จานนี่ อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า กล่าวว่า เขาต้องการพูดแต่เรื่องดีๆ ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2023 ที่จะจัดขึ้นในออสเตรเลีย กับ นิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ 20 กรกฏาคม-20 สิงหาคมนี้ โดยเฉพาะเมื่อ อินฟานติโน่ ถูกถามเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ เช่น ความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศ

ในการแถลงข่าวที่อ๊อกแลนด์ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงที่ใหญ่ที่สุดจะเริ่มต้นขึ้น เนื่องจากมีถึง 32 ทีม เข้าแข่งรอบสุดท้ายนั้น อินฟานติโน่ บอกว่าเขารู้สึกเหนื่อยหลังจากเพิ่งมาถึงนิวซีแลนด์

“มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่ได้มาที่นี่ สำหรับพวกคุณที่รอฟังว่าผมรู้สึกยังไงในวันนี้ ผมอยากจะบอกว่า ผมรู้สึกเหนื่อยเพราะเครื่องเพิ่งลงจอด แต่ผมก็รู้สึกมีความสุขมาก”

ทีมของออสเตรเลียวิพากษ์วิจารณ์ความไม่เท่าเทียมทางเพศในเงินรางวัลฟุตบอลโลก และข้อเท็จจริงที่ว่าบางประเทศไม่มีสิทธิ์ในการเจรจาต่อรองร่วมกันด้วยซ้ำไป

“จนถึงวันที่ 20 สิงหาคมที่จะเป็นเกมรอบชิงชนะเลิศ คุณจะได้ยินแต่สิ่งดีๆ จากผมเกี่ยวกับทุกสิ่งและทุกๆ คน และถ้าใครยังไม่พอใจกับบางสิ่ง ผมคงต้องขอโทษจริงๆ ณ วันที่ 21 สิงหาคม เรามุ่งเน้นไปที่ประเด็นอื่นๆ ทั่วโลก เราจะจัดการกับปัญหาทั้งหมดที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่อย่างจริงจัง เราได้ทำขั้นตอนสำคัญและกำหนดเส้นทางแล้ว”

เป็นครั้งแรกที่ฟีฟ่าจะจ่ายเงินโดยตรงให้กับผู้เล่นในการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง จำนวนเงินเริ่มตั้งแต่ประมาณ 24,000 ปอนด์ต่อผู้เล่นหนึ่งคน สำหรับรอบแบ่งกลุ่ม ไปจนถึงมากกว่า 200,000 ปอนด์ที่จัดสรรให้กับนักเตะที่เป็นแชมเปี้ยน

“ไม่ว่าเราจะจ่ายเงินอะไรก็ตาม เราทำผ่านสมาคมฟุตบอลของชาตินั้นๆ จากนั้นสมาคมจะจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องให้กับผู้เล่นของพวกเขา แต่หนนี้มันแตกต่างกันออกไปแต่เรายังคงต้องการทำงานกับทุกฝ่ายให้งานเดินหน้าอย่างรวดเร็วที่สุด หลายคนที่ยังเชื่อว่าฟุตบอลหญิงไม่ใช่เกมที่ยอดเยี่ยม หรือไม่สนุก หรือเป็นเกมฟุตบอลชายที่แย่ แต่เมื่อพวกเขาดูเกมของผู้หญิงเป็นครั้งแรก พวกเขาจะเห็นว่าเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมและมันสนุกสนานมาก”

ประธานฟีฟ่ากล่าวต่อไปว่า ระดับของบอลหญิงยกระดับและเติบโตขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเราต้องการเห็นทั่วโลกอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ของการนำฟุตบอลหญิงถ่ายทอดโดยผู้แพร่ภาพกระจายเสียงหลักไปยังประชาชนในประเทศนั้้นๆ เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวในการโปรโมทเกมการแข่งขัน

ในการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 9 ของการจัดแข่งขันชิงเงินรางวัลรวมถึง 110 ล้านเหรียญดอลลาร์ มีทั้งสิ้น 10 สนาม จาก 9 เมือง ประกอบด้วย ออสเตรเลีย 5 เมือง ซิดนีย์ 2 สนาม สเตเดี้ยม ออสเตรเลีย กับซิดนีย์ฟุตบอล สเตเดี้ยม, บริสเบน/แลง พาร์ค, เมลเบิร์น/เมลเบิร์น เรคตันกูลาร์สเตเดี้ยม, เพิร์ท/เพิร์ท เรคตันกูล่าร์สเตเดี้ยม, แอดิเลด/ฮินด์มาร์ช สเตเดี้ยม

นิวซีแลนด์ 4 เมือง อ๊อกแลนด์/อีเดน พาร์ค, เวลลิงตัน/เวลลิงตัน เรจินอลสเตเดี้ยม, ดูเนดิน/ฟอร์ซิธ บาร์ สเตเดี้ยม และแฮมิลตัน/ไวกาโต้ สเตเดี้ยม

ขณะที่ 32 ทีมที่เข้าแข่งขัน ไม่มีทีมชาติไทยที่ตกรอบคัดเลือก หลังจากเคยเข้ารอบมาแล้วถึง 2 สมัยติดต่อกัน โดยมีทั้งหมดถึง 8 ชาติ ที่เข้าร่วมครั้งแรกนั่นคือ เวียดนาม กับฟิลิปปินส์ สองชาติจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, โมร็อกโก, แซมเบีย, เฮติ, ปานามา, โปรตุเกส และไอร์แลนด์ โดยแบ่งการดวลแข้งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งแบบพบกันหมดแล้วนำอันดับ 1 กับ 2 ของแต่ละสายเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ 16 ทีมต่อไป

สรุปการแบ่งกลุ่มมีดังนี้ กลุ่มเอ/นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, ฟิลิปปินส์, สวิตเซอร์แลนด์, กลุ่มบี/ออสเตรเลีย, ไอร์แลนด์,ไนจีเรีย, แคนาดา, กลุ่ม ซี/สเปน, คอสตาริกา,แซมเบีย, ญี่่ปุ่น, กลุ่ม ดี/อังกฤษ, เฮติ,เดนมาร์ก, จีน, กลุ่มอี/สหรัฐอเมริกา,เวียดนาม, เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส, กลุ่มเอฟ/ฝรั่งเศส, จาเมกา, บราซิล, ปานามา, กลุ่มจี/สวีเดน, แอฟริกาใต้, อิตาลี,อาร์เจนตินา, กลุ่มเอช/เยอรมนี, โมร็อกโก,โคลอมเบีย และเกาหลีใต้

สำหรับตัวเก็งที่จะเป็นแชมป์ เต็ง 1 สหรัฐอเมริกา แชมป์เก่า 13-5, อังกฤษ 9-2, สเปน 5-1, เยอรมนี 8-1, ฝรั่งเศส 12-1, ออสเตรเลีย 10-1 ส่วนเต็งบ๊วยคือ ฟิลิปปินส์ 4,000-1

เกมคู่เปิดสนาม จะเป็นการดวลแข้งระหว่างเจ้าภาพร่วม นิวซีแลนด์ พบกับ นอร์เวย์ ในวันพฤหัสบดี และออสเตรเลีย พบกับ ไอร์แลนด์ ที่ซิดนีย์