การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนีฤดูกาล 2022-23 เดินทางถึงมาเกมสุดท้ายที่ใกล้จะได้บทสรุปทุกอย่างในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม จะลงทำการแข่งขันพร้อมกับ 9 คู่ 9 สนามในเวลาเดียวกัน 20.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ไฮไลท์สำคัญคือการลุ้นแชมป์ระหว่าง “เอฟซี ฮอลลีวู้ด” บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ 10 สมัยติด ที่ต้องออกไปเยือน “แพะบ้า” เอฟซี โคโลญจน์
ส่วนคู่แข่งคือจ่าฝูงในเวลานี้อย่าง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ได้เล่นในบ้านดวลกับ ไมนซ์ 05 การแข่งขันครั้งนี้จะถ่ายทอดสดผ่านทางช่องพีพีทีวีเอชดี 36
สถานการณ์ปัจจุบัน ดอร์ทมุนด์ ขึ้นนำจ่าฝูงเป็นที่เรียบร้อย ด้วยการมี 70 คะแนน ประตูได้เสียบวก 39 ขณะที่บาเยิร์นฯ 68 คะแนน ประตูได้เสียบวก53 โดยนัดสุดท้ายวันเสาร์นี้ ดอร์ทมุนด์ จะเล่นในบ้านเจอกับ ไมนซ์ 08 ที่ลอยตัวอยู่กลางตาราง ฟากของบาเยิร์นฯ จะไปเยือน เอฟซี โคโลญจน์ ที่ลอยตัวแล้วเช่นกัน
ในกรณีกติกาการนับคะแนนบุนเดสลีกา เยอรมนี 1.คะแนน(ดอร์ทมุนด์ ดีกว่า 2 แต้ม), 2.ผลต่างประตูได้เสีย(บาเยิร์นฯ ดีกว่า 14 ลูก),3.การทำประตู(บาเยิร์นฯ ดีกว่า 9 ลูก), 4.ผลการพบกันโดยตรง หรือ เฮด ทูเฮด(ดอร์ทมุนด์ เสมอ บาเยิร์นฯ 2-2 และ บาเยิร์นฯ ชนะ 4-2)
ข้อแม้ก็คือ ดอร์ทมุนด์ ชนะทุกอย่างจะจบทันที แต่สำหรับกรณีปัจจุบันจะเกิดขึ้นได้นั่นเกินข้อ 2 ก็คือ ดอร์ทมุนด์ เสมอ และบาเยิร์นฯ ชนะ
20.30 น. เอฟซี โคโลญจน์ - บาเยิร์น มิวนิค เจ้าบ้าน เอฟซี โคโลญจน์ สถานการณ์ลอยตัวไม่ได้ลุ้นอะไรแล้ว รั้งอันดับ 10ของตาราง แต่ทีมของ สเตฟเฟ่น เบาม์การ์ท ยังไม่ปล่อยจอย 5 เกมหลังสุดชนะได้ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 นัดนี้ขาดสองแนวรุกอย่างมาร์ค อุธห์ และสเตฟเฟ่น ทิกเกส ที่ยังบาดเจ็บ นอกนั้นตามรายงานไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล แกนหลักถือว่าอยู่กันครบ มาในระบบ 4-5-1 นำโดยลินตัน ไมน่า, เดยัน ลูบิซิช, เอลเยส ซิกิรี่, เอริคมาร์เทล, โฟลเรียน ไคนซ์ และดาวี่ เซลเก้
ฝั่งผู้มาเยือน พลาดท่าทำหมูกรอบชิ้นโตหกกลางสี่แยกด้วยการพังคารังพ่ายให้กับ แอร์เบไลป์ซิก 1-3 จนเสียตำแหน่งจ่าฝูงไม่ได้เป็นฝ่ายคุมเกมอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม โธมัส ทูเคิ่ล ต้องกระตุ้นลูกทีมให้เก็บชัยในเกมนี้ ก่อนที่จะไปลุ้นดอร์ทมุนด์ ซึ่งยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ลูก้าส์แอร์กนองเดซ, มานูเอล นอยเออร์ และอัลฟองโซ่เดวีส ที่บาดเจ็บ ส่วน เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ก็ไม่ฟิต มาในสูตรเดิม 4-2-3-1 โยชัว คิมมิชคุมแดนกลางร่วมกับ เลออน กอเร็ตซ์ก้า แนวรุกใช้ คิงสลีย์ โกมาน, โธมัส มุลเลอร์ และเลรอย ซาเน่ โดยมี แซร์ก นาบรี้ ถูกดันไปยืนหน้าเป้า
20.30 น. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ - ไมนซ์ 05 เจ้าถิ่น “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังเข้าใกล้แชมป์ที่พวกเขารอคอยมายาวนานถึง 10 ปี ไม่น่าเชื่อว่าคนที่กำลังจะทำให้ฝันนั้นเป็นจริงคือ เอดิน แทร์ซิซ เฮดโค้ชที่ก้าวขึ้นมาจากตำแหน่งผู้ช่วย ขวัญกำลังใจในทีมถือว่ายอดเยี่ยม แต่ยังต้องลุ้นหนักว่า จู๊ดเบลลิ่งแฮม มิดฟิลด์คนสำคัญจะพร้อมลงเล่นหรือไม่หลังมีอาการบาดเจ็บพลาดเกมที่แล้ว นอกนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล มาในระบบ 4-1-4-1 เอ็มเร่ ชาน ทำหน้าที่ปัดกวาดหน้าแนวรับ ที่เหลือยืนแบบหน้ากระดานนำโดย ดอนเยลล์ มาเล่น,ยูเลี่ยน บรันด์ท, จู๊ด เบลลิ่งแฮม และคาริม อเดเยมี่ โดยมี เซบาสเตียนฮัลแลร์ เป็นหน้าเป้า
ฝั่งผู้มาเยือน ไมนซ์ 05 ของ โบ สเวนส์สัน รั้งอันดับ 9 ของตาราง ช่วยหลังปล่อยจอยไม่เอาอะไรเลย แพ้มา 4 เกมติด พร้อมโดนทะลวงตาข่ายไปถึง 14 ประตู แถมเกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งานตัวทีเด็ดอย่าง ลูโดวิชอาฌอร์ก ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง โจนาธานเบอร์คาร์ดต์ และซิลแวง วิดแมร์ ที่บาดเจ็บด้วย ส่วน โรบิน เซนต์เนอร์นายทวารมือหนึ่งต้องทดสอบความฟิตนอกนั้นเล่นได้หมด แนวรุกฝากความหวังไว้ที่ มาร์คุส อิงก์วาร์ทเซ่น, อี แจ-ซุง และคาริม โอนิซิโว่
บทวิพากษ์ : เกมนัดสำคัญของ “เสือเหลือง” ที่พวกเขาต้องทุ่มเททุกอย่างลงไปเพื่อคว้า 3 คะแนน ก้าวขึ้นไปแชมป์ที่รอคอย ทุกอย่างเป็นใจให้กับพวกเขาอย่างมาก ได้เล่นในบ้านของตัวเองจ่อหน้าแฟนบอลกว่า 8 หมื่น และเจอกับคู่แข่งที่ไม่ได้ลุ้นอะไรแล้ว แถมฟอร์มยังออกทะเลแบบกู่ไม่กลับอีก เชื่อว่าถ้า ดอร์ทมุนด์ไม่กดดันจนเกร็งกันไปเอง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับการคว้าชัยในเกมนี้ พร้อมกับเป็นแชมป์ลีกหนแรกในรอบ 10 ปี
สำหรับโซนตกชั้นยังคงต่อสู้กันจนถึงหยดสุดท้าย มีอยู่ 4 ทีมที่ต้องลุ้นคือ เอาก์สบวร์ก 34 คะแนน, สตุ๊ตการ์ท 32 คะแนน, โบคุ่ม 32 คะแนน และชาลเก้ 31 คะแนน
# ฟันธงบุนเดสลีกา นัดสุดท้าย
เอฟซี โคโลญจน์ 1-2 บาเยิร์น มิวนิค
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 4-2 ไมนซ์ 05
แอร์เบ ไลป์ซิก 2-1 ชาลเก้ 04
อูนิโอน เบอร์ลิน 2-0 แวร์เดอร์ เบรเมน
มึนเช่นกลัดบัค 2-2 เอาก์สบวร์ก
ไอทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 1-2 ไฟร์บวร์ก
โวล์ฟสบวร์ก 3-0 แฮร์ธ่า เบอร์ลิน
โบคุ่ม 2-1 เลเวอร์คูเซ่น
สตุ๊ตการ์ท 2-1 ฮอฟเฟ่นไฮม์