังสุดในทุกรายการ(ชนะ 17 เสมอ 4) นับตั้งแต่แพ้ท็อตแน่ม 0-1 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ผลเสมอ 3 จาก 4 นัดนั้นมาจากเกมเยือนในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
ขณะเดียวกัน เรอัล มาดริด ใช้กลยุทธ์ที่ไม่ค่อยได้ใช้ในลา ลีกา นั่นคือ คุณภาพทางเทคนิคในแนวรับ โดยเฉพาะกองกลางตัวรับ เพื่อประสานกับกองหน้าเพื่อหาความสมดุล บ่อยครั้งที่พวกเขาเสียเปรียบด้านแท็กติก เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมพวกเขาถึงไม่ชนะลีกมากเท่าที่ควร แต่คุณภาพและความสามารถที่แท้จริงของพวกเขาในการป้องกันไม่ให้ทีมอื่นมาควบคุมเกมเหนือกว่าพวกเขา คือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นทีมแกร่งในยูซีแอล
แนวทางดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกือบจะยอมรับได้ว่า เมื่อเจอบอลเล่นเป็นระยะๆ ได้เก่งๆ แบบนี้วิธีแก้ไขต้องล้ำลึก เกิดจากทั้งแท็กติกและนักบอลคุณภาพสูง การแก้ไขเกมของมาดริด จะเกิดประโยชน์ได้ตรงที่ ซิตี้ มีตัวรุกและตัวรับที่ยอดเยี่ยม พร้อมกับ “ต้องมา” ในช่วงเวลาสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เทคนิคเฉพาะตัวที่มีคุณภาพ ต้องนำมาผสานกับแท็กติกเพื่อเทียบเคียงกับวิธีการของ มาดริด
สำหรับนัดต่อไป ซิตี้ จะได้กลับไปเล่นที่เอติฮัต สเตเดี้ยมในคืนวันพุธที่ 17 พฤษภาคมนี้
ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศเลกแรก ในค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม มีลงฟาดแข้ง2 คู่ เล่นในเวลา 02.00 น. เหมือนกัน เริ่มที่การปะทะกันของลูกศิษย์และอาจารย์ “หมาป่าแห่งกรุงโรม” อาแอส โรม่า ของ โชเซ่ มูรินโญ่ จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ห้างขายยา”ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่คุมทัพโดยกุนซือดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ชาบี อลอนโซ่
เจ้าบ้าน โรม่า ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่เจ้าของแชมป์ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้วในรายการนี้รอบที่ผ่านมาเอาชนะ เฟเยนูร์ด มาได้ด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 4-2 เกมนี้จะไม่มี ริค คาร์สดอร์ป, ดีเอโก้ ญอเรนเต้และมาราส์ห คุมบูลล่า ที่บาดเจ็บ ส่วน คริส สมอลลิ่ง ต้องรอทดสอบความฟิต ที่เหลืออยู่กันครบ มาในระบบ 3-4-2-1ไบรอัน คริสตานเต้ คุมแดนกลางร่วมกับ เนมานญ่า มาติช แนวรุกใช้ ลอเรนโซ่ เปเญกรินี่ ประสานงานกับ เปาโล ดิบาล่า โดยมี แทมมี่ อบราฮัม ยืนหน้าเป้า
ฝั่งผู้มาเยือน เลเวอร์คูเซ่น ของชาบี อลอนโซ่ ที่เพิ่งหยุดสถิติไม่แพ้ใครในทุกรายการเอาไว้ หลังพ่ายคารังให้กับ “แพะบ้า” เอฟซี โคโลญจน์ ในบุนเดสลีกา เยอรมนี 1-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมนี้ไม่มี พาทริค ชีค หัวหอกสาธารณรัฐเช็กที่บาดเจ็บเพียงรายเดียวเท่านั้น ที่เหลือไม่มีอะไรต้องกังวล มาในระบบเดียวกัน 3-4-2-1 นำโดย เยเรมี่ ฟริมปง, เอเซเกลปาลาซิออส, โรเบิร์ต อันดริช, มิเชล บัคเกอร์, โพลเรี่ยนเวียร์ตซ์, มุสซ่า ดิยาบี้ และอดัม ฮโลเซ็ค
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ถือว่าสูสี ผลัดกันชนะไปฝั่งล่ะ 3 ครั้ง และเสมอ 1
อีกคู่ลงเล่นในเวลาเดียวกัน “ม้าลาย” ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่จากอิตาลี จะเปิดบ้านรับการมาเยือน เซบีญ่า จากสเปน แชมป์รายการนี้มากที่สุด 6 สมัย โดยเจ้าถิ่น ยูเวนตุส รั้งรองจ่าฝูงของศึกกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี รอบที่แล้วเฉือนเอาชนะ สปอร์ติ้งลิสบอน ด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 2-1 ทีมของ มัสซิมิเลียโน่อัลเลกรี ไม่มี มัตเตีย เด ชิโญ่ แนวรับที่ยังบาดเจ็บแค่รายเดียว ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร ยึดระบบเดิม 3-5-2 นำโดยแกนหลักอย่าง ฮวน ควาดราโด้, นิโกโล่ ฟาโจลี่, เลอันโดร ปาเรเดส, อาเดรียง ราบิโอต์, ฟิลิปป์ คอสติช, อังเคล ดิ มาเรีย และดูซาน วลาโฮวิช
ทีมเยือน เซบีญ่า ภายใต้การคุมทีมของ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ถือว่าฟอร์มดี 9 เกมหลังสุดชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 1 รอบที่แล้วปราบเต็งแชมป์อย่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 5-2 เกมนี้ไม่มี โยน ฆอร์ดาน และมาร์ซาลที่บาดเจ็บ ส่วน ซูโซ่ เฟร์นานเดซ และต็องกีย์ เนียงซู ที่บาดเจ็บ นอกนั้นตามรายงานไม่มีปัญหาอะไร มาในระบบ 4-2-3-1 ตามถนัด วาง เฟอร์นานโด คุมแดนกลางร่วมกับ เนมานย่า กูเดลจ์ แนวรุกใช้ ลูคัส โอคัมโปส ประสานงานกับ อีวาน ราคิติช และไบรอัน กิล โดยมี ยุสเซฟ เอ็น-เนซรี่ เป็นตัวจบสกอร์
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ยูเวนตุส เหนือกว่าชนะ 3 เสมอ 1 และเซบีญ่า ชนะ 1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี