ในช่วงฤดูร้อนของไทย เป็นช่วงที่หลายๆ ครอบครัวได้มีโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจกัน เนื่องจากมีวันหยุดยาวและตรงกับช่วงปิดเทอม “ทะเล” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกตัวเลือกหนึ่งของครอบครัว เนื่องจากมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก และที่สำคัญยังมีอาหารทะเลเป็นอาหารจานโปรดของหลายครอบครัว
ปัจจุบันอาหารทะเลสามารถเลือกซื้อ หารับประทานได้สะดวก สามารถสั่งมารับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ในความสะดวกนั้น อาจมีสัตว์ทะเลบางชนิดที่มีพิษร้ายแรง แฝงมากับอาหารทะเล เพราะสัตว์ทะเลมีพิษเหล่านั้นมีหน้าตาที่ไม่ค่อยต่างกับอาหารทะเลที่ปลอดภัยทั่วไปเท่าไรนัก มาทำความรู้จักกับสัตว์ทะเล 3 ชนิด ที่มีพิษรุนแรงและเคยมีข่าวว่าสัตว์เหล่านี้เคยแฝงมาในอาหารทะเลทั่วไปอยู่บ่อยครั้ง
แมงดาถ้วย หรือแมงดาทะเลหางกลม หรือเห-รา หรือแมงดาไฟ เป็นแมงดามีพิษไม่สามารถรับประทานได้มีลักษณะลำตัวโค้งกลม มีหางกลม ผิวด้านบนมีขนสั้นสีน้ำตาลอมแดง ต่อจากส่วนท้องมีหางค่อนข้างกลมไม่มีสันและไม่มีหนาม พบอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและตามคลองในป่าชายเลน ฝั่งอ่าวไทยจะพบแมงดามากที่สุดตามพื้นที่แนวชายฝั่งของทะเลตั้งแต่จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์จนถึงชุมพร และพบได้ในฝั่งทะเลอันดามันตั้งแต่สตูลไปจนถึงระนอง
จากข้อมูลทางวิชาการ พบว่า สารพิษที่พบอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดาถ้วย คือสารเทโทรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) และซาซิท็อกซิน (Saxitoxin) ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับที่พบในปลาปักเป้า เป็นสารที่ส่งผลต่อระบบควบคุมการหายใจถึงขั้นเสียชีวิต โดยพิษในแมงดาถ้วย เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ
1.แมงดากินแพลงก์ตอนที่มีพิษ หรือกินสัตว์ทะเลอื่นๆ ที่กินแพลงก์ตอนพิษเข้าไปทำให้สารพิษไปสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดา
2.เกิดจากแบคทีเรียในลำไส้ที่สร้างพิษขึ้นมาได้เอง หรือสาเหตุประกอบกันทั้งสอง
สารพิษทั้ง 2 ชนิดนี้ เป็นสารที่ทนต่อความร้อนได้ดี การปรุงอาหารด้วยความร้อนวิธีต่างๆ เช่น ต้ม ทอด หรืออบเป็นเวลานานมากกว่าชั่วโมงไม่สามารถทำลายสารพิษชนิดนี้ได้จึงไม่ควรนำมาบริโภคอย่างเด็ดขาด
สำหรับผู้ได้รับพิษจากแมงดาทะเล อาการมักจะแสดงภายหลังรับประทานประมาณ 10-45 นาที หรืออาจช้าไปจนถึง3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับแหล่งที่อยู่อาศัยของแมงดา ฤดูกาล จำนวนที่รับประทาน หรือปริมาณของสารพิษที่ได้รับ เช่น รับประทานไข่แมงดาถ้วย อาการพิษจะเกิดรุนแรงกว่ารับประทานเฉพาะเนื้ออาการมักเริ่มจากมึนงง รู้สึกชาบริเวณลิ้น ปาก ปลายมือ ปลายเท้าและมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง เริ่มจาก มือ แขน ขา ตามลำดับรวมทั้งอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย บางราย อาจมีน้ำลายฟูมปาก เหงื่อออกมาก พูดลำบาก ตามองเห็นภาพไม่ชัด ในรายที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหายใจลำบาก เนื่องจากกล้ามเนื้อกระบังลมไม่ทำงาน ระบบหายใจล้มเหลว หมดสติ และสมองขาดออกซิเจนหากช่วยไม่ทันอาจเสียชีวิตได้ภายใน 6-24 ชั่วโมง
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากได้รับพิษ คือ ทำให้ผู้ป่วยหายใจคล่องที่สุด และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด หากผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการผายปอดจนกว่าจะถึงโรงพยาบาล ห้ามให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารน้ำหรือยา เนื่องจากผู้ป่วยอาจเกิดอาการสำลักได้ กรณีท่านไม่สามารถแยกความแตกต่างของแมงดาทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ได้ สามารถสอบถามข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัดใกล้บ้านท่าน หรือกรมประมง โทร.02-5620600
ปลาปักเป้า มีสารเทโทรโดทอกซิน (Tetrodotoxin) เป็นสารพิษที่เกิดจากสาหร่ายเซลล์เดียว กลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต เมื่อปลากินสาหร่ายเข้าไปทำให้เกิดพิษ สะสมอยู่ในตัวปลาเพื่อใช้ป้องกันตัวจากการถูกกินโดยสัตว์อื่นพิษชนิดนี้พบได้ในวงศ์ปลาปักเป้า ซึ่งสะสมอยู่ในอวัยวะ แต่ละส่วนของปลาปักเป้ามีปริมาณการสะสมของพิษไม่เท่ากัน ส่วนที่สะสมพิษมาก ได้แก่ รังไข่ อัณฑะ ตับ ผิวหนัง และลำไส้ แต่พบน้อยในกล้ามเนื้อการปรุงปลาปักเป้าเพื่อการรับประทาน นิยมกันมากในแบบอาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะการทำเป็นซาซิมิหรือปลาดิบ ในประเทศญี่ปุ่น พ่อครัวที่จะแล่เนื้อปลาและปรุงต้องขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจากทางการเสียก่อน สำหรับในประเทศไทย เนื้อปลาปักเป้า มักพบ ปะปนจากการจำหน่ายเป็นเนื้อปลาที่แล่แล้วในราคาถูกในตลาดเรียกกันว่า “ปลาเนื้อไก่” ซึ่งอวดอ้างกันว่าเป็นปลาเนื้อไม่คาว สุกแล้วเนื้อขาวสวย หรือในรูปผลิตภัณฑ์ปลาแปรรูปอื่นๆ เช่น ลูกชิ้นปลา ปลาเส้น
กองประชาสัมพันธ์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี